ผลการใช้แนวปฏิบัติการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเครือข่าย มีส่วนร่วม หน่วยบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลอุดรธานี
คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วมของเครือข่าย, มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง, การคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่, การตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ, การเข้าถึงการส่องกล้องบทคัดย่อ
วิจัยแบบกึ่งทดลองนี้ (Quasi-experimental Research)นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้ แนวปฏิบัติการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงในประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเครือข่ายมีส่วนร่วมหน่วยบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลอุดรธานี โดยอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายสุขภาพและหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลอุดรธานี มีกระบวนการนำแนวปฏิบัติใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาใช้ เพื่อพัฒนาให้เข้าถึงการส่องกล้องได้รวดเร็วขึ้น โดยลดขั้นตอนการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลอุดรธานี จาก 3 ขั้นตอนเป็น 2 ขั้นตอน โดยให้บริการเจาะเลือดที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แทนการเดินทางมายังโรงพยาบาลอุดรธานี ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวก ลดอุปสรรค โดยลดภาระการเดินทางมายังโรงพยาบาลอุดรธานี สามารถรับบริการใกล้บ้าน ลดระยะเวลารับบริการเพิ่มการเข้าถึงบริการคัดกรองของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทำการศึกษาในประชากรกลุ่มเสี่ยง เปรียบเทียบร้อยละการคัดกรองด้วยวิธี FIT test และร้อยละการเข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ในกลุ่มที่มีผล FIT test เป็นบวก (positive) ก่อนและหลังการใช้แนวปฏิบัติ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ 1) เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลอุดรธานี 3 คนและในพื้นที่เครือข่ายบริการปฐมภูมิ 31 คน 2) ประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 50-70 ปีจำนวน 470 คน ในเขตบริการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหมูม่น คำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรเปรียบเทียบค่าสัดส่วน และใช้โปรแกรมคำนวณขนาดตัวอย่าง n4studies คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ดำเนินการวิจัยโดยใช้กรอบแนวคิดทฤษฎีระบบ โดยประยุกต์ใช้กับกระบวนการพยาบาล เก็บรวบรวมข้อมูลโดยแบบสอบถาม ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหา โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่านได้ค่า IOC เท่ากับ 0.67 - 1 ระยะเวลาการศึกษาระหว่างเดือนมกราคม - กันยายน 2567 และใช้วิธี วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยอาศัยสถิติเชิงพรรณนา จำนวนและร้อยละ Chi-square test เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรและ independent T-test เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างก่อนและหลังการใช้แนวปฏิบัติ
ผลการวิจัย: พบว่าประชาชนกลุ่มเสี่ยงจำนวน 470 คน ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยวิธี FIT test ทุกคน(ร้อยละ100.0) ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่มีผล FIT test ผิดปกติ(positive) จำนวน 28 คน ได้รับการส่องกล้อง 14 คน(ร้อยละ 50.0)เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 18.64 ในปีงบประมาณ 2566 แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.003) สะท้อนให้เห็นว่าแนวปฏิบัติใหม่นี้สามารถเพิ่มการเข้าถึงการตรวจคัดกรอง และลดความล่าช้าในการเข้ารับการส่องกล้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป แนวปฏิบัติการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ทำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีผล FIT test ผิดปกติ เข้าสู่กระบวนการส่องกล้องได้เพิ่มขึ้น จากแนวปฏิบัติเดิม(ปีงบประมาณ2566) ร้อยละ 18.64 เป็นแนวปฏิบัติใหม่(ปีงบประมาณ2567) ร้อยละ 50.00 โดยเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิมีส่วนร่วมบริการเจาะเลือดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ จึงทำให้ลดเหลือ 2 ขั้นตอนในการเดินทางมาโรงพยาบาลอุดรธานี
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Colorectal cancer. [internet]. (date access 9 Nov 2024). Available from https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/colorectal-cancer
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์. ทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 5 ต.ค. 2566]. เข้าถึงได้จาก:https://www.nci.go.th/th/cancer_record/cancer_rec1.html
สุพจน์ พงศ์ประสบชัย, ทวีศักดิ์ แทนวันดี, สถาพร มานัสสถิตย์, บรรณาธิการ. Clinical Practice in Gastroenterology. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์กรุงเทพเวชสาร; 2557.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. สปสช.ร่วมรณรงค์ 'วันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติ' สิทธิประโยชน์บัตรทอง "คัดกรอง 4 โรคมะเร็ง" [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 8 ต.ค. 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://www.nhso.go.th/news/3840
อัญชลี สามงามมี, ถาวรัฐ เรือนโรจน์รุ่ง, พัชยา โพธิ์ทอง, รัชนีวรรณ จันทร์สว่าง, วริศรา จับไหว. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงของประชาชนในจังหวัดสุโขทัย [อินเทอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 10 ก.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.lpch.go.th/km/uploads/20230530111314113481.pdf
ปัณณวัฒน์ โม้เวียง, ชนัญญา จิระพรกุล, เนาวรัตน์ มณีนิล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจ มาตรวจยืนยันมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง โดยการส่องกล้อง (Colonoscopy) อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
[อินเทอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 10 ก.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/kkujphr/article/view/145284
โรงพยาบาลอุดรธานี. สรุปรายงานข้อมูลอัตราป่วยและเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงปี 2563 -2565. อุดรธานี: กลุ่มงานการพยาบาลชุมชน, ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ โรงพยาบาลอุดรธานี; 2565.
โรงพยาบาลอุดรธานี. สรุปรายงานข้อมูลผู้รับบริการผู้ป่วยนอก ศัลยกรรม ปี 2563-2566. อุดรธานี: กลุ่มงานผู้ป่วยนอก ศัลยกรรม, ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ โรงพยาบาลอุดรธานี; 2566.
ลัฆวี ปิยะบัณฑิตกุล. เอกสารประกอบการบรรยายเรื่อง General System Theory. ขอนแก่น: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; [ปีที่พิมพ์ไม่ปรากฏ].
เชษฐา งามจรัส. การคำนวณขนาดตัวอย่าง สำหรับงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ. ขอนแก่น: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2564.
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์. แนวทางการดําเนินงานและการบันทึกข้อมูล โครงการคัดกรองมะเร็งลําไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยวิธี FIT Test [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 8 ต.ค. 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://www.nci.go.th/th/File_download/D_index/ptu/update_66
น้ำลิน เทียมแก้ว. การศึกษาความพึงพอใจต่อคุณภาพการให้บริการสำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 10 ก.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://library.msu.ac.th/msugreenlibrary/file/group-5/5.2-7%20รายงานการศึกษาความพึงพอใจ ต่อคุณภาพการให้บริการ.pdf
กรรณพร กันยามา, สุพจน์ คำสะอาด, วิลพงษ์ พรมน้อย. ปัจจัยเศรษฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม กับการไม่มาตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงในโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งระยะแรก จังหวัดอุบลราชธานี [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 10 ก.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://thaidj.org/index.php/smnj/article/view/12755
โรงพยาบาลสกลนคร เขตสุขภาพที่ 8. สรุปผลการประชุมคณะทำงานพัฒนาระบบบริการสุขภาพ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายมะเร็งครบวงจร(Cancer Warrior) มุ่งเน้น 5 โรค เขตสุขภาพที่ 8. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567. ห้องประชุม โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี. 2567
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งบทความโดยตรง
ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้นิพนธ์ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหา ทัศนะ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความในวารสารไปเผยแพร่ทางการค้าก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร