Student, Health Status and School Health Service Model of Basic Education Institutions in Mueang District, Nakhon Ratchasima Province
Keywords:
Health status, School health, StudentsAbstract
The objectives of this cross-sectional descriptive with mixed methods design were to study the students’ health status and the school health service model of basic education institutions in Mueang district, Nakhon Ratchasima province. The samples were 1,397 elementary school students, grades 1-6, from 11 schools in Nakhon Ratchasima primary educational service area office 1 selected using stratified sampling technique. The data collection instruments included student health records, focus group discussions, participatory observation and environmental surveys. The data were collected between January and June 2024 and were analyzed using frequencies, percentages, and content analyses.
The findings revealed that: 1) the majority of the samples were males (52.68%), aged between 6-12 years, and were currently studying in grade 6 (19.61%); 2) regarding health status, most common health problems among students, in order, were as follows: dental caries (55.33%), having lice (19.11%), overweight and obesity (19.04%), abnormal vision (16.68%), wasting (12.67%), and abnormal hearing (0.14%); 3) school health services included a) health assessment and screening, b) primary medical care, advice and referrals for care, c) health education, d) development of student leaders to promote health, and e) advices for student health improvement. The results suggested that dental caries, lice, malnutrition, vision and hearing problems were still problems among school-aged children. Schools should improve health and classroom teachers’ potential and abilities for student health screening and counseling on basic health issues, including coordinating with public health and dental professionals to continuously screen students' health according to the standards of health promoting schools.
References
กองบรรณาธิการ The Active. วิกฤต ‘เด็กไทย’ เกิดน้อย พัฒนาช้า [อินเทอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 2567 มกราคม 18]. เข้าถึงได้จาก: https://theactive.thaipbs.or.th/news/learning-education-20241117
นพรดา คำชื่นวงศ์. สถานการณ์ปัญหาเด็กและความเปราะบาง – เรารู้อะไรและยังไม่รู้อะไร [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 2566 พฤศจิกายน 20]. เข้าถึงได้จาก: https://researchcafe.tsri.or.th/synthesis-of-knowledge-on-social-protections-for-children
สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับมาตรฐานสากล ปี พ.ศ. 2565. นนทบุรี: มินนี่ กรุ๊ป; 2565.
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา กระทรวงศึกษาธิการ. สารสนเทศด้านการศึกษา ปีการศึกษา 2566 [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2566 พฤศจิกายน 20]. เข้าถึงได้จาก: https://edustatistics.moe.go.th/population30
จีวรรณ ชงจังหรีด และคณะ. การสำรวจข้อมูลสถานะสุขภาพเด็กนักเรียน เขตสุขภาพที่ 9 ปี พ.ศ. 2561 [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 2566 พฤศจิกายน 20]. เข้าถึงได้จาก: https://hpc9.anamai.moph.go.th/web-upload/migrated/files/hpc9/n2574_871b6a83da0480b7a2eda683d13fab8f_article_20200114131337.pdf
นพวรรณ เปียซื่อ. การพยาบาลอนามัยชุมชน:นโยบายและทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. นนทบุรี: ภาพพิมพ์; 2565.
กลุ่มพัฒนาส่งเสริมสุขภาพวัยเรียน ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา. สรุปผลการขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียน ศูนย์อนามัยที่ 9 ปีงบประมาณ 2566 [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2566 พฤศจิกายน 20]. . เข้าถึงได้จาก: https://anyflip.com/oiqes/mufs/basic
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1. สารสนเทศ:ข้อมูลนักเรียน [อินเทอร์เน็ต]. 2568 [เข้าถึงเมื่อ 2566 พฤศจิกายน 20]. เข้าถึงได้จาก: https://www.korat1.go.th/
ธีรวุฒิ เอกะกุล. ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี: สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี; 2543.
กนิพันธุ์ ปานณรงค์, อัญชลี เหมชะญาติ, ประคองศรี ถนอมนวล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคฟันผุในเด็กนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม 2559;12(1):58-67.
ภัสราวดี ศรีสุข, ศิริพร คำสะอาด, นพรัตน์ ลาภส่งผล, ประภัสรา ศิริกาญจน์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีฟันผุของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ: การวิเคราะห์พหุระดับ. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2567;16(4):75-86.
เจษฎาภรณ์ แสนวัง, ชนัญญา จิระพรกุล, เนาวรัตน์ มณีนิล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการกลับเป็นซ้ำของโรคเหาในเด็กนักเรียนหญิง ระดับประถมศึกษาตอนต้น จังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2564;14(1):80-9.
วัชรพงษ์ เรือนคำ, นงค์รักษ์ สงวนกิจรุ่งนภา, พัชรา ก้อยชูสกุล. แนวปฏิบัติที่ในการป้องกันและควบคุมโรคเหาในโรงเรียนนางแล เชียงราย ในการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 27 [อินเทอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 2568 กุมภาพันธ์ 25]. เข้าถึงได้จาก: https://www.journal.nu.ac.th/JCDR/article/download/1294/873
สุภาวดี อรรคพัฒน์. ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคล ครอบครัว และชุมชน กับภาวะอ้วนของเด็กวัยเรียน เขตพื้นที่การศึกษาที่ 2 จังหวัดชลบุรี [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน]. ชลบุรี: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา; 2558.
ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. ภาวะสายตาสั้นในเด็ก ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม [อินเทอร์เน็ต]. 2568 [เข้าถึงเมื่อ 2568 กุมภาพันธ์ 25]. เข้าถึงได้จาก: https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/january-2025/myopia-in-children
สิราภรณ์ เศรษฐบรรจง. งานวิจัยการสำรวจสายตาผิดปกติของเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในจังหวัดขอนแก่น. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม 2565;19(3):189-95.
กัมปนาท คำสุข, บานเย็น ล้านภูเขียว, จริยา เสาเวียง. พฤติกรรมการบริโภคอาหารต่อภาวะโภชนาการในเด็กนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองรังกา จังหวัดนครราชสีมา [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 2568 กุมภาพันธ์ 25]. เข้าถึงได้จาก: http://journal.nmc.ac.th/th/admin/Journal/2562Vol9No1101.pdf
วีระชัย ตันตินิกร. ความบกพร่องทางการได้ยินในเด็ก [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 2568 กุมภาพันธ์ 25]. เข้าถึงได้จาก: https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/august-2017/children-hearing-problems2567
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2025 REGIONAL HEALTH PROMOTION CENTER 9 JOURNAL

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ประกฎในวารสารศูนย์อนามัยที่ 9 เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน บรรณาธิการ คณะผู้จัดทำ และศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (เจ้าของ) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผลการพิจารณาของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด คณะบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความเหมาะสม
กองบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาใด ๆ ของบทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลการประเมินบทความในวารสารฯ ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์อนามัยที่ 9