ปริมาณโพแทสเซียมที่สูญเสียในน้ำล้างไตทางช่องท้องกับชนิดของเยื่อบุช่องท้องในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย

Main Article Content

Naowanit Nata
อรพันธ์ จิตประภาวัลย์
อำนาจ ชัยประเสริฐ

บทคัดย่อ

บทนำ ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีล้างไตทางช่องท้อง หนึ่งในสาเหตุที่สำคัญคือ การเสียโพแทสเซียมทางน้ำล้างไตทางช่องท้อง ซึ่งอาจจะขึ้นกับชนิดของเยื่อบุช่องท้อง


วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปริมาณของการสูญเสียโพแทสเซียมทางน้ำล้างไตทางช่องท้องต่อวัน ในเยื่อบุช่องท้องแต่ละชนิด


วิธีการดำเนินงานวิจัย ทำการศึกษาในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีการล้างไตทางช่องท้อง ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ช่วง 1 เมษายน ถึง 30 สิงหาคม 2561 โดยการตรวจระดับโพแทสเซียมและครีแอทินินในเลือด ตรวจปริมาณโพแทสเซียมและครีแอทินินในน้ำล้างไตทางช่องท้อง 24 ชั่วโมง คำนวณค่า fractional excretion of potassium (FE K)  ในผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้องที่มีข้อมูลการแลกเปลี่ยนสารของเยื่อบุช่องท้อง (peritoneal equilibration test; PET) แต่ละชนิด        


ผลการศึกษา มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 54 ราย ข้อมูลครบสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ 34 ราย พบเยื่อบุช่องท้องชนิด high (H) 7 ราย ชนิด high average (HA) 14 ราย ชนิด low average (LA) 13 ราย และไม่พบผู้ป่วยที่มีเยื่อบุช่องท้องชนิด low (L) ในจำนวนนี้ผู้ป่วยเคยมีประวัติโพแทสเซียมในเลือดต่ำ 15 ราย (ร้อยละ 44) โดยพบประวัติโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ในเยื่อบุช่องท้องชนิด H, HA, และ LA ร้อยละ 42.9, 50.0, และ 38.5 ตามลำดับ โดยรวมปริมาณโพแทสเซียมที่สูญเสียทางน้ำล้างไตทางช่องท้อง 24 ชั่วโมง เท่ากับ 27.9+6.9 มิลลิอิควิวาเลนท์ต่อวัน โดยพบว่าสูญเสียในกลุ่มเยื่อบุช่องท้องแบบ H, HA, และ LA เท่ากับ 25.6+5.6, 26.5+6.3, และ 30.8+7.2 มิลลิอิควิวาเลนท์ต่อวัน ตามลำดับ ซึ่งไม่ความแตกต่างกัน (p = 0.15) โดยรวมมีค่า FE K ของทุกกลุ่มเท่ากับร้อยละ 1.23+0.24 โดยพบค่า FE K ใกล้เคียงกันในกลุ่ม LA และ HA เท่ากับร้อยละ 1.29+0.27 และ 1.28+0.22 ตามลำดับ ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับกลุ่ม H ซึ่งมีค่า FE K เท่ากับร้อยละ 1.04+0.11 (p = 0.03)


สรุป ปริมาณโพแทสเซียมที่สูญเสียทางน้ำล้างไตทางช่องท้องเฉลี่ย 27.9+6.9 มิลลิอิควิวาเลนท์ต่อวัน โดยไม่แตกต่างกันในเยื่อบุช่องท้องชนิดต่าง ๆ แต่มีแนวโน้มสูญเสียมากในผู้ป่วยที่มีเยื่อบุช่องท้องชนิด average

Article Details

How to Cite
Nata, N., จิตประภาวัลย์ อ. . ., & ชัยประเสริฐ อ. (2021). ปริมาณโพแทสเซียมที่สูญเสียในน้ำล้างไตทางช่องท้องกับชนิดของเยื่อบุช่องท้องในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย. เวชสารแพทย์ทหารบก, 74(4), 303–309. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/rtamedj/article/view/244057
บท
นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Article)

References

1. The database of Nation Health Security Office (NHSO) 2017. ฐานข้อมูลสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) พ.ศ. 2560.
2. Khan AN, Bernardini J. Johnston JR, et al. Hypokalemia in peritoneal dialysis patients. Perit Dial Int. 1996;16(6):652.
3. Kim S. Hyponatremia and hypokalemia in peritoneal dialysis patients. In: Krediet R. Progress in peritoneal dialysis: intechopen; 2011. p.145-53.
4. Burger CM. Emergency: hypokalemia. Am J Nurs. 2004;104(11):61-5.
5. Szeto CC, Chow KM, Kwan BC, Leung CB, Chung KY, Law MC, Li PK: Hypokalemia in Chinese peritoneal dialysis patients: prevalence and prognostic implication. Am K Kidney Dis. 2005;46:128-35.
6. Chuang YW, Shu KH, Yu TM, et al. Hypokalaemia: an independent risk factor of Enterobacteriaceae pertitonitis in CAPD patients. Nephrol Dial Transplant. 2009;24(5):1603-8.
7. Chittinandana A. Peitoneal dialysis prescription and adequacy monitoring: textbook of peritoneal dialysis.กรุงเทพมหานคร: เท็กซ์ แอนด์ เจอร์นัล พับลิเคชั่น; 2551. P 189-201.
8. Mehrotra R, Ravel V, and Kalantar-Zadeh K, et al. Peritoneal Equilibration Test and Patient Outcomes. Clin J Am Soc Nephrol. 2015 Nov 6;10(11):1990–2001.
9. Xu Q, Xu F, Fan L, et al. Serum potassium levels and its variability in incident peritoneal dialysis patients. PLoS One. 2014;9(1):e86750.
10. Amirmokri P, Morgan P, et al. Intra-peritoneal administration of potassium and magnesium. Ren fail. 2007;29(5):603.
11. Tziviskou E, Musso C,et al. Prevalence and pathogenensis of hypokalemia in patients on chronic peritoneal dialysis. Int Uro Nephrol. 2003;35(3):429.
12. Port F, Young E. Fluids and electrolytes disorders in dialysis. In Kokko J, Tannen R (Eds). Fluids and electrolytes. 1996 W. B.Saunders. Philadelphia : 542-44.