ประสิทธิผลสารสกัดราเอนโดไฟต์ของนวัตกรรมเครื่องกรองอากาศชนิดเคลื่อนที่ได้ เพื่อลดการปนเปื้อนจากเชื้อราในอากาศ
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ที่มาของปัญหา: เชื้อราฟุ้งกระจายในอากาศ เป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจ และอาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้นห้องปฏิบัติการเชื้อราวิทยา จึงต้องปราศจากการปนเปื้อนเชื้อราจากสิ่งแวดล้อม รบกวนการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรค จากปัญหาดังกล่าวจึงผลิตนวัตกรรมเครื่องกรองอากาศชนิดเคลื่อนที่ได้ มีแผ่นกรองอากาศเคลือบสารสกัดราเอนโดไฟต์ เพื่อลดการปนเปื้อนจากเชื้อรา
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาประสิทธิผลสารสกัดราเอนโดไฟต์ของนวัตกรรมเครื่องกรองอากาศ เพื่อลดการปนเปื้อนจากเชื้อรา
วิธีการศึกษา: รูปแบบการวิจัยเชิงทดลอง แบ่งเป็นห้องทดลองและห้องควบคุม โดยการเปิดจานอาหารดักเชื้อรา เก็บตัวอย่างจำนวน 25 จุด เพื่อเปรียบเทียบจำนวนและชนิดของเชื้อราในห้องเครื่องกรองอากาศชนิดเคลื่อนที่ได้ ซึ่งไม่มีการเคลือบสารสกัดและมีการเคลือบสารสกัดราเอนโดไฟต์ ระยะทำวิจัยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566 และวิเคราะห์ผลด้วยสถิติเชิงพรรณนา แสดงจำนวน และชนิดของเชื้อรา
ผลการศึกษา: ผลการใช้นวัตกรรมเครื่องกรองอากาศชนิดเคลื่อนที่ได้ เปรียบเทียบผลระหว่างไม่เคลือบสารสกัดกับมีสารเคลือบสกัดสารราเอนโดไฟต์ ด้วยอัตราการกรองอากาศที่ระดับสูง 1,346.80 CMH/hr. โดยเปิดเครื่องเป็นเวลา 0, 10, 20, 30 นาที แล้วทำการเก็บตัวอย่างจำนวน 25 จุด โดยใช้วิธีวางจานอาหารเลี้ยงเชื้อ พบว่าห้องทดลองควบคุม มีจำนวนเชื้อรา 72, 20, 12, 5 โคโลนี ตามลำดับ ชนิดของเชื้อรา คือ Penicillium spp., Alternaria spp., Aspergillus spp., Cladosporium spp., Mucor spp., Rhizopus spp. ในขณะห้องทดลองเคลือบสารสกัดสารราเอนโดไฟต์ พบจำนวนเชื้อรา 72, 1, 4, 0 โคโลนี ตามลำดับ ชนิดของเชื้อรา คือ Penicillium spp., Alternaria spp., Aspergillus spp., Cladosporium spp., Mucor spp., Rhizopus spp.
สรุป: ผลจากการศึกษานวัตกรรมเครื่องกรองอากาศชนิดเคลื่อนที่ได้ มีความสามารถสูงสุดที่ด้วยอัตราการกรองอากาศเท่ากับ 1,346.8 CMH/Hr โดยแผ่นกรองอากาศเคลือบสกัดสารราเอนโดไฟต์ ลดเชื้อราปนเปื้อนทั้งจำนวนและชนิดได้
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Ministry of Public Health. Operational manual for assessing indoor air quality for officials. Nonthaburi: Bureau of Environmental Health; 2016.
Samaneein K, Boontee K, Srisakamkullawat S, Krueawongsa Y. Exploration of airborne fungi in research building, faculty of science UbonRatchathani university. Proceedings of the 1st RMUTR National Conference; 2016 Sep 10-11; Nakhon Pathom, Thailand.
Hedayati MT, Mayahi S, Aghili R, Goharimoghadam K. Airborne fungi in indoor and outdoor of asthmatic patients' home, living in the city of sari. Iran J Allergy Asthma Immunol 2005;4:189-91.
Bush RK. Aerobiology of pollen and fungal allergens. J Allergy ClinImmunol 1989;84(6 Pt 2):1120-4.
Höppe PR. Indoor climate. Experientia 1993;49:775-9.
Meklin T, Husman T, Vepsäläinen A, Vahteristo M, Koivisto J, Halla-Aho J, et al. Indoor air microbes and respiratory symptoms of children in moisture damaged and reference schools. Indoor Air 2002;12:175-83.
Chitpirom K, Sangaroon P, Kumpila W. Fungal contamination and control management of the airborne fungi inside the spa. Burapha Science Journal 2013;18:5-14.
Sriphet B, Jansatapron S, Thongput C, Kidrob B, Thupthing N. Explore the airborne mold contamination within the laboratory. Trang: Southern regional hospital of tropical dermatology-Trang province; 2015.
Jariya H, Hengwattana P, Thongdee O. Bioactive compound of endophytic fungi isolated from herbs in botanical gardens at Walailak University against Candida spp [dissertation]. Nakhon Si Thammarat: Walailak University; 2022.
Ministry of Public Health. Clinical pathology department design manual [Internet]. 2015 [cited 2022 Jan 5]. Available from: https://hss.moph.go.th/fileupload_doc_slider/2016-11-16--165.pdf
Vanittanakom N. Medical mycology. Bangkok: P.B Foreign Book Centre; 1997.
Sutabhaha B, Likianupab P. The development of sample collector for detect microorganismsin the air. Bull Chiang Mai Assoc Med Sci 2008;41:225-38.
Netgrajang C, Duangchai O, Bunjongkarn M. The effect of the box preventing the spread of COVID-19 on the safety and confidence of pregnant women during childbirth. J Prapokklao Hosp Clin Med Educat Center 2023;40:330-8.
