จริยธรรมในการตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งประเทศไทย Health Science Journal of Thailand (Health Sci J Thai) (Publication Ethics)

      วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งประเทศไทย  เป็นวารสารที่เผยแพร่ตีพิมพ์บทความวิจัยและบทความวิชาการเกี่ยวข้องกับศาสตร์ทางการแพทย์ (Medicine) พยาบาล (Nursing) สาธารณสุข (Health professions) หรือสหสาขาวิชา (Multidisciplinary) ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ

       วารสารฯ กำหนดการเผยแพร่ตีพิมพ์ปีละ 4 ฉบับ คือ กำหนดออก ปีละ 4 ฉบับ ดังนี้ ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม – มีนาคม, ฉบับที่ 2 เดือนเมษายน – มิถุนายน, ฉบับที่ 3 เดือนกรกฎาคมค – กันยายน และ ฉบับที่ 4 เดือนตุลาคม - ธันวาคมของทุกปี บทความวิจัยหรือบทความวิชาการทุกบทความที่เสนอขอเผยแพร่ตีพิมพ์ในวารสารฯ ต้องผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง และสามารถให้ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์แก่นักวิจัยก่อนการเผยแพร่ตีพิมพ์ จำนวน 3 ท่าน ในกรณีที่มีผลการประเมินต่างกันให้บรรณาธิการเป็นผู้พิจารณา โดยไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียนบทความและผู้ประเมินบทความ (แบบ Double-blinded peer review)

วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งประเทศไทย ได้กำหนดบทบาทและหน้าที่สำหรับบุคคล 3 กลุ่ม ที่อยู่กระบวนการของการการเผยแพร่ตีพิมพ์บทความ ได้แก่ ผู้นิพนธ์ (Authors) บรรณาธิการวารสาร (Editor) ผู้ประเมินบทความ (Reviewers) ดังนั้นเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 กลุ่ม ได้ศึกษาและปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ตลอดจนผู้อ่าน และแวดวงวิชาการ

บทบาทและหน้าที่ของผู้นิพนธ์(Duties of Authors)

1. 1. ผู้นิพนธ์ต้องรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากผลงานในการเขียนบทความ โดยไม่บิดเบือนข้อมูล หรือทำให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ
2. 2. ผู้นิพนธ์ต้องรับรองว่าผลงานหรือบทความที่ส่งมานั้นเป็นผลงานใหม่ และไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดมาก่อน และไม่อยู่ในระหว่างการเสนอเพื่อขอเผยแพร่ตีพิมพ์ทในวารสารอื่น
3. 3. ผู้นิพนธ์ต้องมีการอ้างอิงผลงานที่นำมาใช้ในงานของตนเองทุกผลงาน และต้องนำไปอ้างอิงในรายการอ้างอิงท้ายบทความเสมอ
4. 4. ผู้นิพนธ์ต้องใส่ชื่อผู้ร่วมวิจัยทั้งหมด ในกรณีที่งานวิจัยมีผู้ร่วมทำงานหลายคน โดยไม่แอบอ้างเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นผลงานของตนเองแต่เพียงผู้เดียว
5. 5. ผู้นิพนธ์ต้องรับรองว่าผลงานหรือบทความดังกล่าว ที่ส่งมานั้นไม่มีข้อความ ภาพ และตารางใดๆ ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ส่วนบุคคลของผู้หนึ่งผู้ใด
6. 6. ผู้นิพนธ์ต้องระบุแหล่งทุนที่สนับสนุนในการทำวิจัยนี้ (ถ้ามี)
7. 7. ผู้นิพนธ์ต้องระบุผลประโยชน์ทับซ้อน (ถ้ามี)

บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการ

1. 1. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองคุณภาพบทความที่เสนอเพื่อการเผยแพร่ตีพิมพ์ในวารสาร
2. 2. บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลผู้นิพนธ์ และผู้ประเมินบทความแก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง
3. 3. บรรณาธิการจะคัดเลือกบทความมาตีพิมพ์หลังจากผ่านกระบวนการประเมินบทความแล้ว โดยพิจารณาจากความสำคัญ ความใหม่ ความชัดเจน และความสอดคล้องของเนื้อหากับนโยบายของวารสารเป็นสำคัญ
4. 4. บรรณาธิการต้องไม่ลงตีพิมพ์ หรือตอบรับบทความโดยที่ไม่มีข้อมูลยืนยัน
5. 5. บรรณาธิการต้องไม่มีผลประโยชน์ร่วมกับผู้นิพนธ์ และผู้ประเมิน
6. 6. บรรณาธิการต้องมีการตรวจสอบบทความเกี่ยวกับการคัดลอกผลงานผู้อื่น (Plagiarism) บรรณาธิการต้องหยุดการประเมินทันที พร้อมทั้งส่งหนังสือถึงผู้นิพนธ์ทันที เพื่อขอคำชี้แจงประกอบการพิจารณา ตอบรับ หรือ ปฏิเสธ การตีพิมพ์บทความนั้น

 

บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ

1. 1. ผู้ประเมินจะต้องรักษาความลับของผลการประเมินอย่างเคร่งครัด และจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลผลการประเมินบทความ ขณะประเมินหรือหลังการประเมินให้แก่บุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องทราบ
2. 2. ผู้ประเมินไม่ควรมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์ ซึ่งส่งผลให้การประเมินขาดความ โปร่งใส ไม่เป็นอิสระ หากมีควรแจ้งให้บรรณาธิการทราบตั้งแต่เบื้องต้นที่ได้รับบทความนั้น
3. 3. ผู้ประเมินบทความควรมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ที่ประเมิน โดยควรให้ความสำคัญด้านคุณภาพของบทความ และต้องตัดสินโดยอาศัยข้อมูลทางวิชาการมารองรับ และไม่ตัดสินด้วยเหตุผลส่วนตัว
4. 4. ผู้ประเมินควรตรวจสอบความซ้ำซ้อนของบทความ หากพบว่ามีการคัดลอก ให้ข้อมูลเท็จ หรือปิดบังอำพรางควรแจ้งให้บรรณาธิการทราบ