Quality of Life among Early Childhood Children Aged 2-4 Years in Na Fai Child Development Center, Mueang District, Chaiyaphum Province
Keywords:
Quality of life, Pre-school children, Child development centerAbstract
This mixed-method research aimed to study quality of life (QOL) and the factors related to QOL among early childhood children aged 2-4 years in Na Fai Child Development Center, Mueang District, Chaiyaphum province. The study was divided into 2 phases. Phase 1 included studying QOL in early childhood children using qualitative research method based on the knowledge gained from literature reviews, focus groups, in-depth interviews, and home visits with 20 parents and the center’s staff members. Phase 2 examined relationships between selected factors and QOL among children using quantitative research method with 80 early childhood aged 2-4 years. The qualitative data were analyzed using content analysis and the quantitative data were analyzed using descriptive statistics and Spearman’s correlation coefficients. The results showed that the situations that contributed to children’s developmental delays was limited parenting time, children spending too much time with the media, family not having sufficient incomes, and lacking family’s promotion of child development. Factors related to children’s QOL can be categorized in 3 groups: factors among children, parents, and child rearing. On children's side, child development, time spent on media and tooth decay had significant negative relationships with QOL at p=0.01 with r=-0.427, -0.472, -0.674, respectively while receiving breastfeeding after birth had a significant positive relationship with QOL at p=0.05 (r=0.274). On parents' side, it was found that gender was significantly associated with QOL at p=0.05 with r=0.241). In terms of child rearing, it was found that letting children learn new things, imitation and relationship building with others were significantly associated with QOL with r=0.721, 0.345 and 0.495 respectively at p=0.01.
References
ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580). ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 135 ตอนที่ 82 ก (ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2561). [เข้าถึงเมื่อ 2562 ธันวาคม 8]. เข้าถึงได้จาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/082/T_0001.PDF
วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์, นัยพินิจ คชภักดี. บทบาทของสมองต่อพัฒนาการเด็ก. ใน: สุรีย์ลักษณ์ สุจริตพงศ์ และคณะ, บรรณาธิการ. ตำราพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก เล่ม 4. กรุงเทพฯ: พี.เอ. ลีฟวิ่ง; 2561.
Bee H. The Growing Child. New York: Harper Collins College Publisher; 1995.
นิตยา คชภักดี. ตำราพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก สำหรับเวชปฏิบัติทั่วไป. กรุงเทพฯ: บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพรซ์; 2554.
นิชรา เรืองดารกานนท์. พัฒนาการและเชาว์ปัญญาของเด็กไทย. กรุงเทพฯ: เอกสารอัดสำเนา; 2551.
ธันยพร เมฆรุ่งจรัส, อดิศร์สุดา เฟื่องฟู. ปัจจัยที่กระทบต่อพัฒนาการเด็ก. ใน: สุรีย์ลักษณ์ สุจริตพงศ์และคณะ, บรรณาธิการ. ตำราพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก เล่ม 4. กรุงเทพฯ: พี.เอ.ลีฟวิ่ง; 2561. หน้า 44.
จินตนา พัฒนพงศ์ธร และคณะ. การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัยไทย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2560. นนทบุรี: กลุ่มสนับสนุนวิชาการและการวิจัย สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย; 2561.
จินตนา พัฒนพงศ์ธร, ชัยชนะ บุญสุวรรณ, นฤมล ธนเจริญวัชร. พัฒนาการเด็กปฐมวัยไทย ปี พ.ศ. 2557. นนทบุรี: สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย; 2558.
นิตยา คชภักดี, อรพินท์ เลิศอวัสดาตระกลู. คู่มือการฝึกอบรมการทดสอบพัฒนาการเด็กปฐมวัย (ฉบับแก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 5). นครปฐม: สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว; 2556.
Rajatanavin R, Chailurkit L, Winichakoon P, Mahachoklertwattana P, Soranasataporin S, Wacharasin R. Endemic cretinism in Thailand: a multidisciplinary survey. Eur J Endocrinol 1997; 137: 349-55.
สุริยเดว ทรีปาตี, วิมลทิพย์ มุกสิกพันธ์. คุณภาพชีวิตของเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ; 2556.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. ยุทธศาสตร์เด็กปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2564. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ; 2560.
มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ. การประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ; วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562. ณ โรงแรมรอยัล ซิตี้ กรุงเทพฯ; 2562.
องค์การบริหารส่วนตำบลนาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ. ข้อมูลพื้นฐาน ตำบลนาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ [อินเตอร์เน็ต]. 2561. [เข้าถึงเมื่อ 2561 ธันวาคม 17]. เข้าถึงได้จาก: https://www.nafai-chaiyaphum.go.th/condition.php
ศิริกุล อิศรานุรักษ์, ปราณี สุทธิสุคนธ์. การอบรมเลี้ยงดูเด็ก. วารสารสาธารณสุขและการพัฒนา 2550; 5(1):105-18.
Creswell JW, Plano Clark VL. Designing and Conducting Mixed Methods Research. (2nd ed.). Thousand Oaks, CA: Sage; 2011.
ธีรวุฒิ เอกะกุล. ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 6, อุบลราชธานี: วิทยาออฟเซ็ทการพิมพ์; 2552.
Erikson EH. Childhood and Society. New York: Norton; 1950.
ลักขนา ชอบเสียง. บทบาทของครอบครัวในการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย [วิทยานิพนธปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลครอบครัว]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแกน; 2548.
บุญชม ศรีสะอาด. การพัฒนาหลักสูตรและการวิจัยเกี่ยวกับหลักสูตร. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น; 2553.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2553.
อ้อมจิต ว่องวาณิช และคณะ. ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตการดูแลสุขภาพโดยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและผู้ปกครองต่อภาวะสุขภาพเด็กปฐมวัย ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลองครักษ์ จังหวัดนครนายก. ไทยเภสัชศาสตร์และวิทยาการสุขภาพ 2557; 9(24): 178-85.
Acharya S, Tandon S. The effect of early childhood caries on the quality of life of children and their parents. Contemporary Clinical Dentistry 2011; 2(2): 98–101.
Singha N, Dubey N, Rathore M, Pandey P. Impact of early childhood caries on quality of life: Child and parent perspectives. Journal of Oral Biology and Craniofacial Research 2020; 10(2): 83-6.
คมสันต์ เกียรติรุ่งฤทธิ์. ปัญหาการบริโภคสื่อและอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในเด็กปฐมวัย. ใน: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). คุณภาพชีวิตของเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ: บริษัท บีเคเคโปร จำกัด; 2559.
ดาริน ด่านเทศ. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวสำหรับหญิงตั้งครรภ์ทำงานนอกบ้านต่อเจตคติและความตั้งใจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการผดุงครรภ์ขั้นสูง คณะพยาบาลศาสตร์]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2559.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ประกฎในวารสารศูนย์อนามัยที่ 9 เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน บรรณาธิการ คณะผู้จัดทำ และศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (เจ้าของ) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผลการพิจารณาของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด คณะบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความเหมาะสม
กองบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาใด ๆ ของบทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลการประเมินบทความในวารสารฯ ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์อนามัยที่ 9