พฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์กับการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นไทย
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ที่มาของปัญหา: วัยรุ่นไทยมีแนวโน้มมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสื่อสังคมออนไลน์เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของวัยรุ่น และวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์กับการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นสถาบันอุดมศึกษาประเทศไทย
วัสดุและวิธีการ: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยพรรณนาภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่างคือวัยรุ่นสถาบันอุดมศึกษารัฐ 5 สถาบัน จำนวน 1,321 คน สุ่มตัวอย่างแบบกลุ่มหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามออนไลน์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา และสถิติการถดถอยโลจิสติกทวิ (binary logistic regression) ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95
ผลการศึกษา: วัยรุ่นเข้าใช้สื่อสังคมออนไลน์ ร้อยละ 99.8 เฉลี่ย 7.2 ชั่วโมงต่อวัน ใช้สื่อออนไลน์เรื่องเพศ ร้อยละ 72.9 และเคยมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 27.6 ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ได้แก่ การเข้าใช้สื่อมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน (adjusted odds ratio [AOR] = 1.48, 95%CI = 1.14-1.91) การเข้าถึงคลิปการร่วมเพศแบบไม่เซนเซอร์ (AOR=2.05, 95%CI = 1.37-3.10) การแชร์คลิปโป๊หรือเซ็กซี่ในสื่อสังคมออนไลน์ (AOR = 1.83, 95%CI = 1.10-3.05) การเข้าถึงคลิปโป๊กับคู่ตนเอง (AOR = 4.31, 95%CI = 2.96-6.26) การหาความรู้เรื่องเพศ (AOR = 1.61, 95%CI = 1.09-2.40) และการหาความรู้การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคทางเพศสัมพันธ์ (AOR = 1.60, 95%CI = 1.06-2.43)
สรุป: การศึกษาพบการใช้สื่อสังคมออนไลน์มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นไทย ดังนั้นควรส่งเสริมให้มีข้อมูลเรื่องเพศที่ถูกต้องและตรงความต้องการ โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้วัยรุ่นสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง รวมถึงการส่งเสริมทักษะการรู้เท่าทันสื่อเรื่องเพศในกลุ่มวัยรุ่นที่มีแฟน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Williamson A. Social media guidelines for parliaments [Internet]. 2013 [cited 2020 Feb 2]. Available form: http://archive.ipu.org/PDF/publications/SMG2013EN.pdf
Ministry of Digital Economy and Society. The 2018 household survey on the use of information and communication technology (quarter 4). Bangkok: National Statistical Office; 2018.
NIDA Poll. Social media and the future of Thai youth [Internet]. 2017 [cited 2020 Feb 2]. Available form: http://nidapoll.nida.ac.th/file_upload/poll/document/20170331025107.pdf
Hoyrat P, Wongsawat P. Thai adolescent with early sexual intercourse. Journal of Phrapokklao Nursing College 2017; 28(2):173-82.
Roemsri J, Thularate N. The impact of social media use among adolescents. SVIT Journal 2018; 3(1):11-20.
Pounglek W. Internet Pornography: Risk caution and Prevention guideline against its effects on Thai youth. Executive Journal 2011; 31(2):223-33.
World Health Organization. Thailand 2015 global school-based student health survey. Bangkok: WHO Thailand Country Office; 2017.
Ministry of Public Health. National disease surveillance (Report 506), 2008–2015. Nonthaburi: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health; 2015.
Bureau of Epidemiology, Department of Disease Control, Ministry of Public Health. Surveillance behaviors associated with HIV infection among students in Thailand, 2018 [Internet]. 2019 [cited 2020 Apr 5]; Available form: http://aidsboe.moph.go.th/app/bookup/uploads/2020-04-281980464360.pdf
Cochran WG. Sampling techniques. 3rd edition. New York: John Wiley & Sons; 1997.
Thongnopakun S, Maharachpong N, Abdullakasim P. Factors related to the sexual behaviors among youth in Universities location in Eastern Region of Thailand. J Med Assoc Thai 2016; 99:43-50.
Sittipiyasakul V, Nuwong P, Lucksitanon R, Uamasan B. A survey on sexual experiences, opinions and sexual risk behaviors among teenage students in Thailand. Journal of Health Science 2013; 22(6):979-87.
Pupunhong W, Wuttisin K, Traitip T. Factors related to sexual behavior of teenagers in Amphoe Meuang Kalasin Province. Prae-wa Kalasin Journal of Kalasin University 2016; 3(2):54-72.
Luangchaikul W, Polyota T. Social learning processes leading to premarital sex: a case study of undergraduate students. ManutsatParitat: Journal of Humanities 2014; 35(2):37-56.
