การจัดการรายกรณีเพื่อส่งเสริมการจัดการภาวะน้ำเกินด้วยตนเองของผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว: การศึกษานำร่อง

ผู้แต่ง

  • สินีนาถ คำตา โรงพยาบาลอุดรธานี
  • ดลวิวัฒน์ แสนโสม คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • อภิสิทธิ์ สุขแจ่ม โรงพยาบาลเลย

คำสำคัญ:

การจัดการรายกรณี, การจัดการตนเอง, ภาวะน้ำเกิน, หัวใจล้มเหลว

บทคัดย่อ

การศึกษานำร่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการจัดการรายกรณีในการส่งเสริมการจัดการภาวะน้ำเกินด้วยตนเองในโรงพยาบาลอุดรธานี ดำเนินการศึกษาแบบวิจัยกึ่งทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังทดลอง ในกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวในโรงพยาบาลอุดรธานี จำนวน 10 ราย เก็บข้อมูลในเดือนมีนาคม 2567 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินระดับความรุนแรงของภาวะน้ำเกิน แบบสอบถาม

ความรู้เกี่ยวกับการจัดการภาวะน้ำเกินและแบบประเมินการจัดการตนเองเพื่อป้องกันภาวะน้ำเกิน ส่วนเครื่องมือที่ใช้

ดำเนินงานวิจัย คือการจัดการรายกรณี ประกอบด้วย โปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อป้องกันภาวะน้ำเกินของผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวที่ประยุกต์ใช้กรอบแนวคิดจาก Commission for Case Manager Certification ร่วมกับการใช้กรอบแนวคิดการจัดการตนเองของเครียร์ ซึ่งเครื่องมือทั้งหมดได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานด้วยสถิติเชิงพรรณนาและเปรียบเทียบคะแนนความรู้เกี่ยวกับการจัดการตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ Kruskal Wallis Test และใช้สถิติ paired T-test เปรียบเทียบคะแนนการจัดการตนเองเพื่อป้องกันภาวะน้ำเกิน

ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศชายร้อยละ70 มีอายุเฉลี่ย 44 ปี และมัธยฐาน LVEF คือ 20% ภายหลังการใช้การจัดการรายกรณีเพื่อส่งเสริมการจัดการภาวะน้ำเกินด้วยตนเองของผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว มีผู้ป่วยเกิดภาวะน้ำเกินในระยะ 28 วันหลังได้รับการจัดการรายกรณี จำนวน 1 ราย คิดเป็นอัตราอุบัติการณ์การเกิดภาวะน้ำเกิน 3.66 ต่อ 1,000 วันที่ปลอดอาการน้ำเกิน (95%CI; 0.093-20.239) มีค่ามัธยฐานคะแนนความรู้เกี่ยวกับการจัดการภาวะน้ำเกินก่อนได้รับการจัดการรายกรณีฯ หลังได้รับทันทีและหลังได้รับจนถึงวันที่ 28 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จาก 6.1 เป็น 9.8 และ 10 คะแนนตามลำดับ (p <0.001) มีค่าเฉลี่ยผลต่างคะแนนการจัดการตนเองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจากก่อนได้รับการจัดการรายกรณีฯ  11.20 คะแนน (95%CI; 9.81-12.58, p <0.001)

สรุปได้ว่า การจัดการรายกรณีในการส่งเสริมการจัดการภาวะน้ำเกินด้วยตนเองทำให้ผู้ป่วยมีความรู้และมีความสามารถในจัดการตนเอง อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาวิจัยในกลุ่มตัวอย่างที่มากขึ้นเพื่อยืนยันผลลัพธ์ของอุบัติการณ์การเกิดภาวะน้ำเกินและยืนยันประสิทธิภาพของการจัดการรายกรณี

 

References

Metra M, Teerlink JR. Heart failure. Lancet 2017;390(10106):1981-95.

Ponikowski P, Voors AA, Anker SD, Bueno H, Cleland JG, Coats AJ, et al. 2016 ESC Guidelines for the diagnosis and treatment of acute and chronic heart failure: The Task Force for the diagnosis and treatment of acute and chronic heart failure of the European Society of Cardiology (ESC) Developed with the special contribution of the Heart Failure Association (HFA) of the ESC. Eur J Heart 2016;37(27):2129-2200.

Maddox TM, Januzzi JL Jr, Allen LA, Breathett K, Butler J, Davis LL, et al. 2021 Update to the 2017 ACC Expert Consensus Decision Pathway for Optimization of Heart Failure Treatment: Answers to 10 Pivotal Issues About Heart Failure With Reduced Ejection Fraction: A Report of the American College of Cardiology Solution Set Oversight Committee. J Am Coll Cardiol 2021;77(6):772-810.

