การจัดทำค่าปริมาณรังสีอ้างอิงในการตรวจทางรังสีวินิจฉัยในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
คำสำคัญ:
ปริมาณรังสีอ้างอิง, รังสีวินิจฉัย, โรงพยาบาลจุฬาภรณ์บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อจัดทำปริมาณรังสีอ้างอิงในการตรวจทางรังสีวินิจฉัยของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และเปรียบเทียบกับค่าปริมาณรังสีอ้างอิงดังกล่าวกับค่าปริมาณรังสีอ้างอิงของประเทศไทยและนานาชาติ วิธีการศึกษา: เก็บค่าปริมาณรังสีเชิงพื้นที่ในตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป ค่าปริมาณรังสีเฉลี่ยที่ต่อมน้ำนมในการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านม ค่าปริมาณรังสีเชิงพื้นที่จากการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ร่วมรักษา ค่า Volumetric computed tomography dose index (CTDIvol) และ Dose length product (DLP) จากการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ จากกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วย 850 ราย (เครื่องเอกซเรย์ทั่วไป 400 ราย เครื่องเอกซเรย์เต้านม 50 ราย เครื่องเอกซเรย์ร่วมรักษา 200 รายและเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 200 ราย) เป็นการศึกษาย้อนหลังระหว่างเดือน มกราคม- ธันวาคม 2564 แล้วหาค่าปริมาณรังสีอ้างอิงของโรงพยาบาลเปรียบเทียบค่าปริมาณรังสีอ้างอิงดังกล่าวเปรียบเทียบกับค่าปริมาณรังสีอ้างอิงของประเทศไทย และนานาชาติ ผลการศึกษา: ค่าปริมาณรังสีอ้างอิงการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป ส่วนศีรษะท่า AP มีค่าเท่ากับ 0.38 Gy.cm2 ท่า LAT มีค่าเท่ากับ 0.60 Gy.cm2 ส่วนทรวงอกเท่ากับ 0.10 Gy.cm2 ส่วนช่องท้องมีค่าเท่ากับ 0.69 Gy.cm2 ส่วนกระดูกเชิงกรานมีค่าเท่ากับ 0.70 Gy.cm2 และกระดูกสันหลังส่วนเอวท่า AP มีค่าเท่ากับ 1.82 Gy.cm2 ท่า LAT มีค่าเท่ากับ 2.30 Gy.cm2 การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมค่าปริมาณรังสีอ้างอิงของค่าปริมาณรังสีเฉลี่ยที่ต่อมน้ำนม มีค่าเท่ากับ 2.02 mGy การตรวจด้วยเอกเรย์ร่วมรักษาพบว่าค่าปริมาณรังสีอ้างอิง ในการตรวจ TACE มีค่าเท่ากับ 329.07 Gy.cm2 และการตรวจ PTBD มีค่าเท่ากับ 3.58 Gy.cm2 และการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ส่วนศีรษะ ส่วนทรวงอกและส่วนช่องท้อง พบว่าค่าปริมาณรังสีอ้างอิงของค่าปริมาณรังสี CTDIvol ในการตรวจมีค่าเท่ากับ 46.35 mGy, 8.83 mGy และ 8.91 mGy ตามลำดับ บทสรุป: ปริมาณรังสีอ้างอิงส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มีค่าต่ำกว่าเปรียบกับค่าปริมาณรังสีอ้างอิงของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ประเทศไทย พ.ศ. 2564 และ พ.ศ. 2566 และค่าปริมาณรังสีอ้างอิงของต่างประเทศ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุข. ค่าปริมาณรังสีอ้างอิงในการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยทางการแพทย์ของประเทศไทย. กรุงเทพฯ:บียอนด์ พับลิสชิ่ง;2564
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุข. ค่าปริมาณรังสีอ้างอิงในการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยทางการแพทย์ของประเทศไทย. กรุงเทพฯ:บียอนด์ พับลิสชิ่ง;2566
National Diagnostic Reference Levels (NDRLs): Diagnostic radiology: national diagnostic reference levels; 2020. https://www.gov.uk/government/ publications/diagnostic-radiology-national-diagnostic-reference-levels-ndrls/ndrl
ไพรัตน์ มุนี. การศึกษาระดับรังสีอ้างอิงสําหรับการถ่ายภาพรังสีดิจิทัล: กรณีศึกษาโรงพยาบาล ศิริราช. วารสารรังสีวิทยาศิริราช. Vol.5 No.1 January-June 2018.
National Diagnostic Reference Levels in Japan (2020) Japan: Japan Network for Research and Information on Medical Exposure (J-RIME); 2020. https://www.jsmp.org/en/info/national-diagnostic-reference-levels-in-japan-2020- has-been-released/
ฉัตรสุดา ส่งแสง, กมลชนก หมดมลทิน, กรภัทร พันธ์อุบล. การศึกษาระดับปริมาณรังสีอ้างอิงสำหรับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัล ณ ศูนย์ถันยเวชช์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์. วารสารรังสีเทคนิค. 2562;44(1):1-7.
ทินกร ดอนมูล, ธัญรัตน์ ชูศิลป์. การกำหนดค่าปริมาณรังสีอ้างอิงสำหรับการตรวจวินิจฉัยด้วย
เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ตรวจบ่อยในกลุ่มโรงพยาบาลมะเร็ง. วารสารรังสีเทคนิค.2564;46(1):35-42.
วลัยรัตน์ เงาดีงาม. ปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับจากการตรวจด้วยเอกเรย์คอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลสิชล.วารสารโรงพยาบาลนครพิงค์. 2564;12(2):97-107.
Dechen Pema. Radiation Dose from Computed Tomography Scanning in Patients at Songklanagarind Hospital: Diagnostic Reference Levels. J Health Sci Med Res. 2020;38(2):135-143.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และคณาจารย์ท่านอื่น ในราชวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว