ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติหน้าที่ในผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว = Factors influencing functional performance among heart failure patients

Abstract

           การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพยากรณ์ เพื่อศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวและศึกษาอิทธิพลของปัจจัยอาการหายใจลำบาก โรคร่วม การรับรู้ภาวะสุขภาพ ภาวะซึมเศร้าและความสม่ำเสมอในการปฏิบัติตามแผนการรักษาต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งเข้ารับการตรวจรักษา ณ คลินิกอายุรกรรมผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่ายจำนวน 111 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบประเมินอาการหายใจลำบาก แบบประเมินโรคร่วม แบบสอบถามการรับรู้ภาวะสุขภาพ แบบสอบถามภาวะซึมเศร้า  แบบสอบถามความสม่ำเสมอในการปฏิบัติตามแผนการรักษา และแบบสอบถามการปฏิบัติหน้าที่ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ถดถอยพหคูณแบบมี ขั้นตอน

            ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวมีการปฏิบัติหน้าที่อยู่ในระดับสูง (Mean=3.48, SD=0.62) การรับรู้ภาวะสุขภาพ (Beta=.39) และภาวะซึมเศร้า (Beta=-.28) สามารถร่วมกันทำนายการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวได้ร้อยละ 32 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001)

            ผลจากการศึกษานี้สามารถนำไปพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ภาวะสุขภาพ และโปรแกรมจัดการภาวะซึมเศร้าที่จะช่วยให้ผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ควรมีการวิจัยซ้ำเพื่อค้นหาตัวแปรทำนายอื่นร่วมด้วย และนำไปสู่การพัฒนาโปรแกรมที่ส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ในผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว

Factors influencing functional performance among heart failure patients

           This descriptive predictive research was aimed to explore functional performance and factors

that influence functional performance including dyspnea, co-morbidity condition, health perception, depression and medical treatment adherence among heart failure patients. The subjects of the study comprised 111 heart failure patients, randomly selected by simple random sampling technique. They received treatment at Outpatient clinic, Prapokklao Hospital, Chantaburi Province. The research instruments utilized for data elicitation consisted of demographic questionnaire, dyspnea assessment form, co-morbidity assessment form, health perception questionnaires, depression questionnaires, medical regimen adherence questionnaires and functional performance questionnaires. Descriptive statistic and stepwise multiple regression were used to analyze the data collected.

            The results revealed that the heart failure patients had high level of functional performance (Mean=3.48, SD=0.62). Health perception (Beta=.39) and depression (Beta=-.28) exclusively influenced functional performance. Health perception and depression were likely to significantly predict 32% of the variance in functional performance (p<.001).

            The research results can be beneficial for developing programs to promote health perception and depression management. This would help heart failure patients perform their functional performance effectively. It is recommended that further study be carried out to find out other predictors that could make a significant contribution to developing programs promoting functional performance among heart failure patients.