ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแนวทางการส่งเสริมการใช้พืชผักสมุนไพร เพื่อยกระดับเมนูอาหารสุขภาพ:กรณีแหล่งท่องเที่ยวลุ่มน้ำตาปี

ผู้แต่ง

  • กุสุมาลย์ น้อยผา สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดพัทลุง วิทยาเขตพัทลุง
  • ธนวรรณ บัวเจริญ สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง
  • โสมศิริ เดชารัตน์ สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง https://orcid.org/0000-0001-7621-2008

คำสำคัญ:

สมุนไพร, อาหารเพื่อสุขภาพ, ลุ่มน้ำตาปี, พืชผักท้องถิ่น, การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, การพัฒนาชุมชนเป็นฐาน

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแนวทางการส่งเสริมการใช้พืชผักสมุนไพรเพื่อยกระดับเมนูอาหารสุขภาพในแหล่งท่องเที่ยวลุ่มน้ำตาปี เป็นการวิจัยเชิงปริมาณแบบภาคตัดขวาง โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม จากกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 185 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามมีค่า ความตรงเชิงเนื้อหา เท่ากับ 0.987 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยสถิติไคสแควร์ (Pearson’s chi-square) กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05

ผลการศึกษาพบว่า พืชผักสมุนไพรที่นิยมใช้ในเมนูสุขภาพในพื้นที่มี 8 ชนิด ได้แก่ ผักเหลียง ผักกูด ตำลึง ตะไคร้ ถั่วพู ข่า กะเพรา และใบรา โดยการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า ระยะเวลาเปิดกิจการ การรับรู้ด้านสรรพคุณและวิธีใช้ ทัศนคติ และปัจจัยแวดล้อม เช่น ความต้องการของผู้บริโภค สื่อประชาสัมพันธ์ และการรับรู้นโยบายภาครัฐ มีความสัมพันธ์กับแนวทางการส่งเสริมการใช้พืชผักสมุนไพรเพื่อยกระดับเมนูอาหารสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p<0.01 กลุ่มที่มีการรับรู้และทัศนคติเชิงบวกมีแนวโน้มสนับสนุนการส่งเสริมการใช้พืชผักสมุนไพรเพื่อยกระดับเมนูอาหารสุขภาพสูง เช่นเดียวกับผู้ที่ได้รับข้อมูลจากโฆษณาหรือรับรู้นโยบายภาครัฐ ทั้งนี้ผลการวิจัยสามารถนำไปใช้ในการกำหนดแนวทางเชิงนโยบาย ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

ประวัติผู้แต่ง

กุสุมาลย์ น้อยผา, สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดพัทลุง วิทยาเขตพัทลุง

รองศาสตราจารย์

ธนวรรณ บัวเจริญ, สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารย์

โสมศิริ เดชารัตน์, สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

รองศาสตราจารย์

เอกสารอ้างอิง

Knowledge Portal. Gastronomy Tourism: ท่องเที่ยวเชิงอาหาร สัมผัสวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น [อินเตอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 2568 กันยายน 25]. เข้าถึงได้จาก:https://knowledgeportal.okmd.or.th/valuechain/66ffa4f3bcd34

World Tourism Organization (UNWTO). International Tourism Highlights, 2019 Edition [Internet]. 2019 [cited 2025 Sep 25]. Available from: https://www.e-unwto.org/doi/pdf/10.18111/9789284421152

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. Tourism Statistics 2562 [อินเตอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 2568 กันยายน 25]. เข้าถึงได้จาก: https://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=618

Suksanga A, Siripongvutikorn S, Leelawattana R, Yupanqui CT, Idowu AO. Assessment of Biological Activities, Acute and Sub-chronic Toxicity of Liang (Gnetum gnemon var. tenerum) Leaves Powder, a Natural Product. Biol Pharm Bull. 2023 Dec 1;46(12):1666-1675. doi: 10.1248/bpb.b23-00208.

