การรับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพของเด็กที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะแต่กำเนิด
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ที่มาของปัญหา: ความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะแต่กำเนิดส่งผลกระทบอย่างมากต่อเด็กและครอบครัว ระดับความรุนแรงขึ้นอยู่กับธรรมชาติของโรคที่เด็กเป็น ส่งผลต่อการรับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพของเด็กแตกต่างกัน
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการรับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพของเด็กที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะแต่กำเนิด
วิธีการศึกษา: การวิจัยเชิงบรรยายนี้มีกลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะแต่กำเนิดอายุ 7 - 18 ปี จำนวน 121 ราย ที่มารับการตรวจรักษาที่ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 คัดเลือกแบบเจาะจง เก็บข้อมูลโดยสัมภาษณ์เด็กตามแบบสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนบุคคลและการรับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพของเด็กรวมทั้งจากเวชระเบียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย
ผลการศึกษา: เด็กมีคะแนนการรับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพอยู่ระหว่าง 20 - 63 (X = 33.3, SD = 9.4) พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80.2) รับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับต่ำ เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า เด็กส่วนใหญ่รับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพทุกด้านอยู่ในระดับต่ำด้วย โดยด้านร่างกายมีคะแนนระหว่าง 5 - 15 ( X = 8.1, SD = 2.4) ด้านจิตใจและอารมณ์มีคะแนนระหว่าง 7 - 23 ( X = 13.0, SD = 4.4) ด้านพัฒนาการและการเรียนรู้มีคะแนนระหว่าง 4 - 16 (X = 6.9, SD = 2.9) และด้านการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันมีคะแนนระหว่าง 4 - 14 ( X = 5.3, SD = 2.1) แม้ว่าการรับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพของเด็กโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับต่ำก็ตาม แต่มีเด็กจำนวนเกือบหนึ่งในสาม (ร้อยละ 31.4) ที่รับรู้ภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพด้านจิตใจและอารมณ์อยู่ในระดับปานกลาง
สรุป: บุคลากรทีมสุขภาพควรให้การดูแลช่วยเหลือด้านจิตใจและอารมณ์เด็กที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะแต่กำเนิดเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการ มีสุขภาพจิตที่ดี สามารถยอมรับกับสิ่งที่เป็น มีความภาคภูมิใจในตนเองและใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Losee JE, Gimbel ML, Rubin JP, Wallace CG, Wei FC. Plastic and reconstruction surgery. In: FC Brunicardi, Editor. Schwartz’s principles of surgery. Philadelphia: McGraw - Hill; 2015.
Rojvachiranonda N. Different faces...can be changed. Bangkok: Amarin Printing & Publishing; 2018.
Kluba S, Rohleder S, Wolff M, Haas - Lude K, Schuhmann MU, Will BE, Reinert S, Krimmel M. Parental perception of treatment and medical care in children with craniosynostosis. Int J Oral Maxillofac Surg 2016;45:1341 - 6.
Hamilton KV, Ormond KE, Moscarello T, Bruce JS, Merrell SB, Chang KW, et al. Exploring the medical and psychosocial concerns of adolescents and young adults with craniofacial microsomia: a qualitative study. Cleft Palate Craniofac J 2018;55:1430 - 9.
Roberts RM, Shute R. Children's experience of living with a craniofacial condition: perspectives of children and parents. Clin Child Psychol Psychiatry 2011;16:317 - 34.
Crerand CE, Sarwer DB, Kazak AE, Clarke A, Rumsey N Body Image and Quality of Life in adolescents with craniofacial conditions. Cleft Palate Craniofac J 2017;54:2 - 12.
Crerand CE, Rumsey N, Kazak A, Clarke A, Rausch J, Sarwer DB. Sex differences in perceived stigmatization, body image disturbance, and satisfaction with facial appearance and speech among adolescents with craniofacial conditions. Body Image 2020;32:190 - 8.
Volpicelli EJ, Pfaff MJ, Hakimi K, Bradley JP, Solem RC, Lee JC. Age - related differences in psychosocial function of children with craniofacial anomalies. Plast Reconstr Surg 2017; 140:776 - 84.
Speltz ML, Wallace ER, Collett BR, Heike CL, Luquetti DV, Werler MM. Intelligence and academic achievement of adolescents with craniofacial microsomia. Plast Reconstr Surg 2017;140:571 - 80.
Taub PJ, Lampert JA. Pediatric craniofacial surgery: a review for the multidisciplinary team. Cleft Palate Craniofac J 2011;48: 670 - 83.
Leifer G, Fleck E. Growth and development across the lifespan: a health promotion focus. 2nd ed. St.Louisi: Saunders; 2013.
Thato R. Nursing research: concepts to application. 4th ed. Bangkok: Chulalongkorn University; 2018.
Whitaker LA, Pashayan H, Reichman J. A proposed new classification of craniofacial anomalies. Cleft Palate J 1981;18:161 - 76.
Sawasdipanich N, Chaithat B, Dangsomboon A. Healthcare problems and healthcare service accessibility for children with craniofacial anomalies: caregivers’ perception. J Thai Nurs Midwifery Coun 2021;36(2):110 - 28.
Wang JC, Nagy L, Demke JC. Syndromic craniosynostosis. Facial Plast Surg Clin North AM 2016;24:531 - 4.
