คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

Main Article Content

นนท์ จินดาเวช

บทคัดย่อ

ที่มาของปัญหา: ภาวะข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในปัจจุบันประเทศไทยพบผู้ป่วยสูงอายุมากกว่า 6 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2561 จังหวัดสมุทรปราการมีจำนวนผู้สูงอายุ 163,560 คน ซึ่งจะพบว่าเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมจำนวน 3,468 คน และอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้สูงอายุ จำนวน 21,601 คน พบว่าเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม จำนวน 479 คน     มีผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยาบาลบางพลี จำนวน 63 คน จึงจำเป็นต้องศึกษาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลผู้สูงอายุภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าต่อไป


วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและปัจจัยที่สามารถทำนายคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ


วัสดุและวิธีการ: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 100 คน โดยเก็บข้อมูลทั้งหมดในช่วงเวลาที่ศึกษา วิธีการเก็บข้อมูลใช้แบบสัมภาษณ์และแบบวัดคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ระหว่างวันที่ 1 เดือนธันวาคม ถึงวันที่ 31 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน


ผลการศึกษา: ผู้สูงอายุภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีคุณภาพชีวิตในภาพรวมอยู่ระดับระดับดี ร้อยละ 66 และระดับปานกลาง ร้อยละ 34 ปัจจัยที่สามารถทำนายคุณภาพชีวิตอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ได้แก่ ความสามารถในการดูแลตัวเอง สภาพแวดล้อมภายในบ้านและการได้รับการสนับสนุนทางสังคม โดยสามารถทำนายคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการได้ร้อยละ 31.3


สรุป: หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ควรส่งเสริมความสามารถในการดูแลตนเอง ให้คำแนะนำในการจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่เหมาะสม มีการสนับสนุนทางสังคมโดยจัดทีมสุขภาพเยี่ยมบ้านให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เพื่อทำให้ผู้สูงอายุภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่ามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

Article Details

ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

Kanjana A. Self-care ability, social support and perception of health status of chronic patients [dissertation]. Chiang Mai: Graduate School Chiang Mai University; 2002.

Bloom BS. Taxonomy of education objectives : the classification of educational goals. handbook I : cognitive domain. London: Longmans; 1956.

Cobb S. Presidential Address-1976. Social support as a moderator of life stress. Psychosom Med 1976; 38: 300-14.

House JS. Work stress and social support. Boston: Addison-Wesley,1981.

Nanthamongkolchai S, Munsawaengsub C, Taechaboonsermsak P, Powwattana A. The way of life of the elderly female who take care of grandchild in rural area of the northern Thailand. Journal of Public Health 2011;41: 29-38.

Taboonpong S, Suttharangsee W, Chaiyanka P. Evaluation of the world health organization quality of life measure form in the Thai elderly group. Journal of Gerontology and Geriatric Medicine 2001; 2(2): 6-12.

Tongdee J, Rongmuang D, Nakchatree C. Health status and quality of life among the elderly in the southern border provinces of Thailand. Nursing Journal of the Ministry of Public Health 2012;22(3):88-99.

Koponrat K, Danaidutsadeekul S, Wanitkul N, Narkbunnum R. Predictors of quality of life among osteoarthritis patients after knee arthroplasty. J Nurs Sci 2560; 35(3): 94-105

Meeprasert T, Inpha S. Quality of life in knee osteoarthritis patients with total knee arthroplasty. Journal of the Thai Orthopaedic Nurses Society 2015;20: 7-15.

Chuen-im K. Health-related quality of life amongst elderly people with osteoarthritis at a community in Samut Sakhon Province [ dissertation] . Bangkok: Graduate School Christian University.