ดลฤดี พิชัยรัตน์, นพรัตน์ มะเห. ผลของการลวกต่อปริมาณสารประกอบฟีนอลิกและสมบัติการต้านปฏิกิริยาออกซิเดชันของผักพื้นบ้านภาคใต้บางชนิด. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. 2557;6(2):36-46.

ศรีโสภา เรืองหนู, รุจิลักขณ์ รัตตะรมย์, อรุณพร อิฐรัตน์. ฤทธิ์ความเป็นพิษของผักพื้นบ้านไทยต่อเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก. ธรรมศาสตร์เวชสาร. 2562;19(12):70–8.

มนตรี แก้วดวง, วิเซ็น ดวงสา. ผักกูด อาหารต้านอนุมูลอิสระ. วารสารหมอชาวบ้าน. 2556;55(412):10-4.

นิดดา หงส์วิวัฒน์. ตำลึง เจ้าแห่งวิตามินเอในผักสีเขียว. ครัว. 2554;18(205):24.

Khonsung P. ตะไคร้. Thai J Pharmacol. 2012;34(2):37-50.

Somtrakoon K, Chouychai W, Lee H. Comparing anthracene and fluorene degradation in anthracene and fluorene-contaminated soil by single and mixed plant cultivation. Int J Phytoremediation. 2014;16(4):415-28. doi: 10.1080/15226514.2013.803024.

Sundari SKK, Valarmathi R, Dayabaran D, Mohamed PN. Studies on the anti-inflammatory activity of Gugula Thiktha Kashayam (GTK). Indian Drugs. 2001;38(7):380-2.

Chaiyana W, Anuchapreeda S, Somwongin S, Marsup P, Lee KH, Lin WC, Lue SC. Dermal Delivery Enhancement of Natural Anti-Ageing Compounds from Ocimum sanctum Linn. Extract by Nanostructured Lipid Carriers. Pharmaceutics. 2020 Mar 29;12(4):309. doi: 10.3390/pharmaceutics12040309.

Ulanowska M, Olas B. Biological Properties and Prospects for the Application of Eugenol-A Review. Int J Mol Sci. 2021 Apr 1;22(7):3671. doi: 10.3390/ijms22073671.

Singh D, Chaudhuri PK. A review on phytochemical and pharmacological properties of Holy basil (Ocimum sanctum L.). Ind Crops Prod. 2018;118:367–82. doi: 10.1016/j.indcrop.2018.03.048

Shahrajabiana MH, Sun W, Cheng Q. Chemical components and pharmacological benefits of Basil (Ocimum basilicum): a review. Int J Food Prop. 2020;23(1):1961-70. doi: 10.1080/10942912.2020.1828456

บุญเลี้ยง สุพิมพ์, อรทัย ปานเพชร, มธุรส ชลามาตย์, นรุวรรณ อยู่สำราญ, ปิยะพงษ์ ชุมศรี. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเลือกใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชนบ้านสวนห้อม ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2566;12(2):36-46.

แสงแข สพันธุพงศ์. การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชสมุนไพรที่ใช้ประกอบอาหารในชุมชนตำบลหนองลาน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต. 2560;5(2):260-9.

วรรณา คำปวนบุตร, จรินทร์ ฟักประไพ. รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสัมผัสวิถีชีวิตเกษตรในชุมชนต้นแบบบ้านหัวขัว อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม. 2567;8(1):26-40.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-21

รูปแบบการอ้างอิง

น้อยผา ก., บัวเจริญ ธ., & เดชารัตน์ โ. (2025). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแนวทางการส่งเสริมการใช้พืชผักสมุนไพร เพื่อยกระดับเมนูอาหารสุขภาพ:กรณีแหล่งท่องเที่ยวลุ่มน้ำตาปี. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9 : วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 20(1), 368–378. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHPC9Journal/article/view/278085

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย