ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
ความรู้, ทัศนคติ, พฤติกรรมเสี่ยง, การติดเชื้อเอชไอวี, นักศึกษามหาวิทยาลัยบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงสำรวจ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และปัจจัยด้านบุคคลที่มีความสัมพันธ์ต่อความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จำนวน 375 ราย เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามความรู้ ทัศนคติและพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV หาความเที่ยงโดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค, KR 20 และ KR 21 ได้ค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.70, 0.71 และ 0.70 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ Pearson Correlation และ Spearman’s Rank Correlation
ผลการศึกษา พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 50.10 มีความรู้เกี่ยวกับการติดเชื้อ HIV อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 46.70 (Mean = 8.81, S.D. = 2.90) มีทัศนคติอยู่ในระดับดี ร้อยละ 59.20 (Mean = 3.81, S.D. = 0.53) และมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV อยู่ในระดับต่ำ ร้อยละ 72 (Mean = 2.39, S.D. = 1.68) ส่วนปัจจัยด้านรายได้และโรคประจำตัว มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำมากต่อพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (r = 0.17, rs = 0.13 ตามลำดับ) และปัจจัยด้านเพศมีความสัมพันธ์ทางลบในระดับต่ำมากต่อพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (rs = -0.12) และปัจจัยด้านสถานภาพมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำมากต่อความรู้และพฤติกรรมเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (rs = 0.11, rs = 0.24 ตามลำดับ) ส่วนปัจจัยด้านอายุ คณะที่ศึกษาและอาชีพเสริมไม่มีความสัมพันธ์ต่อความรู้ ทัศนคติและพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษานี้สามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการให้ความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV ในสถาบันการศึกษาอย่างยั่งยืนต่อไป
References
กรมควบคุมโรค กระทรงสาธารณสุข. (2562). รายงานประจำปี 2562. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิกแอนด์ดีไซต์.
คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์. (2566). แผนปฏิบัติการยุติปัญหาเอดส์ประเทศไทย พ.ศ. 2566-2569. นนทบุรี: บริษัท เอ็นซี คอนเซ็ปต์ จำกัด
จุฑามาศ เบ้าคำกอง และสภารัตน์ คะตา. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของนักศึกษา: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น, 26(1), 66-76.
บริการข้อมูลสารสนเทศ การให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี. (2566). ข้อมูลบริการดูแลรักษา HIV ผลการตรวจ. สืบค้น 30 พฤศจิกายน 2567 จาก http://napdl.nhso.go.th/NAPWebReport/LoginServlet.
บำเพ็ญจิต แสงชาติ และคณะ. (2561). ความรู้ ทัศนคติเกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ และการปฏิบัติสุขภาวะทางเพศ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่ง. ศรีนครินทร์เวชสาร, 33(1), 49-55.
พนมพร ปิยะกุล. (2559). พฤติกรรมเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนชีวศึกษา ในจังหวัดสมุทรปราการ. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเอกการจัดการการสร้างเสริมสุขภาพ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พระมหาสุรไกร ชินพุทธิสิริ. (2562). ความรู้และทัศนคติของนักศึกษาคณะสังคมศาสตร์ต่อผู้ติดเชื้อ HIV. วารสารแสงอีสาน, 16(2), 239-249.
ภูเบศร์ ปานเพ็ชร์. (2564). พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและการเห็นคุณค่าในตนเองของชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายในคลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้งรามคำแหง. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพจิต ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ยูนิเซฟ ประเทศไทย. (2557). วิเคราะห์สถานการณ์และปัจจัยที่มีผลต่อการติดเชื้อเอชไอวีของกลุ่มเยาวชนในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: ยูนิเซฟ ประเทศไทย.
รัตติยา สองทิศ. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จังหวัดตรัง. วารสารโรคเอดส์, 31(3), 142-153.
ศูนย์รวมข้อมูลสารสนเทศด้านเอชไอวีของประเทศไทย. (2565). คาดประมาณผู้ติดเชื้อเอชไอวี. กรุงเทพฯ: กรมควบคุมโรค.
สถานีสุขภาพ. (2566). คณะกรรมการยุติปัญหาเอดส์ อุบลราชธานีวางเป้าลดการตีตรา ลดผู้ติดเชื้อ HIV. นนทบุรี: สถานีสุขภาพ.
เอกลักษณ์ ฟักสุข, ปรีย์กมล รัชนกุล และวนลดา ทองใบ. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีของเยาวชนแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 31(3), 60-73.
Best, J. W. (1977). Research in Education. (3rd ed). N.J: Prantice-Hall Inc.
Fana, T. (2021). Knowledge, attitude and practices regarding HIV and AIDS among high school learners in South Africa. The Open AIDS Journal, 15(1), 84-92. https://doi.org/10.2174/1874613602115010084
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970) Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610. https://doi.org/10.1177/001316447003000308
World Health Organization. (2023). HIV and AIDS. Retrieved November 24, 2024 from https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/hiv-aids.

Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข ที่เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน บรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข