ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของประชาชนในเขตพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าควาย อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ใช้แนวคิด PRECEDE Model บูรณาการกับแนวคิด Health Belief Model เป็นกรอบในการศึกษา ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ ปัจจัยเสริม การกำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้สูตรประมาณค่าเฉลี่ยชนิดทราบประชากร ได้ขนาดตัวอย่างจำนวน 228 คน สุ่มกลุ่มตัวอย่างอย่างมีระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามประกอบด้วย 5 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 ปัจจัยนำเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ส่วนที่ 3 ปัจจัยเอื้อเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ส่วนที่ 4 ปัจจัยเสริมเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก และส่วนที่ 5 พฤติกรรมในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของประชาชน ได้รับตรวจสอบความตรงเชิง เนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน การหาค่าความเชื่อ มั่น โดยวิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าครอนบราช ด้านพฤติกรรม ความรู้ ทัศนคติ ความเชื่อด้านสุขภาพ ปัจจัยเอื้อ และปัจจัยเสริมเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกเท่ากับ 0.89 0.71 0.75 0.74 0.77 และ 0.78 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติถดถอยพหุคูณ จากผลการศึกษาพบว่า พฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับสูง (52.20%, X = 3.03, SD. = 0.87) และพบว่าปัจจัยการรับรู้โอกาสเสี่ยง (Mean Diff. = 0.67, 95%CI: 0.17 ถึง 1.06) ปัจจัยเอื้อ (1.52, 95%CI: 1.14 ถึง 1.90) และปัจจัยเสริม (1.11, 95%CI: 0.75 ถึง 1.47) มีผลเชิงบวกต่อพฤติกรรมในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ในขณะที่ปัจจัยด้านอาชีพ (-0.88, 95%CI: -1.59 ถึง -0.16) มีผลเชิงลบต่อพฤติกรรมในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก จากผลการศึกษาดังกล่าว ควรส่งเสริมวิธีการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในชุมชน โดยการเพิ่มการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก รวมถึงปัจจัยเอื้อและปัจจัยเสริมเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2. Green, L. W., Kreuter, M. W.. Health Promotion Planning an Education and Ecological Approach. (3rd ed). Toronto. Mayfield; 1999.
3. Rosenstock, I.M. Historical Origins of the Health Belief Model, Health Education Monographs. 1974; 2(4): 328-335.
4. Li Ping Wong. Factors Affecting Dengue Prevention Practices: Nationwide Survey of the Malaysian Public.Journal of PLOS ONE. 2015; 10 (4), 5-8.
5. Suphun, B. Factors related to preventive behaviors on dengue hemorrhagic fever among people in Sisaket province. [Thesis of Master of Public health]. Bankok: Western University; 2012. [in Thai]
6. Chandren, JR. Practices of Dengue Fever Prevention and the Associated Factors among the Orang Asli in
Peninsular Malaysia. Journal of PLOS ONE. 2015; 10(4): 5-11.
7. Keawwandee, N. Factors relating to the participation of people in prevention and control of dengue hemorrhagic fever in Nakornjaedee subdistrict Pasang district, Lamphun province. [Thesis of Master of Public health]. Chiang mai: chiang mai Rajaphat University; 2014. [in Thai]
8. Sayavong, C. Chompikul, J. Knowledge, Attitudes and Preventive behaviors related to dengue vector breeding control measures among adults in Communities of Vientiane, capital of the Lao PDR. Journal of Infection and Public Health. 2016; 8(5): 468-471.