ประสิทธิผลของการบริหารยา Paclitaxel ช่วงชั่วโมงแรก ในการลดอุบัติการณ์ ภาวะภูมิไวเกินของผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรงพยาบาลอุตรดิตถ์

ผู้แต่ง

  • สายฤดี นาคสนอง โรงพยาบาลอุตรดิตถ์

คำสำคัญ:

ภาวะภูมิไวเกิน (HSRs), ยา Paclitaxel, โรคมะเร็ง

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: เปรียบเทียบอัตราการเกิดภาวะภูมิไวเกินระหว่างการบริหารยา paclitaxel แบบเดิมกับแบบใหม่ด้วยวิธีลดอัตรา
การหยดยาในชั่วโมงแรก
วิธีการศึกษา: ศึกษาในผู้ป่วยมะเร็งที่รับยาเคมีบำบัด paclitaxel อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยการคัดเลือกแบบสุ่ม ขนาดตัวอย่างกลุ่ม
บริหารยาแบบเดิม เก็บข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2559 จำนวน 91 ราย กลุ่มบริหารยาแบบใหม่เก็บข้อมูลไปข้างหน้า
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 ถึงกรกฎาคม 2561 จำนวน 80 ราย รวมกลุ่มตัวอย่าง 171 ราย เครื่องมือรวบรวมข้อมูลได้แก่
เวชระเบียนผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และแบบบันทึกการเกิดภาวะภูมิไวเกิน วิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐาน ลักษณะทางคลินิก
ของการเกิดภาวะภูมิไวเกิน ช่วงเวลาที่เกิดและความรุนแรงในการเกิดภาวะภูมิไวเกิน สถิติที่ใช้ได้แก่ exact probability test
และ independent t-test
ผลการศึกษา: การเกิดภาวะภูมิไวเกินระหว่างกลุ่มบริหารยาแบบใหม่ และกลุ่มบริหารยาแบบเก่า ด้วยการลดอัตราการหยด
ยา Paclitaxel ใน 1 ชั่วโมงแรกพบว่าทั้ง 2 กลุ่มเกิดภาวะภูมิไวเกินทั้งหมดโดยช่วง 15 นาทีแรกของการให้ยา กลุ่มบริหารยา
แบบใหม่เกิดภาวะภูมิไวเกินร้อยละ 50 ในขณะที่กลุ่มบริหารยาแบบเก่าพบร้อยละ 93.3 เมื่อเปรียบเทียบระดับความรุนแรง
ของการเกิดพบว่า กลุ่มบริหารยาแบบใหม่มีระดับความรุนแรงสูงสุด grade 1 ในขณะที่กลุ่มบริหารยาแบบเก่า พบระดับความ
รุนแรงสูงถึง grade 4 ส่วนผลกระทบของการเกิดภาวะภูมิไวเกินต่อการรักษาพบว่ากลุ่มบริหารยาแบบใหม่สามารถให้ยาครบ
ตามแผนการรักษาได้ทั้งหมด ส่วนกลุ่มบริหารยาแบบเก่าไม่สามารถให้ยาต่อได้และจำเป็นต้องหยุดการรักษาร้อยละ 86.67
เมื่อพิจารณาถึงช่วงระยะเวลาที่เกิดภาวะภูมิไว ระดับความรุนแรงของการเกิด และผลกระทบต่อการรักษา ของกลุ่มบริหารยา
แบบใหม่และกลุ่มบริหารยาแบบเก่า พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p<0.016, p<0.002 และ p<0.002
ตามลำดับ
สรุป: กลุ่มบริหารยาแบบใหม่ด้วยวิธีลดอัตราการหยดยา paclitaxel ในชั่วโมงแรกเกิดภาวะภูมิไวเกิน น้อย
กว่ากลุ่มบริหารยาแบบเดิมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และผู้ป่วยทั้งหมดสามารถรับยาครบตามแผนการรักษา
คำสำคัญ: ภาวะภูมิไวเกิน (HSRs) ยา Paclitaxel โรคมะเร็ง

เอกสารอ้างอิง

1. ธิดา นิงสานนท์. การเตรียมการตั้งหน่วยผสมยาเคมีบำบัด ใน: ธิดา นิงสานนท์, บุษบา จินดาวิจักษณ์, กฤตติกา ตัญญะแสนสุข,
สุชาดา จาปะเกษตร์, คมกฤช ศรีไสว, บรรณาธิการ. คู่มือเภสัชกร: การผสมยาเคมีบำบัด. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ปรมัตถ์
การพิมพ์; 2551. หน้า 24-32.
2. สุภัสร์ สุบงกช. หลักในการบริหารยาเพื่อป้องกันพิษและอาการไม่พึงประสงค์จากยาต้านมะเร็งใน:ธิดา นิงสานนท์, บุษบา
จินดาวิจักษณ์, กฤตติกา ตัญญะแสนสุข, สุชาดา ฐาปะเกษตร์, คมกฤษ ศรีไสว, บรรณาธิการ. คู่มือเภสัชกร: การผสมยาเคมี
บำบัด. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพฯ: ปรมัตถ์การพิมพ์;2551. หน้า 192-209.
3. หน่วยเคมีบำบัด โรงพยาบาลอุตรดิตถ์. รายงานข้อมูลการให้บริการผู้ป่วยรับยาเคมีบำบัดประจำปี2557 – 2560. โรงพยาบาล
อุตรดิตถ์. 2560
4. Rowinsky EK, Donehower RC. Paclitaxel (Taxol). N Engle J Med 1995;332:1004-14.
5. โกสินทร์ วิระษร. ภาวะฉุกเฉินทางมะเร็งวิทยาที่พบบ่อย Common Oncological Emergencies. ศรีนครินทร์เวชสาร 2558;
30 (2): 200-211
6. Hypersensitivity Reactions. Oncology. TV.2017 ; (cited 2017 Nov 2) Available from : http://www.oncology.
tv/SymptomManagement/HypersensitivityReactions.aspx
7. ณัฐยา พั่วทัด. การยืดระยะเวลาในช่วงแรกของการให้ยาในกลุ่ม Paclitaxel เพื่อป้องกันการเกิด Hypersensitivity reaction.
(อินเตอร์เน็ต) เชียงใหม่: หน่วยให้ยาเคมีบำบัด2 โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่;2557 (เข้าถึงเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2560).
เข้าถึงได้จาก : https://w2.med.cmu.ac.th/nis/downloads/?p=3250
8. อรอมล มาลีหวล, กชชุกร หว่างนุ่ม, เจษฎา มณีชวขจร, สุดสวาท เลาหวินิจ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะภูมิไวเกิน.
วารสารกรมการแพทย์ 2559 ; 41 : 105 -117
9. Gobel BH. Chemotherapy-induced hypersensitivity reactions. OncolNurs Forum 2005 ; 5 : 1027-35
effects.
10. Coping with Cancer.American cancer society (Internet). America:American cancer society. 2017 ; (cited 2017
Nov 2) Available from : https://www.cancer.org/treatment/treatments-and-side-effects/emotional-sideeffects.
html
11. Common Terminology Criteria for Adverse Events (CTCAE) Version 5.0 (Internet).2017 (updated: 2017 Nov
27; cited 2020 Oct 20). Available from: https://ctep.cancer.gov/protocoldevelopment/electronic_applica
tions/docs/CTCAE_v5_Quick_Reference_5x7.pdf.
12. ชำนาญ เกียรตพิ รี กลุ . การใหย้ าปอ้ งกนั การเกดิ ภาวะภมู ไิ วเกนิ (Hypersensitivity reactions) จากยา Paclitaxel. ศรนี ครนิ ทร์
เวชสาร 2548;20(2) : 99-104.
13. Toshiaki Sendo, Naoko Sakai, Yoshinori Itoh, Hiroaki Ikesue, Hiroaki Kobayashi, Toshio Hirakawa, et al.Incidence
factors for paclitaxel hypersensitivity during ovarian cancer chemotherapy.Cancer Chemotherapy 2005;
Volume 56: 91-96
14. สายฝน เตวิชัย. ระบาดวิทยาของการเกิดภาวะภูมิไวเกินจากการใช้ยา Paclitaxel ในโรงพยาบาลมะเร็งลำปาง ปี 2556-
2558. ลำปาง: โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง: 2558 (เข้าถึง 25 สิงหาคม 2561) เข้าถึงได้จาก http://www.lpch.go.th/km/
uploads/20170125143113365781.pdf.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-12-30

รูปแบบการอ้างอิง

1.
นาคสนอง ส. ประสิทธิผลของการบริหารยา Paclitaxel ช่วงชั่วโมงแรก ในการลดอุบัติการณ์ ภาวะภูมิไวเกินของผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรงพยาบาลอุตรดิตถ์. HSCR [อินเทอร์เน็ต]. 30 ธันวาคม 2020 [อ้างถึง 5 ธันวาคม 2025];35(2):45-56. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/hscr/article/view/253432

ฉบับ

ประเภทบทความ

Original Articles (นิพนธ์ต้นฉบับ)
Bookmark and Share