ผลของการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสามีในการจัดการความเหนื่อยล้าต่อคุณภาพชีวิตของมารดาหลังคลอดครรภ์แรก

Main Article Content

จันทร์เพ็ญ อามพัฒน์
จรัญญา ดีจะโปะ
อารีรัตน์ วิเชียรประภา
มธุรดา บรรจงการ
สมควร สุขสัมพันธ์

บทคัดย่อ

ที่มาของปัญหา: ความเหนื่อยล้าของมารดาหลังคลอด เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ระยะแรกหลังคลอด โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งจากด้านร่างกาย ด้านจิตใจและด้านสถานการณ์ โดยเฉพาะมารดาหลังคลอดครรภ์แรก ซึ่งขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการตนเองในการแสดงบทบาทมารดา เช่น การเลี้ยงดูบุตร การทำงานบ้าน และบทบาทภรรยา เป็นต้น ดังนั้นการได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกในบ้าน เช่น สามี เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยลดความเหนื่อยล้าของมารดาหลังคลอดครรภ์แรก ซึ่งจะส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตของมารดาหลังคลอดดีขึ้น


วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาระดับความเหนื่อยล้า ระดับคุณภาพชีวิต และผลของโปรแกรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสามีในการจัดการความเหนื่อยล้าของมารดาหลังคลอดครรภ์แรก


วิธีการศึกษา: การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลองแบบสองกลุ่ม วัดก่อน - หลังการทดลอง (two group, pretest – posttest design) กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาหลังคลอดครรภ์แรก คลอดปกติทางช่องคลอด ณ โรงพยาบาลพระปกเกล้า คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงที่สมัครใจเข้าร่วมและทำการจับคู่กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มให้มีความใกล้เคียงกัน โดยกลุ่มควบคุมเข้าร่วมกิจกรรมตามปกติของโรงพยาบาล กลุ่มทดลองได้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 4 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ โปรแกรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสามีในการจัดการความเหนื่อยล้าของมารดาหลังคลอด เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบประเมินความเหนื่อยล้าของมารดาหลังคลอด และแบบประเมินคุณภาพชีวิตของมารดาหลังคลอด


ผลการศึกษา: เมื่อสิ้นสุดการทดลอง กลุ่มทดลองมี 26 คน กลุ่มควบคุมมี 26 คน ผลการทดลองพบว่า กลุ่มทดลองมีระดับคะแนนคุณภาพชีวิตเพิ่มสูงขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในช่วงหลังคลอดเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนความเหนื่อยล้า ทั้งก่อนทดลองและหลังทดลอง พบว่า ทั้งกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีแนวโน้มลดลง แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ


สรุป: การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสามีในการจัดการความเหนื่อยล้าของมารดาหลังคลอด สามารถลดความเหนื่อยล้า และมารดาหลังคลอดมีระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

Article Details

ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

Pugh LC, Milligan R. A framework for the study of childbearing fatigue. ANS Adv Nurs Sci 1993;15:60-70.

Piper BF, Dibble SL, Dodd MJ, Weiss MC, Slaughter RE, Paul SM. The revised Piper Fatigue Scale: psychometric evaluation in women with breast cancer. Oncol Nurs Forum 1998;25:677-84.

Theerakulchai J. Factors related to fatigue and fatigue management among Thai postpartum women [dissertation]. Chaingmai: Chaingmai University; 2004.

Taylor J, Johnson M. How women manage fatigue after childbirth. Midwifery 2010;26(3):367-75.

Deeboonno A , Theeakunchai J , Khanobdee C. The effect of including spouse support in fatigue management program on fatigue of a wife who received cesarean section. Vajira Nursing Journal 2016;18(1):24-36.

Mortazavi F, Mousavi SA, Chaman R, Khosravi A. Maternal quality of life during the transition to motherhood. Iran Red Crescent Med J [Internet]. 2014[cited 2021 Jan 25];16(5):e8443. Available form: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4082526/pdf/ircmj-16-8443.pdf

Pugh LC, Milligan R, Parks PL, Lenz ER, Kitzman H. Clinical approaches in the assessment of childbearing fatigue. JOGNN 1999;28(1):74-9.

Mahatnirunkul S, Tantipiwatthanasakul W, Pumphisanchai W. World Health Organization quality of life Bref Thai. Chaingmai: Suanprung Psychiatric Hospital; 2002.

Kummoonta K, Kantaruksa K, Baosoung C. Effect of learning promotion in fatigue management among pregnant women. Nursing Journal 2012;39(4):59-70.

Tumchuae S, Plodpluang U. A development of breastfeeding promotion program by family support. J Prapokklao Hosp Clin Med Educat Center 2015 ; 32: 6-17.

Hemadhulin S, Theerakunchai J, Phumonsakul S. The effect of selected factors on quality of life among postpartum mothers. Vajira Nursing Journal 2016 ;18(1):37-50.

Fhunpayom S, Kantaruksa K, Baosoung C. Systematic review of fatigue management among postpartum women. Nursing Journal 2014;41:60-9.