การสำรวจการให้บริการทางการแพทย์ด้านโรคลมชักในประเทศไทย
คำสำคัญ:
โรคลมชัก, โรงพยาบาลทุติยภูมิ, ประเทศไทยบทคัดย่อ
ภูมิหลัง: โรคลมชักเป็นโรคเรื้อรังทางระบบประสาทที่พบบ่อยในทุกกลุ่มอายุ จากการสำรวจของสมาคมโรคลมชัก ปี 2555 พบว่าประเทศไทยมีความชุกของโรคลมชัก 25 ต่อประชากร 1,000 คน อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยส่วนใหญ่ สามารถหายขาดจากอาการชักถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง แต่พบว่าร้อยละ58 ของผู้ป่วยโรคลมชักในประเทศไทย ไม่สามารถเข้าถึงการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะประชากรในส่วนภูมิภาค ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงการตรวจวินิจฉัยและการรักษาของผู้ป่วย โรคลมชักให้ครอบคลุมทั่วถึง จำเป็นที่ต้องทราบถึงข้อมูลพื้นฐานของความสามารถในการให้บริการของสถานพยาบาลระดับต่างๆ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการรักษาโรคลมชักให้เหมาะสมและทั่วถึงต่อไป
วัตถุประสงค์: เพื่อสำรวจการให้บริการทางการแพทย์ ในดา้นบุคลากรทางการแพทย์ เครื่องมือในการตรวจวินิจฉัย ชนิดของยากันชักที่มีใช้ เพื่อให้บริการในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคลมชัก ในโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิ
วิธีการ: เป็นการสำรวจข้อมูลโดยส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ ไปโรงพยาบาลศูนย์ (A) และโรงพยาบาลทั่วไป (S) ใน 12 เขตบริการสาธารณสุข ในช่วงเวลาตั้งแต่ 1 สิงหาคม - 1 พฤศจิกายน 2561
ผล: แบบสอบถามถูกส่งกลับจากโรงพยาบาล 36 แห่งจากทั้งหมด 83 แห่ง (ร้อยละ 43.37) ผู้ป่วยโรคลมชักเป็นโรคที่พบบ่อยเกือบหนึ่งในสี่ของผู้ป่วยโรคทางระบบประสาท ทั้งคลินิกผู้ป่วยนอกและใน ร้อยละ 80.6 ของโรงพยาบาล มีแพทย์ที่มีความเชี่ยว ชาญด้านโรคลมชัก ได้แก่ ประสาทแพทย์โรคลมชัก กุมารประสาทวิทยา หรือประสาทศัลยแพทย์ อย่างน้อย 1 คน การส่งตรวจเอกซเรย์สมองคอมพิวเตอร์ (CT), เอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI) และการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) ทำได้ร้อยละ 97.2, 34.3และ 40 ตามลำดับ ด้านการรักษาร้อยละ 88.6 ของโรงพยาบาลมียากลุ่มมาตรฐานที่เป็นรูปแบบรับประทานครบทั้ง 4 ชนิด และทุกโรงพยาบาล มียากลุ่มใหม่อย่างน้อย 1 ชนิด และที่มีใช้มากสุดคือ lamotrigine, oxcarbazepine และ gabapentin ด้านแนวทางการรักษาโรคลมชักร้อยละ 82.4 ของแพทย์เห็นว่าโรคลมชักดื้อยาเป็นปัญหาในการดูแลรักษา แต่มีเพียงร้อยละ 54.5 ของแพทย์ที่เคยส่งต่อผู้ป่วยเพื่อมาประเมินการรักษาโดยการผ่าตัด
สรุป: โรงพยาบาลระดับทุติยภูมิใน ส่วนภูมิภาคยังมีจำนวนแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านโรคลมชัก เครื่องมือในการตรวจวินิจฉัยที่จำเป็น ได้แก่ MRI สมองและ EEG ที่ยังไม่ครอบคลุม ส่งผลต่อการเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมของผู้ป่วยโรคลมชักที่มีความซับซ้อนหรือดื้อยาได้ ดังนั้นการสำรวจข้อมูลพื้นฐานของทรัพยากรในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคลมชักจึงยังมีความจำเป็นเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Trinka E, Kwan P, Lee B, Dash A. Epilepsy in Asia: disease burden, management barrier, and challenges. Epilepsia 2019; 60:7-2.
Jovel CE, Nagel AG, Serrano AA, Morales IG, Nagel AG.Epidermiological profile of epilepsy in low income populations. Seizure 2018; 56:67-72.
Meinardi H, Scott RA, Reis R, Sander JW. The treatment gap in epilepsy: the current situation and the way forward. Epilepsia 2001; 42:136-49.
A s a w a v i c h i e n j i n d a T , S a t t h i - A m o r n C , Ta n y a n o n t W .Prevalence of epilepsy in rural Thailand:a population-based study. J Med Assoc Thai 2002;85:1066-73.
Department of medical service, Ministry of public health. Thailand Medical Service Profile 2015-18.
Towanabut S. Survey of medical facilities for epileptic patients in Thailand 2012.
Phabphal K, Greater A, Limapichart K, Satirapunya P, Setthawatcharawanich S. Quality of life in epileptic patients in Southern Thailand. J Med Assoc Thai 2009;92:762-9.
Center of excellence in epilepsy, Prasat Neurological Institute. Planning project 2017-21: Better accessible medical care for epileptic patients in Thailand.
Kwan P, Brodie MJ. Early identification of refractory epilepsy. N Eng J Med 2000; 342:314-9.
Meyer AC, Dua T, Ma J, Saxena S, Birbeck G. Global disparities in the epilepsy treatment gap: a systemic review. Bulletin of the World Health Organization 2010;88:260-6.
Mbuba CK, Ngugi AK, Newton CR, Carter JA. The epilepsy treatment gap in developing countries: a systemic review of the magnitude, causes and intervention strategies.Epilepsia.2008 September; 49:1491-503.
Tiamkao S, Towanabut S, Dhiravibulyn K, Pranboon S, Sawanyawisuth K. Is the Thailand epilepsy service adequate to help patients? Neurology Asia 2013; 18:271-7.
Pranboon S, Lertsinudom S, Tiamkao S. Facility of epilepsy service in I San. North East Thai J neurosci 2011; 6:19-27.
NICE guideline: Epilepsy care. February 2013(online). available:http://www.nice.org.uk
Strategy and Planning division, Ministry of Public health. Report on public health resources concerning the public health in the year; 2016.
Tiamkao S, Pranboon S. National Health Security Office Region 7. Antiepileptic drugs available in 4 provinces of I-san. I-San j Intern Med 2011;10:28-35.
Lertsinudom S, Chainirun N, Tiamkao S.Facilities and Services for people with epilepsy-A survey from Northest Thailand. J Med Asso Thai 2017;100:S252-8.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นของผู้เขียนบทความ ไม่ใช่ความเห็นของกองบรรณาธิการหรือของวารสารกรมการแพทย์