แผนงานการบริหารจัดการการเตรียมความพร้อมประเทศไทย ให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีคุณภาพ
คำสำคัญ:
การท่องเที่ยวเชิงกีฬา, การท่องเที่ยวเชิงสปา, แผนกลยุทธ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบทคัดย่อ
การยกระดับขีดความสามารถของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทยมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือจัดทำแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้านกีฬาและสปา นำชุดความรู้ใหม่ในการพัฒนากีฬาและสปาสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไปใช้ในสถานการณ์จริง และพัฒนาชุดความรู้ใหม่ที่สมบูรณ์ และเพื่อถอดบทเรียนการบริหารจัดการแผนงานวิจัยที่มีประสิทธิผล กลุ่มตัวอย่างได้มาแบบเจาะจงประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ประกอบการด้านสปาและกีฬาจำนวน 121 คน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 200 คน และทีมวิจัยโครงการและทีมนักวิจัยภายใต้แผนงาน 15 คน เครื่องมือประกอบด้วย แบบกรอกข้อมูลการทำ SWOT แบบสัมภาษณ์ผู้ประกอบการด้านกีฬาและสปา แบบสัมภาษณ์การประเมินผลตอบแทนทางสังคม และแนวคำถามสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการศึกษาพบว่า
1. แผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้านกีฬาและสปา ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ 10 ข้อ และแผนปฏิบัติการ 34 แผน
2. ชุดความรู้ใหม่ในการพัฒนากีฬาและสปาสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สมบูรณ์และนำไปใช้ได้จริง และผลตอบแทนทางสังคม พบว่าอัตราผลตอบแทนทางสังคมต่อการลงทุน 1 บาท เท่ากับ 22.54 และ 25.43 บาท โดยใช้อัตราคิดลดร้อยละ 3.5 สำหรับการจัดกิจกรรมจอมบึงมาราธอน 63 และธุรกิจสปาตามลำดับ
3. การถอดบทเรียนการบริหารจัดการการดำเนินการวิจัยของแผนงานได้ 6 ข้อค้นพบได้แก่ 1) การเตรียม
การดำเนินแผนงานวิจัย 2) การดำเนินการตามกระบวนการดำเนินงานของแผนงานวิจัย 3) ผลผลิตและผลลัพธ์
ของแผน 4) ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ 5) ปัจจัยความสำเร็จของแผนงานวิจัย และ 6) คุณสมบัติ ความรู้ความสามารถของหัวหน้าแผนงานวิจัย
ผลการวิจัยที่ได้สามารถไปใช้ในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทยในการมุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีคุณภาพ
เอกสารอ้างอิง
Chulalongkorn University Intellectual Property Institute. (2017). Industry and technology trend analysis report: Tourism industry, good income and health tourism. Intellectual Property and Innovation Entrepreneur Development Project. Bangkok: Author. (in Thai)
Department of Tourism. (2015). ASEAN tourism standards. (in Thai) Retrieved from http://www.tourism.go.th/
Kellogg Foundation. (2004). Logic model development guide. Michigan: W. K. Kellogg Foundation. Retrieved from https://www.aacu.org/sites/default/files/LogicModel.pdf
Kunaviktikul, W., WichaiKhum, O., Thungjarealkul, P., Abhicharttibutra, K., Nantsupawat, A., & Wannapong, S. (2021) Administrative plan for Thailand to be a quality wellness tourism destination project. Chiang Mai: Thailand. (in Thai)
Ministry of Tourism and Sports. (n.d.). Strategic of Thailand tourism B.E. 2015 – 2017. Bangkok: Office of Printing Works, The War Veterans Organization of Thailand. (in Thai)
Nakhon Si Thammarat Rajabhat University. (2018). Lecture note of the study and practice on cultural tourism routes and ecotourism in the Northeast and the East with integration with teaching and research in the field of cultural studies for tourism project. (in Thai) Retrieved from http://human.nstru.ac.th/human2018/document/doc_news/les43.pdf
Office of the Secretary National Strategy Board, Office of the National Economics and Social Development Council. (n.d.). National strategy 2018 - 2037 (short version). Bangkok: Office of the National Economic and Social Development Council. (in Thai)
Office of the National Economic and Social Development Council. (2021). Social outlook 03/2021.
(in Thai) Retrieved from https://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=5491&filename=socialoutlook_report.
Panich, V. (2005). Knowledge management for practice. Bangkok: Tathata.
Pasiphon, C. (2017). Social return on investment (SROI). Journal of Education Studies, 45(4), 342-352.(in Thai)
PaoIn, N. (2018). Public policy: Strategic planning and strategic management. Nonthaburi: Ratnatrai. (in Thai)
Stufflebeam, D. L. (1971). The relevance of the CIPP evaluation model for educational accountability. Atlantic City, NJ: Ohio State University, USA.
Teeranon, K. (2018). Thailand’s wellness tourism: Situation and potential towards competition of ASEAN Region. FEU Academic Review, (12), 22-34. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 พยาบาลสาร
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
