ความถูกต้องของการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัดในโรงพยาบาลราชวิถี
คำสำคัญ:
การวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัด, ผลการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา, ความถูกต้องในการวินิจฉัยบทคัดย่อ
ภูมิหลัง: การวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัดเป็นการวินิจฉัยเบื้องต้นที่มีความสำคัญซึ่งส่งผลกระทบต่อการวางแผนการรักษาในขณะทำการผ่าตัดทันที แต่การวินิจฉัยบางส่วนมีความคลาดเคลื่อนเมื่อเปรียบเทียบกับการวินิจฉัยโดยการตัดพิสูจน์ชิ้นเนื้อ ฉะนั้นการพิสูจน์ความถูกต้อง แม่นยำ ย่อมนำมาซึ่งความเข้าใจตรงกันในพยาธิแพทย์ และแพทย์เจ้าของไข้ส่งผลต่อการรักษาให้ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วัตถุประสงค์: ศึกษาความถูกต้อง ความแม่นยำความจำเพาะในการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัดและหาสาเหตุที่ทำให้การวินิจฉัยผิดพลาด นำมาวิเคราะห์รวมถึงการหาทางแก้ปัญหา วิธีการ: การวิจัยนี้เป็นการเก็บข้อมูลย้อนหลัง (retrospective study) เปรียบเทียบผลการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัด กับ ผลการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา ในโรงพยาบาลราชวิถีในระยะเวลา 2 ปีระหว่าง 1 มกราคม 2561 - 31 ธันวาคม 2562 ผล: การเปรียบเทียบผลการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัด กับ ผลการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาในโรงพยาบาลราชวิถี จำนวนชิ้นเนื้อทั้งหมด 727 รายพบว่า ผลการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัด ตรงกับ ผลการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา 676 ราย (92.98%) และมีผลการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัด ไม่ตรงกับ ผลการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา 51 ราย (7.02%) การวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัดมีค่าความไว 81.86% ความจำเพาะ 98.00% ค่าความสามารถในการทำนายผลการเป็นมะเร็งถ้าผลการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัดเป็นมะเร็ง 94.87% ค่าความสามารถในการทำนายผลการไม่เป็นมะเร็งในผลการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัดไม่เป็นมะเร็งทั้งหมด 92.29% ค่าความถูกต้องของการวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัด 92.98% และความชุกของการเป็นมะเร็งในการศึกษานี้มีค่าเท่ากับ 31.09% สรุป: การวินิจฉัยสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัดเป็นการวินิจฉัยเบื้องต้นที่มีความถูกต้องและเชื่อถือได้ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดสามารถนำผลที่ได้ไปวางแผนการรักษาต่อได้ในทันทีตามผลที่ได้จากการวิจัยชิ้นนี้เทียบกับสถาบันและงานวิจัยอื่นแสดงว่าผลการศึกษาที่ได้เป็นในมาตรฐานใกล้เคียงกัน
เอกสารอ้างอิง
Mishra S, Gupta M, Bharat V, Bansal R. Qualitative comparative study of frozen section with routine histological technique. NJLM 2016;5(2):44-50.
Gupta S. Comparative study of frozen section diagnoses with histopathology. GJRA 2018;7(3):44-7.
Chang JL, Tseng HH, Sheu LF, Lee WH, Tu YC. Diagnostic accuracy of frozen sections in surgical pathology-a retrospective analysis of 1084 frozen sections. J Med Sci 1992;13(2):133-42.
Farah-Klibi F, Neji O, Ferjaoui M, Zaouche A, Koubaa A, Sfar R, et al. Accuracy of frozen section diagnosis: an analysis of 1695 consecutive cases. Tunis Med 2008; 86(7):693-7.
Shrestha S, Lee MC, Dhakal H, Pun CB, Pradhan M, Shrestha S, et al. Comparative study of frozen section diagnoses with Histopathology. PMJN 2009;9:1-5.
Abbasi F, Yekta Z, Aryan A. Accuracy of frozen sections. Iranian J Pathol 2012;7(1):3-8.
Howanitz PJ, Hoffman GG, Zarbo RJ. The accuracy of frozen-section diagnoses in 34 hospitals. Arch Pathol Lab Med 1990;114(4):355-9.
Chandramouleeswari K, Yogambal M, Arunalatha P, Bose JC, Rajendran A. Frozen and paraffin sections - Comparative study highlighting the concordance and discordance rates in a tertiary care centre. IOSR J Dental Med Sci 2013;12(5):26-30.
Patil P, Shukla S, Bhake A, Hiwale K. Accuracy of frozen section analysis in correlation with surgical pathology diagnosis. J Res Med Sci 2015;3(2):399-404.
Ashwini T. Analysis of frozen section in correlation with surgical pathology diagnosis. Int J Res Med Sci 2019;7(6):2312-7.
Hatami H, Mohsenifar Z, Alavi SN. The diagnostic accuracy of frozen section compared to permanent section: A single center study in Iran. Iran J Pathol 2015;10(4):295–9.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นของผู้เขียนบทความ ไม่ใช่ความเห็นของกองบรรณาธิการหรือของวารสารกรมการแพทย์