การเกิดภาวะหลอดเลือดดำส่วนปลายอักเสบจากการให้สารละลาย ทางหลอดเลือดดำในผู้ป่วยวิกฤต
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive research) เพื่อศึกษา 1) อัตรา การเกิดภาวะหลอดเลือดดำส่วนปลายอักเสบ ในผู้ป่วยวิกฤต ในหอผู้ป่วยวิกฤต 2) เพื่อศึกษาคุณลักษณะทางประชากร เศรษฐกิจและสังคม ของผู้ป่วยวิกฤตที่ให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ โรงพยาบาลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ที่ได้รับสารละลายทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย จำนวน 50 คน เป็นเพศชาย 32 คน ร้อยละ 64.0 เพศหญิง 18 คน ร้อยละ 36.0 อายุส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 61–80 ปี ร้อยละ 38.0 รองลงมา คือ ช่วงอายุ 41-60 ปี ร้อยละ 26.0 มีอาชีพ เกษตรกรรม ร้อยละ 62.0 มีระดับการศึกษาชั้นประถมศึกษา ร้อยละ 74.0 มีสถานภาพสมรส 35 คน ร้อยละ 70.0 รายได้อยู่ระหว่าง 3,001–5,000 บาท/เดือน ร้อยละ 46.0 ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจหลอดเลือด ร้อยละ 40.0 สาเหตุที่เข้ารับการรักษา เกิดจากการเจ็บป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ร้อยละ 34.0 สิทธิบัตรที่ใช้ในการรักษา ประกันสุขภาพถ้วนหน้า ร้อยละ 32.0 อัตราการเกิดภาวะหลอดเลือดดำอักเสบ ร้อยละ 14.0 สาเหตุมาจากการเกิดลิ่มเลือด
Article Details
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะใดๆ ที่นำเสนอในบทความเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว โดยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะกรรมการวารสารราชธานีนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์สุขภาพไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด มหาวิทยาลัยราชธานี บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดหรือผลที่เกิดขึ้น จากการใช้ข้อมูลที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้
เอกสารอ้างอิง
จงจิต หงส์เจริญ, และคณะ. (2551). ภาวะหลอดเลือดดำอักเสบและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในผู้ป่วยศัลยกรรม ระบบทางเดินอาหารที่ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย. จุลสารชมรมควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลแห่งประเทศไทย, 18(1), 26-32.
ลักษณี มีนะนันท์. (2535). การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ. ในสุปราณี วศินอมร (บรรณาธิการ),
การพยาบาลพื้นฐาน แนวคิดและการปฏิบัติ (น. 411-427) (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: จุดทองการพิมพ์.
สุจีรา จียาศักดิ์. (2524). เปรียบเทียบการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบ เนื่องจากการให้สารน้ำโดยใช้เข็มและตำแหน่งที่แทงเข็มต่างกัน. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาล บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล).
สมหวัง ด่านชัยวิจิตร, (บรรณาธิการ). (2533). วิธีป้องกันโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล. กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์.
Batton, D.G., Maisels, M.J., & Appelbaum, P. (1982). Use of peripheral intravenous
cannulas in Premature Infants: a controlled study. Pediatrics, 70(3), 487-490.
Campos Oltra, J.R., Yunes Zarraga, J.L., & Villatoro, M.C. (1989). Analysis of the costs and complication of different procedures for the administration of intravenous liquids. Bol Med Hosp Infant Mex, 46(8), 547-453.
Collin, J., and Collin, C. (1975). Infusion thrombophebritis and infection with various canular. The lancet, 26(July), 150-152.
Faubion et al., 1986. WC Faubion, JR Wesley, N Khalidi, J Silva. (1986). Total parenteral nutrition catheter sepsis: Impact of the team approach. Journal of Parenteral and Nutrition.
Garland, J.S., et al. (1992). Peripheral intravenous catheter complications in critical ill children: a prospective study. Pediatrics, 89(6 Pt 2), 1145-1150.
Peter,G., L., loyd-Still, J.D., & Lovejoy, F.H. (1972). Local infection and bacteremia from scalp vein needles and polyethylene catheters in children.The Journal of Pediatrics, 80(1), 78-83.
Plumer, A.L. (1982). Principles and practice of intravenous therapy (3rd ed). Boston: Little, Brown and company.
Steele, J. (1996). Practical i.v. therapy (2nd ed). Pennsylvania: Springhouse.
Wynsma, L.A. (1998). Negative outcomes of intravasculae therapy in infants and children. AACN-Clin, 9(1), 49-63.
Yaowart, H.. (1998). Thai Journal of Pharmacology, May-Dec.Vol.20.