ผลของการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและคู่มือการดูแลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดต่อการรับรู้คุณภาพการบริการและความพึงพอใจของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดของ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

ผู้แต่ง

  • นันทพร พรธีระภัทร พย.ม. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
  • ปานจิตต์ พรหมโชติ วท.ม. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
  • ชุติมา สุดประเสริฐ พย.ม. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
  • นันทนา ยวงยิ้ม พย.บ. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

คำสำคัญ:

สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน, การผ่าตัดหัวใจแบบเปิด, คุณภาพการบริการ

บทคัดย่อ

ภูมิหลัง : สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบท เรียนได้ดียิ่งขึ้น มีสมาธิในการเรียนมากขึ้น มีความกระตือรือร้น และเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลทั้งทางด้านความรู้ และทักษะในการปฏิบัติ ทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกในการเรียนรู้ เป็นการ สร้างแรงจูงใจ และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การให้ความรู้โดยใช้สื่อการ สอนที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลเกิดความมั่นใจ และ รับรู้ถึงคุณภาพการบริการที่ส่งมอบให้ หนึ่งในระบบที่จำเป็นในการ พัฒนาคุณภาพคือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

วัตถุประสงค์ : เพื่อ ศึกษาผลของการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและคู่มือการดูแลผู้ป่วย เด็กที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดต่อการรับรู้คุณภาพการบริการ ของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด และเพื่อศึกษา ผลของการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและคู่มือการดูแลผู้ป่วยเด็กที่ ไดรั้บการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดต่อความพึงพอใจของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็ก ที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด

วิธีการ : การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัย แบบกึ่งทดลอง (quasi-experimental research) กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดที่สถาบันสุขภาพเด็ก แห่งชาติมหาราชินี ที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยศัลยกรรมเด็กโต (ส.7บี) จำนวน 36 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการศึกษาและ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล 1. เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนิน การศึกษา ได้แก่ สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่พัฒนาขึ้นใหม่ และ คู่มือ การดูแลผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจ แบบเปิดที่พัฒนาขึ้นใหม่ 2. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล มี 2 ชุด ได้แก่ 2.1 แบบสอบถามการรับรู้คุณภาพการบริการ ส่วน ที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ถามเกี่ยวกับอายุ การศึกษา อาชีพ วิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ และค่า ร้อยละ ส่วนที่ 2 แบบสอบถามการรับรู้คุณภาพการบริการ โดย ผู้ศึกษาใช้แบบสอบถามการรับรู้คุณภาพการบริการ ใช้การวิเคราะห์ ข้อมูลโดยการคำนวณค่าความถี่ ร้อยละ และระดับคุณภาพ 2.2 แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กต่อสื่อ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนและคู่มือการดูแลผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจพิการ แต่กำเนิดที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด วิเคราะห์ข้อมูลโดย การแจกแจงความถี่ และร้อยละ

ผล : ผลการวิจัยพบว่าการรับรู้ คุณภาพการบริการมีทั้งหมด 3 ด้าน คือ ด้านการสร้างความมั่นใจ ต่อผู้ใช้บริการมากที่สุด ร้อยละ 90.4 รองลงมาด้านการตอบสนอง ต่อผู้ใช้บริการ ร้อยละ 87 และด้านการเอาใจใส่ต่อผู้ใช้บริการ ร้อยละ 86.4 ตามลำดับ และความพึงพอใจของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กที่ ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด มี 4 ด้าน ได้แก่ หลักสูตรการสอน สื่อการสอน การดำเนินการสอน และผลที่เกิดขึ้นกับผู้เข้ารับการ สอน ค่าเฉลี่ยคะแนนอยู่ระดับมากที่สุดทุกด้าน จากผลการศึกษา ควรกระตุ้น ส่งเสริม และให้กำลังใจในการให้บริการที่มีคุณภาพ อย่างต่อเนื่อง เป็นในแนวทางเดียวกัน อีกทั้งควรสนับสนุนให้ทุก หน่วยงานในองค์กรพัฒนาคุณภาพการบริการให้เป็นตามมาตรฐาน การบริการ รวมถึงให้บุคลากรทุกระดับในองค์กรเห็นความสำคัญ ในคุณภาพการบริการ

สรุป : การใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและ คู่มือการดูแลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดต่อการรับรู้ คุณภาพการบริการของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบ เปิด พบว่าผู้ดูแลรับรู้คุณภาพบริการภาพรวมระดับมากที่สุด

เอกสารอ้างอิง

Chutima S. The effect of using a nursing service model that integrates family-centered concepts with care theory of Swanson on the perception of service quality of mothers of pediatric patients receiving open heart surgery. Degree thesis Master of Nursing Nursing Administration Branch Graduate School of St.Louis; 2013.

Parasuraman A, Zeithaml V. A conceptual model of service quality and its implications for future research.Journal of Marketing 1985; 49: 41–50.

Panithan L. Parties for health promotion. Bangkok: Health System Research Institute 1998; 1:142-50.

Yodchai K. Development of Computer Assisted Instruction on Basic C Language for Mathayomsuksa 4 Students at Sanguan Ying School. Degree thesis Master of Education Department of Educational Technology College Silpakorn University; 2010.

Boonjai S. Development and quality of research tools:Psychological measurement qualifications. Bangkok:Chulalongkorn University Printing House; 2012.

Donabedian A. The Definition of Quality and Approaches to Its Management, vol 1: Explorations in Quality Assessment and Monitoring. Ann Arbor, Mich, Health Administration Press; 1980.

Jinnaphitcha M. Computer Assisted Instruction: Educational technology for knowledge development and skills for nursing students. Science and Technology Journal, 2014; Faculty of Nursing Thammasat University, Rangsit Center; 2012.

Kanchit M. Technological innovation in the 2000s. Bangkok:Se-education; 1997.

Kennedy H, Rousseau A, Low LK. An exploratory metasynthesis of midwifery practice in the United States.Midwifery 2003;19:203-14.

Kwanruethai S. Public relations public relations roles in new media at 1 development of technical education.2008; 20: 42-51.

Mathole T, Lindmark G, Majoko F, Ahlbery B. A qualitative study of women’s perspectives of antenatal care in a rural area of Zimbabwe. Midwifery 2004; 20: 122-32.

Mayer R and Moreno R. Aids to computer-based multimedia learning. Learning and Instruction 2002; 12: 107-19.

Phisai C. Nursing quality as perceived by patients admitted to the hospital. Private. Master Thesis of Nursing, Department of Nursing Administration, Graduate School, Chiang Mai University;2007.

Rueangrit S. Quality of nursing services as perceived by gynecological patients. Sakon Nakhon Hospital Master of Nursing Thesis, Department of Nursing Administration, Faculty of Nursing Burapa University; 2015.

Wapi K, Suchada R. Quality of Nursing Service, Outpatient Department, Private Hospital, Bangkok. Military Journals; 2015.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

18-06-2021

รูปแบบการอ้างอิง

1.
พรธีระภัทร น, พรหมโชติ ป, สุดประเสริฐ ช, ยวงยิ้ม น. ผลของการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและคู่มือการดูแลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดต่อการรับรู้คุณภาพการบริการและความพึงพอใจของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดของ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี . J DMS [อินเทอร์เน็ต]. 18 มิถุนายน 2021 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];46(1):243-51. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/JDMS/article/view/251893

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