รูปแบบการจัดการที่มีอิทธิพลต่อความเป็นเลิศของการกีฬาแห่งประเทศไทย

Main Article Content

ประชุม บุญเทียม
ดำรงศักดิ์ จันโททัย
นิลมณี ศรีบุญ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจัยด้านการจัดการที่มีอิทธิพลต่อความเป็นเลิศแห่งองค์กร 2) วิเคราะห์ปัจจัยเชิงยืนยันของตัวแปรสมการโครงสร้างรูปแบบการจัดการที่มีผลต่อความเป็นเลิศแห่งองค์กร 3) ตรวจสอบระดับความสำคัญและความสอดคล้องของรูปแบบการจัดการโมเดลสมการโครงสร้าง และ 4) ตรวจสอบขนาดผลกระทบอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมของปัจจัยการจัดการเชิงสาเหตุที่มีผลต่อความเป็นเลิศแห่งองค์กร โดยกลุ่มตัวอย่าง 1,200 คน เลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) จากผู้ให้บริการ คือผู้ปฏิบัติงานสังกัดการกีฬาแห่งประเทศไทย 400 คน และผู้ใช้บริการ 800 คน โดยใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเป็นเลิศแห่งองค์กร 9 ด้าน เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ซึ่งได้ทดสอบความเที่ยงตรงจากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน มีความเที่ยงตรงโดยค่า IOC= 0.97 และได้ทดสอบความเชื่อมั่นจากกลุ่มประชากรที่ไม่ได้ถูกเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งได้ค่าความเชื่อมั่น ครอนบาคอัลฟ่า ที่ 0.98 โดยใช้สถิติการวิเคราะห์อิทธิพลของปัจจัยตามรูปแบบสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) จากโปรแกรมเอ็มพลัส


ผลการวิเคราะห์พบว่า 1) สภาพปัจจัยการจัดการที่มีอิทธิพลต่อความเป็นเลิศแห่งองค์กร กกท. 9 ด้าน 2) ปัจจัยเชิงยืนยันของตัวแปรสมการโครงสร้างรูปแบบการจัดการที่มีอิทธิพลต่อความเป็นเลิศแห่งองค์กร พบว่าการสุ่มข้อมูลของตัวแปรมีความเหมาะสมทุกตัวแปร 3) โมเดลการจัดการสมการโครงสร้างของปัจจัยที่มีต่อความเป็นเลิศแห่งองค์กร มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในระดับพอใช้ 4) อิทธิพลทางตรงและทางอ้อมของปัจจัยการจัดการเชิงสาเหตุมีผลกระทบต่อความเป็นเลิศแห่งองค์กร ปัจจัย 6 ด้าน อยู่ในระดับดี


การวิจัยในครั้งนี้เกิดข้อค้นพบที่สามารถแนะนำได้ว่าการพัฒนาภาวะผู้นำในเรื่องพฤติกรรมการเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และสามารถใช้อำนาจอ่อนในการโน้มน้าวและช่วยส่งเสริมสนับสนุนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งนอกจากนั้นปัจจัยที่มีความสำคัญของการสร้างองค์กรแห่งความเป็นเลิศนั้นขึ้นอยู่กับการสร้างความพึงพอใจในงานด้วยการใช้แรงจูงใจและปรับปรุงบุคลากรให้มีขวัญกำลังใจและสมรรถนะในการให้บริการที่มีคุณภาพให้กับผู้รับบริการ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
บุญเทียม ป. ., จันโททัย ด. ., & ศรีบุญ น. . (2025). รูปแบบการจัดการที่มีอิทธิพลต่อความเป็นเลิศของการกีฬาแห่งประเทศไทย. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 17(3), 77–90. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/269595
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2010). Multivariate data analysis (7th ed.). NJ: Pearson Prentice Hall.

Kline, R. B. (2011). Principle and practice of structural equation modeling (3rd ed.). NY: The Guilford Press.

McKinsey & Co. (2008). Enduring Ideas: The 7-S Framework. McKinsey Quarterly. Retrieved from

http://www.mckinsey.com/business-functions/strategy-and-corporate-finance/our-insights/enduring-ideas-the-7-s-framework

Nye, Jr. J. (2004). Soft power: The means to success in world politics. New York: Public Affairs.

Parasuraman, A., Zeithaml, V. A., & Berry, L. L. (1985). A conceptual model of service quality and its implications for future research. Journal of Marketing, 49(4), 41 – 50.

Wolf, E. J., Harrington, K. M., Clark, S. L., & Miller, M. W. (2013). Sample size requirements for structural equation models: An evaluation of power, bias, and solution propriety. Educational and psychological measurement, 73(6), 913 - 934.