การศึกษาทางกายวิภาคและรูปแบบโครงสร้างอื่นๆ ของเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำบริเวณใบหน้า (Facial artery และ vein) สำหรับการผ่าตัดย้ายเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้า

ผู้แต่ง

  • อาคม ทองชมภู โรงพยาบาลอุดรธานี

คำสำคัญ:

กายวิภาคเส้นเลือดบริเวณใบหน้า, เครื่องช่วยฟังเสียงเส้นเลือด

บทคัดย่อ

การศึกษาเชิงพรรณนานี้ ศึกษาในกลุ่มประชากรชาวไทยที่มีภาวะสมองตายในโรงพยาบาลอุดรธานี ในช่วงระยะเวลา 1 ธันวาคม 2557 – 1 กรกฎาคม 2559 โดยที่ญาติยินดีที่จะบริจาคอวัยวะ ทำการศึกษาโดยใช้ Vascular probe (8 MHz) ของเครื่องฟังเสียง (Doppler Ultrasound) รุ่น CT250R ยี่ห้อ Clear Tone™บริษัท Cooper surgical โดยการฟังเสียงการไหลของเลือด (blood fluid) ในเส้นเลือด จำแนกเป็นเส้นเลือดดำหรือแดง และตำแหน่งที่อยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับจุดอ้างอิง หลังจากนั้นทำการผ่าตัดศึกษากายวิภาค (dissection) เพื่อดูตำแหน่งจริงและเปรียบเทียบกับจุดอ้างอิง และผลจากการใช้เครื่องฟังเสียง วิเคราะห์ข้อมูลเป็นร้อยละ, ค่าเฉลี่ย และใช้สถิติวิเคราะห์ Paired T-test

วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษากายวิภาคของเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำบริเวณใบหน้า และการใช้เครื่องช่วยฟังเสียงเพื่อระบุตำแหน่งของเส้นเลือดบริเวณใบหน้า

ผลการศึกษา ผู้ป่วยที่มีภาวะสมองตาย 29 ราย ได้รับการตรวจหาตำแหน่งของเส้นเลือดบริเวณใบหน้าโดยใช้เครื่องฟังเสียง (Vascular probe Doppler Ultrasound) ในกลุ่มดังกล่าวมี 14 ราย ที่ญาติยินยอมให้ทำการผ่าตัดศึกษากายวิภาค (Dissectomy) บริเวณใบหน้า ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (79.3%) อายุตั้งแต่ 16-68 ปี (เฉลี่ย 41.5 ปี) มีสาเหตุจากอุบัติเหตุ (65.5%) การศึกษาโดยการใช้เครื่องฟังเสียง ในส่วนของเส้นเลือดแดงบริเวณใบหน้า พบว่าระยะจากคางมีค่าเฉลี่ย 6.95 ซม., ระยะจากมุมปากค่าเฉลี่ย 2.56 ซม., ระยะจากมุมปากในแนวขึ้นไปทางหางตามีค่าเฉลี่ย 1.55 ซม. สำหรับเส้นเลือดดำ พบว่าระยะจากคางมีค่าเฉลี่ย 7.39 ซม., ระยะจากมุมปากมีค่าเฉลี่ย 4.4 ซม., ระยะจากมุมปากในแนวขึ้นไปทางหางตามีค่าเฉลี่ย 4.01 ซม. สำหรับการศึกษาโดยการผ่าตัดเพื่อดูตำแหน่งทางกายวิภาค ในส่วนของเส้นเลือดแดง พบว่าระยะจากคางมีค่าเฉลี่ย 6.57 ซม., ระยะจากมุมปากมีค่าเฉลี่ย 2.5 ซม., ระยะจากมุมปากในแนวขึ้นไปทางหางตามีค่าเฉลี่ย 1.7 ซม. สำหรับเส้นเลือดดำ พบว่าระยะจากคางมีค่าเฉลี่ย 6.95 ซม., ระยะจากมุมปากมีค่าเฉลี่ย 4.51 ซม., ระยะจากมุมปากในแนวขึ้นไปทางหางตามีค่าเฉลี่ย 3.77 ซม.

สรุป ตำแหน่งของเส้นเลือดบริเวณใบหน้าที่ได้จากการใช้เครื่องช่วยฟังเสียง Doppler มีค่าใกล้เคียงกับตำแหน่งที่ตรวจพบโดยการผ่าตัดศึกษากายวิภาค โดยมีความคลาดเคลื่อน เฉลี่ย 0.06-0.44 ซม.โดยใช้สถิติวิเคราะห์ T-test ดังนั้นการใช้ Doppler จึงเป็นวิธีที่สะดวกและช่วยลดระยะเวลาในการค้นหาเส้นเลือดได้

References

1. Fogarty BJ, Khan K, Ashall G, et al. Complications of long operations: a prospective study of morbidity associated with prolonged operative time (> 6 h). Br J Plast Surg 1999 Jan;52(1):33-6.

2. Masood J, Zubia M, et al. Postoperative Complications in a General Surgical Ward of a Teaching Hospital. Pak J Med Sci 2006 April-June;22(2):171-175.

3. Lohn JW, Penn JW, Norton J, Butler PE. The Course and Variation of the Facial Artery and Vein: Implications for Facial Transplantation and Facial Surgery. Ann Plast Surg 2011;67: 184–188

4. Houseman ND, Taylor GI, Pan WR. The angiosomes of the head and neck: anatomic study and clinical applications. Plast Reconstr Surg 2000;105:2287–2313.

5. Hettiaratchy S, Butler PE. Face transplantation–fantasy or the future? Lancet 2002;360:5– 6.

6. Morris PJ, Bradley JA, Doyal L, et al. Facial transplantation: a working party report from the Royal College of Surgeons of England. Transplantation 2004;77:330 –338.

7. Siemionow M, Papay F, Alam D, et al. Near-total human face transplantation for a severely disfgured patient in the USA. Lancet 2009;374:203–209.

8. Alam DS, Papay F, Djohan R, et al. The technical and anatomical aspects of the World’s frst near-total human face and maxilla transplant. Arch Facial Plast Surg 2009;11:369–377

9. Anthony R, Kerrie A, et al. The use of color Doppler ultrasound in the assessment of vessels for facial transplantation. Ann Plast Surg 2007 Jul;59(1):82-6.

10. Zhenmin Z, Senkai L, et al. Color Doppler flow imaging of the facial artery and vein. Plast Reconstr Surg 2000 Nov;106(6):1249-53.

11. แพทยสภา (The Medical Council of Thailand).ประกาศแพทยสภา ที่ 7/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการวินิจฉัยสมองตาย. [อินเตอร์เน็ต].[เข้าถึงเมื่อ 1 กรกฎาคม 2559]. เข้าถึงได้จาก http://tmc.or.th/service_law03_2.php.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2019-03-04