ผลการพัฒนาระบบการตรวจค้นหาโรคไขมันคั่งตับชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และผลการรักษาในเด็กที่มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ

ผู้แต่ง

  • จงกล คลังสมบัติ โรงพยาบาลชัยภูมิ
  • บุปผารัตน์ อ่อนชมจันทร์ โรงพยาบาลชัยภูมิ

คำสำคัญ:

การตรวจค้นหา, ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่มีแอลกอฮอล์, น้ำหนักเกิน-อ้วน, เด็ก

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการตรวจค้นหาโรคไขมันคั่งตับชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และผลการรักษาในเด็กที่มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากร จำนวน 27 คน เด็กอายุ 7-18 ปี จำนวน 764 คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถาม การวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา, Chi-square test, Paired t-test และ Logistic regression

ผลการวิจัยพบว่า ระบบการตรวจค้นหาโรคไขมันคั่งตับในเด็ก ดังนี้ การซักประวัติ การตรวจอัลตราซาวด์ และโปรแกรมการป้องกันโรคไขมันคั่งตับ พบว่า หลังพัฒนาปฏิบัติการตรวจค้นหาโรคไขมันคั่งตับโดยรวมเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 48.1 เป็นร้อยละ 92.6 ปัจจัยการเกิดโรคไขมันคั่งตับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) ได้แก่ อายุ อาการ โรคกรรมพันธุ์ สมาชิกครอบครัวอ้วน ดัชนีมวลกาย รอบเอว และความดันโลหิต กลุ่มเด็กมีพฤติกรรมการป้องกันโรคไขมันคั่งตับโดยรวมเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 71.5 เป็นร้อยละ 80.5 ปัจจัยทำนายการเกิดโรคไขมันคั่งตับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) มี 5 ปัจจัยจากทั้งหมด 12 ปัจจัย (ร้อยละ 41.7) เรียงตามค่า OR adjust ดังนี้ โรคกรรมพันธุ์-ไขมันคั่งตับ 2.64 เท่า (OR=2.64) สมาชิกในครอบครัวที่มีรูปร่างอ้วน 2.28 เท่า (OR=2.28) และดัชนีมวลกาย 1.73 เท่า (OR=1.73) อายุ 7-14 ปี 0.58 เท่า (OR=0.58) และเด็กที่มีพฤติกรรมการป้องกันโรคไขมันคั่งตับระดับปานกลาง 0.56 เท่า (OR=0.56) ตามลำดับ ผลตรวจค้นหาพบความชุกโรคไขมันคั่งตับ ร้อยละ 77.9 ดังนั้น บุคลากรสามารถนำไปตรวจค้นหาโรคไขมันคั่งตับในเด็กได้ 

ประวัติผู้แต่ง

จงกล คลังสมบัติ, โรงพยาบาลชัยภูมิ

พ.บ., วว. รังสีวิทยาทั่วไป

บุปผารัตน์ อ่อนชมจันทร์, โรงพยาบาลชัยภูมิ

พ.บ., วว. รังสีวิทยาทั่วไป

เอกสารอ้างอิง

สมาคมกุมารเวชศาสตร์ทางเดินอาหารและตับแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคตับคั่งไขมันในเด็ก พ.ศ. 2566. กรุงเทพฯ: ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย [อินเตอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 28 มีนาคม 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://pthaigastro.org/Document_Preview.aspx?TID=234

Iqbal U, Perumpail BJ, Akhtar D, Kim D, Ahmed A. The Epidemiology, Risk Profiling and Diagnostic Challenges of Nonalcoholic Fatty Liver Disease. Medicines (Basel). 2019 Mar 18;6(1):41. doi: 10.3390/medicines6010041.

Jimenez-Rivera C, Hadjiyannakis S, Davila J, Hurteau J, Aglipay M, Barrowman N, Adamo KB. Prevalence and risk factors for non-alcoholic fatty liver in children and youth with obesity. BMC Pediatr. 2017 Apr 26;17(1):113. doi: 10.1186/s12887-017-0867-z.

Vos MB, Abrams SH, Barlow SE, Caprio S, Daniels SR, Kohli R, et al. NASPGHAN Clinical Practice Guideline for the Diagnosis and Treatment of Nonalcoholic Fatty Liver Disease in Children: Recommendations from the Expert Committee on NAFLD (ECON) and the North American Society of Pediatric Gastroenterology, Hepatology and Nutrition (NASPGHAN). J Pediatr Gastroenterol Nutr. 2017 Feb;64(2):319-334. doi: 10.1097/MPG.0000000000001482.

Yu Q, Liu Y, Hu P, Gao F, Huang G. Performance of Imaging Techniques in Non-invasive Diagnosis of Non-alcoholic Fatty Liver Disease in Children: A Systematic Review and Meta-Analysis. Front Pediatr. 2022 Jul 11;10:837116. doi: 10.3389/fped.2022.837116.

Sahota AK, Shapiro WL, Newton KP, Kim ST, Chung J, Schwimmer JB. Incidence of Nonalcoholic Fatty Liver Disease in Children: 2009-2018. Pediatrics. 2020 Dec;146(6):e20200771. doi: 10.1542/peds.2020-0771.

Cholongitas E, Pavlopoulou I, Papatheodoridi M, Markakis GE, Bouras E, Haidich AB, Papatheodoridis G. Epidemiology of nonalcoholic fatty liver disease in Europe: a systematic review and meta-analysis. Ann Gastroenterol. 2021;34(3):404-414. doi: 10.20524/aog.2021.0604.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ. ระบบสารสนเทศสนับสนุนงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข. ชัยภูมิ: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ [อินเตอร์เน็ต]. 2568 [เข้าถึงเมื่อ 2568 กุมภาพันธ์ 1]. เข้าถึงได้จาก: https://dashboard.anamai.moph.go.th

Jagtap N, Hs Y, Tandan M, Basha J, Chavan R, Nabi Z, et al. Clinical utility of ESGE and ASGE guidelines for prediction of suspected choledocholithiasis in patients undergoing cholecystectomy. Endoscopy. 2020 Jul;52(7):569-573. doi: 10.1055/a-1117-3451.

นิพิฐพนธ์ สนิทเหลือ. การคำนวณขนาดตัวอย่างด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป G*POWER. [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 2568 มกราคม 13]. เข้าถึงได้จาก: https://bri.mcu.ac.th/wp-content/uploads/2022/05/4.1

Kemmis S, McTaggart R. The Action Research Planner. 3rd ed. Geelong, Victoria, Australia: Deakin University Press; 1988.

Bloom BS. Hand Book on formative and summative evaluation of student learning. New York McGraw-Hill; 1971.

Likert R. “The Method of Constructing an Attitude Scale,” Reading in Attitude Theory and Measurement. edited by Martin Fishbein. New York: John Wiley & Son; 1974.

Best JW. Research in Education. New Jersey: Prentice hall Inc.; 1977.

ชญานิศ โฆสิตะมงคล. คะแนนทำนายความเสี่ยงในการเกิดโรคไขมันคั่งตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ที่มีพังผืดในตับอย่างมีนัยสำคัญในผู้ป่วยกลุ่มอาการเมตาบอลิก. [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาระบาดวิทยาคลินิก] กรุงเทพฯ: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2564.

สุปราณี จ้อยรอด. การพัฒนารูปแบบการป้องกันภาวะน้ำหนักเกินในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โดยการมีส่วนร่วมของพหุภาคีในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก จังหวัดฉะเชิงเทรา. [วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิต]. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2565.

Kwak MS, Chung GE, Yang JI, Yim JY, Chung SJ, Jung SY, Kim JS. Clinical implications of controlled attenuation parameter in a health check-up cohort. Liver Int. 2018 May;38(5):915-923. doi: 10.1111/liv.13558.

Karjoo S, Auriemma A, Fraker T, Bays HE. Nonalcoholic fatty liver disease and obesity: An Obesity Medicine Association (OMA) Clinical Practice Statement (CPS) 2022. Obes Pillars. 2022 Jul 8;3:100027. doi: 10.1016/j.obpill.2022.100027.

ถิรวุฒิ อินทเจริญศานต์, นิตยา ธรรมแงะ, ศศิลาวัณย์ ศรีวงษ์, ปิยฉัตร ดีสุวรรณ. การสร้างระบบคะแนนเพื่อคัดกรองภาวะไขมันพอกตับในผู้ที่มารับการตรวจสุขภาพ. Journal of the Phrae Hospital 2564; 29(2):102-15.

ชุติมันต์ อุดมพรมงคล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะไขมันพอกตับในกลุ่มผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องอัลตราซาวน์ช่องท้องในเขตอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 2562;2(3):182-92.

ชลิดา กิตติรุ่งเรือง. การใช้อัลตราซาวด์อีลาสโตกราฟีประเมินภาวะพังผืดของตับในผู้ป่วยที่มีภาวะโภชนาการเกิน ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะไขมันพอกตับในอำเภออุทุมพรพิสัย โดยเปรียบเทียบกับค่า FIB-4 index และ NAFLD fibrosis score. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ. 2567;3(2):105-17.

นันทรัตน์ บุญญารัชต์. ความชุกของภาวะตับคั่งไขมันชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ในข้าราชการตำรวจโดยการใช้เครื่อง Controlled Attenuation Parameter with Transient Elastography. วารสารพยาบาลตำรวจ 2564; 13(2):408-17.

สุกัญญา คณะวาปี, เกศินี สราญฤทธิชัย. ผลของโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพร่วมกับโรงเรียนรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคอ้วนในเด็กวัยเรียนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน 2565;8(03):105-10.

ทิพยกาญจน์ มะโนประเสริฐกุล, ภัทรมนัส พงศ์รังสรรค์. ความชุกและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนของเด็กนักเรียนประถมศึกษา: ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนของเด็กนักเรียนประถมศึกษา. พุทธชินราชเวชสาร. 2563;37(2):159-69.

หทัยชนก เนื่องจุ้ย. ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับโรคอ้วน ในกลุ่มเด็กระดับมัธยมศึกษาตอนต้น. เชียงรายเวชสาร 2564;13(3): 133-45.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-22

รูปแบบการอ้างอิง

คลังสมบัติ จ., & อ่อนชมจันทร์ บ. (2025). ผลการพัฒนาระบบการตรวจค้นหาโรคไขมันคั่งตับชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และผลการรักษาในเด็กที่มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9 : วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 20(1), 379–393. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHPC9Journal/article/view/278918

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย