ผลของการพอกเข่าร่วมกับการให้ความรู้ตามหลัก 3 อ. ต่ออาการปวดเข่าในผู้ป่วยเบาหวาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ที่มาของปัญหา: โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นการอักเสบของข้อที่พบได้บ่อย พบมากในกลุ่มอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ยังพบว่าอาชีพหรือการทำงานหนักก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการเข่าเสื่อม จากการคัดกรองของแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกองนาง พบมีผู้มารับบริการด้วยอาการปวดเข่าเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเบาหวาน การพอกเข่าด้วยสมุนไพรเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถบรรเทาอาการปวด บวม ของข้อเข่า และลดความรุนแรงของโรค
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบ Pain Score ก่อนและหลังการพอกเข่าร่วมกับการให้ความรู้ตามหลัก 3 อ. ในกลุ่มทดลอง และเปรียบเทียบ Pain Score หลังการทดลองระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม
วัสดุและวิธีการ: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษากึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัคร 70 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 35 คน ผู้วิจัยทำการแบ่งกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคจับโปงน้ำเข่าด้วยเกณฑ์คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวนเท่าๆ กัน จากนั้นคัดเลือกแบบจับคู่ (matched pair) โดยกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมี เพศ อายุ อาชีพ สาเหตุของการเจ็บป่วย อิริยาบถที่ใช้เป็นประจำที่ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการปวดเข่า ในอดีตท่านเคยได้รับอุบัติเหตุที่ข้อเข่าหรือไม่ ความถี่ของการปวดข้อเข่า ระยะเวลาของการเจ็บป่วย และวิธีที่เคยได้รับการรักษาเมื่อมีอาการปวดข้อเข่าใกล้เคียงกัน โดยกลุ่มทดลองเป็นกลุ่มที่ทำการพอกเข่าร่วมกับการให้ความรู้ตามหลัก 3 อ. (อาหาร, ออกกำลังกาย และอารมณ์) และกลุ่มควบคุมให้ความรู้ตามหลัก 3 อ. อย่างเดียว วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติ ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบระดับความเจ็บปวดด้วยสถิติค่าที (t – test)
ผลการศึกษา: ผลการเปรียบเทียบ Pain Score ของผู้ป่วยจับโปงน้ำเข่า มีระดับอาการปวดเข่าในกลุ่มทดลอง หลังการพอกเข่าร่วมกับให้ความรู้ตามหลัก 3 อ. มีระดับอาการปวดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และระดับอาการปวดเข่า ระหว่างในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง หลังการทดลองมีระดับอาการปวดเข่าหลังการพอกเข่าร่วมกับการให้ความรู้ตามหลัก 3 อ. มีระดับอาการปวดน้อยลง (กลุ่มทดลอง = 1.7 และกลุ่มควบคุม = 4.2 ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุป: ตำรับยาพอกเข่ามีประสิทธิผลที่ดีในการรักษาผู้ป่วยโรคจับโปงน้ำเข่า
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Nimit-arnun N. The epidemiological situation and risk assessment of knee osteoarthritis among Thai people. Journal of the Royal Thai Army Nurses 2014; 15:(3)185-94.
Ministry of Public Health. Guideline for screening/evaluation aging. Nonthaburi: Department of Medical services; 2015.
Thai Traditional Medical Rehabilitation Foundation, Ayurvedic College. Thai traditional medicine (Royal court massage). Bangkok: Foundation; 2012.
Boonchaya-anan P, Worasetakij YK. Guideline for the management of overweight and obesity. Bangkok: Network of Fatless Belly Thais, The Royal College of Physicians of Thailand; 2015.
Faculty of Medicine Siriraj Hospital. Pain Assessment and Measurement. Bankok: Mahidol University; 2006.
Somput P. Effects of Herbal Poultice with Herbal to Knee pain in Osteoarthritis Patients. Ban Nong Lum Pho health promoting hospital Amphoe AO luek of Krabi Province [dissertation]. Nonthaburi: Kanchanabhishek Institute of Medical and Public Health Technology; 2015.
Amorndoljai P, Taneepanichskul S, Niempoog S Ubonthip Nimmannit U. Efficacy and safety of ginger extract nanoparticles releieves pains in knee ostroartritis. Journal of Thai Traditional & Alternative Medicine 2015; 13: (2 Supp) 2.
Khamluang P. Efficacy of galangal in releieves pains in patient knee ostroartritis. Journal of Thai Traditional & Alternative Medicine 2015; 13: (2 Supp) 61.
Phimarn W, Caichompoo W, Sungthong B, Saramunee K. A Systematic Review and Meta-analysis on efficacy of derris scandens (Roxb.) benth for pain reliever. Thai Journal of Pharmacy Practice 2015; 7: 82-91.
Pradit W, Chomdej S, Nganvongpanit K. Researches of Thai Herbs for osteoarthritis treatment. KKU Sci J 2004; 42:289-302.
Anuthakoengkun A, Itharat A. Inhibitory effect on nitric oxide production and free radical scavenging activity of Thai medicinal plants in osteoarthritic knee treatment. J Med Assoc Thai 2014;97:116-24.
Pongprayoon U, Soontornsaratune P, Jarikasem S, Sematong T, Wasuwat S, Claeson P. Topical antiinflammatory activity of the major lipophilic constituents of the rhizome of Zingiber cassumunar. Part I: The essential oil. Phytomedicine 1997; 3: 319-22.
Li F, Nitteranon V, Tang X, Liang J, Zhang G, Parkin KL, et al. In vitro antioxidant and anti-inflammatory activities of 1-dehydro-[6]-gingerdione, 6-shogaol, 6-dehydroshogaol and hexahydrocurcumin. Food Chem 2012; 135: 332-7.