Yancy CW, Jessup M, Bozkurt B, Butler J, Casey DE, Colvin MM, et al. 2016 ACCF/AHA/HFSA focused update on new pharmacological therapy for heart failure: an update of the 2013 ACCF/AHA guideline for the management of heart failure: a report of the American College of Cardiology/American Heart Association Task Force on Clinical Practice Guidelines and the Heart Failure Society of America. Circulation 2016;134(13):e282-293.

Albert NM, Buchsbaum R, Li J. Randomized study of the effect of video education on heart failure healthcare utilization, symptoms, and self-care behaviors. Patient Educ Couns 2007;69(1-3):129-139.

งานเวชสถิติโรงพยาบาลอุดรธานี. ข้อมูลสถิติโรคหัวใจล้มเหลว. อุดรธานี: โรงพยาบาลอุดรธานี; 2565.

King AJL, Johnson R, Cramer H, Purdy S, Huntley AL. Community case management and unplanned hospital admissions in patients with heart failure: A systematic review and qualitative evidence synthesis. J Adv Nurs 2018;74(7):1463-1473.

Aghamohammadi T, Khaleghipour M, Shahboulaghi FM, Maddah BS. Effect of self-management program on health status of elderly patients with heart failure: a single-blind, randomized clinical trial. J Acute Dis 2019;8(5):179-184.

Abbasi A, Ghezeljeh TN, Farahani MA. Effect of the self-management education program on the quality of life in people with chronic heart failure: a randomized controlled trial. Electron Physician 2018;10(7):7028-7037.

Commission for Case Manager Certification. Case Manager Certification [Internet].2018

[cited 2024 Jan 11]. Available from: https://ccmcertification.org

Creer LT. Self-management of chronic illness. In: Boekaerts M, Printrich PR, Zeidner M, editors. Handbook of Self-Regulation. San Diego, CA: Academic Press; 2000. p. 601-629.

Checa C, Canelo-Aybar C, Suclupe S, Ginesta-López D, Berenguera A, Castells X, et al. Effectiveness and Cost-Effectiveness of Case Management in Advanced Heart Failure Patients Attended in Primary Care: A Systematic Review and Meta-Analysis. Int J Environ Res Public Health 2022;19(21):13823.

Jaarsma T, Hill L, Bayes-Genis A, La Rocca HB, Castiello T, Celutkiene J, et al. Self-care of heart failure patients: practical management recommendations from the Heart Failure Association of the European Society of Cardiology. Eur J Heart Fail 2021;23(1):157-174.

Whitehead AL, Julious SA, Cooper CL, Campbell MJ. Estimating the sample size for a pilot randomized trial to minimize the overall trial sample size for the external pilot and main trial for a continuous outcome variable. Stat Methods Med Res 2016;19:25(3):1057–73.

พิสมัย อันพันลำ, ภัทรพงษ์ มกรเวส, วาสนา รวยสูงเนิน. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันภาวะน้ำเกินในผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว. Nursing Science Journal of Thailand 2021;39(3):47-59.

ฐิติมา ทาสุวรรณอินทร์, ลินจง โปธิบาล, ทศพร คำผลศิริ. ผลของการส่งเสริมการจัดการตนเองต่อคุณภาพชีวิตและอัตราการกลับมารักษาซ้ำของผู้สูงอายุที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว. พยาบาลสาร 2562;46:108-121.

ประกาย จิโรจน์กุล. การวิจัยทางการพยาบาล: แนวคิด หลักการ และวิธีปฏิบัติ. นนทบุรี: โครงการสวัสดิการวิชาการ สถาบันพระบรมราชชนก; 2548.

Polit DF, Beck CT. Nursing Research: Generating and Assessing Evidence for Nursing Practice. 8th ed. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2008.

เสาวณีย์ ศิริพันธุ์, อดิศร อุดรทักษ์, วิชชุนี ละม้ายศรี, ยุวดี คาดีวี. ผลการจัดการรายกรณีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่มีภาวะน้ำเกิน คลินิกไตวายเรื้อรัง โรงพยาบาลเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ปี 2563. ว.สุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา 2563;5(3):1-9.

กนกพร ขันแก้ว, อัจฉริยา วงษ์อินทร์จันทร์, นลินทิพย์ อ่องสมบัติ, วิชัย เส้นทอง, ชลลดา ทอนเสาร์. ผลของการจัดการรายกรณีต่อความรู้ในการดูแลตนเองของผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวที่เข้ารับการรักษาในคลินิกหัวใจล้มเหลว. ว.พยาบาลศาสตร์และสุขภาพ

;42(4):255-265.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-12-30

How to Cite

1.
คำตา ส, แสนโสม ด, สุขแจ่ม อ. การจัดการรายกรณีเพื่อส่งเสริมการจัดการภาวะน้ำเกินด้วยตนเองของผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว: การศึกษานำร่อง. udhhosmj [อินเทอร์เน็ต]. 30 ธันวาคม 2024 [อ้างถึง 27 มีนาคม 2025];32(3):385-400. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/udhhosmj/article/view/272940