การสร้างเสริมความเข้มแข็งของผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชนในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงให้มีสุขภาพดีตามวิถีชุมชนตำบลตลาดขวัญ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลของการศึกษาการสร้างเสริมความเข้มแข็งของผู้ป่วยครอบครัว และชุมชนในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงให้มีสุขภาพดีตามวิถีชุมชน ซึ่งมีกระบวนการสร้างเสริมประกอบด้วย องค์ประกอบสำคัญ 3 ด้าน คือ ผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชน โดยผู้ป่วยต้องได้รับ 1) ความรู้และความเชื่อ 2) การเพิ่มทักษะและความสามารถในการกำกับตนเองและสามารถจัดการตนเองได้อย่างเหมาะสม 3) การช่วยเหลือทางด้านสังคมจากชุมชน เพื่อนำมาสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สามารถจัดการตนเองได้ในด้านการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการจัดการกับอารมณ์ โดยครอบครัวมีส่วนในการรับรู้ปัญหาของผู้ป่วยร่วมกันวางแผนในการดูแลผู้ป่วย ตลอดจนส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ป่วยสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างเหมาะสมกับโรค และชุมชนมีส่วนร่วมในการผสมผสานวิถีความเป็นอยู่ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแหล่งประโยชน์ในชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้อย่างเต็มความสามารถ
จากการร่วมมือกันทั้งสามฝ่ายนั้น ผลลัพธ์ พบว่า
1) พฤติกรรมการดูแลสุขภาพในด้านความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น
2) บุคคลในครอบครัวผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย
3) เกิดชุมชนต้นแบบในการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงตามวิถีชุมชน
Article Details
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะใดๆ ที่นำเสนอในบทความเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว โดยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะกรรมการวารสารราชธานีนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์สุขภาพไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด มหาวิทยาลัยราชธานี บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดหรือผลที่เกิดขึ้น จากการใช้ข้อมูลที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้
เอกสารอ้างอิง
นิรมล เมืองโสม. (2553). รายงานการวิจัย เรื่องการพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมในการจัดการด้านสุขภาพเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคของกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น กรณีศึกษาตำบลดอนดู่ อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น.
วรชัย ทองคำฟู. (2551). วิถีชุมชนในการเรียนรู้รูปแบบเกษตรยั่งยืนตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนบ้านป่าไผ่ ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่, รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์.
เบญจมาศ ถาดแสง, ดวงฤดีลาศุขะ, และ ทศพร คำผลศิริ. (2555). ผลของโปรแกรมสนับสนุน การจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองและค่าความดันโลหิต
ของผู้สูงอายุที่มี ความดันโลหิตสูง. พยาบาลสาร, 39(4), 124-137.
ระพีพร วาโยบุตร. (2556). การพัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน หมู่บ้านหนองโดน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม. วารสารกองการพยาบาล, 41(1).
สุพิณญา คงเจริญ. ชดช้อย วัฒนะ และธีรนุช ห้านิรัติศัย. (2556). ผลของโปรแกรมการกำกับตนเองเพื่อควบคุมความดันโลหิตต่อพฤติกรรมการกำกับตนเอง ระดับความดันโลหิตและภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในชาวไทยมุสลิมที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง. พยาบาลสาร, 40(1). 23-32.
Bandura, A. (1997). Self efficacy: The exercise of control. New York: Freeman.
Lorig, K. (1993). Self-management of chronic illness: A model for the future. Generations, XVI, 1(3), 11-14.
Lorig, K.R., & Holman, H. (2003). Self-management education: History, definition,
outcomes, and mechanism. The Society of Bhavioral Medicine, 26(1), 1-7.
World Health Organization (WHO). (2013). A global brief on hypertension Silent killer, global public health crisis. Retrieved from
http://www.who.int/cardiovascular_diseases/publications/global_brief_hypertension/en