การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์โดยใช้แนวคิดการเรียนแบบรู้จริง
คำสำคัญ:
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน, การเรียนแบบรู้จริง, กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์บทคัดย่อ
การจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับกฎหมายการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันพยาบาลจากความผิดพลาดในการดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐาน การถูกฟ้องร้องและการถูกลงโทษทางกฎหมาย การวิจัยเชิงพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนในกระบวนวิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์โดยใช้แนวคิดการเรียนแบบรู้จริง(Mastery learning) โดยศึกษาในประชากรนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เรียนกระบวนวิชาดังกล่าวในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวนทั้งหมด 138 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 69 คน กลุ่มทดลองได้รับการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนแบบรู้จริง ในขณะที่กลุ่มควบคุมได้รับการสอนตามมาตรฐานปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการสอน 2) ชุดวีดีโอการบรรยายบนเว็บไซด์ 3) กรณีศึกษาสำหรับวิเคราะห์ในชั้นเรียน 4) แบบทดสอบความรู้ด้วยตนเองหลังเรียนบนเว็บไซด์ 5) แบบทดสอบความรู้ก่อนเรียนในชั้นเรียน 6)แบบทดสอบความรู้หลังเรียนก่อนการสอบกลางภาคและปลายภาค และ7) แบบสะท้อนคิดเกี่ยวกับวิธีการเรียนการสอน
ผลการวิจัยพบว่า
- 1. รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนแบบรู้จริง ในกระบวนวิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ประกอบด้วย 1) การยึดวัตถุประสงค์ของกระบวนวิชาซึ่งมีการกำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน 2) การแบ่งเนื้อหาการเรียนเป็นหัวข้อย่อยและกำหนดวัตถุประสงค์เฉพาะของแต่ละหัวข้อย่อย 3) การเลือกสื่อการเรียนรู้และกลวิธีในการสอนที่เหมาะสม ได้แก่ ชุดการเรียนบนเว็บ และการวิเคราะห์กรณีศึกษาในห้องเรียน 4) การทดสอบความรู้แบบสั้น ๆ หลังการเรียนในแต่ละหน่วยบนเว็บ และการทดสอบสั้น ๆ ก่อนเรียนในชั้นเรียน(quiz) และ 5) การค้นหาจุดอ่อนโดยใช้ผลการประเมินจากแบบทดสอบ และการวิเคราะห์กรณีศึกษาและปรับปรุงแก้ไข
- 2. ประสิทธิผลของการเรียนการสอนในผู้เรียนกลุ่มทดลองที่มีการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนแบบรู้จริงดีกว่ากลุ่มควบคุมที่ใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบมาตรฐานปกติ โดยกลุ่มทดลองมีผลคะแนนการสอบโดยใช้แบบทดสอบความรู้หลังเรียนก่อนการสอบกลางภาคและก่อนการสอบปลายภาคสูงกว่าในกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (t=3.48, p < .001 และ t=2.93, p < .01)
ผู้บริหารการศึกษาของคณะพยาบาลศาสตร์ สามารถใช้ผลการศึกษาครั้งนี้ในการส่งเสริมให้คณาจารย์ผู้สอนในกระบวนวิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ได้นำรูปแบบการเรียนแบบรู้จริงไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน ส่วนผู้สอนสามารถนำผลการวิจัยไปปรับใช้หรือปรับปรุงการเรียนการสอนให้มีความเหมาะสมต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กลุ่มวิชาบริหารการพยาบาล. (2555). รายงานโครงการสัมมนาการเรียนการสอนหลักสูตรพยาบาล ศาสตรบัณฑิตประจำปีการศึกษา 2555. เชียงใหม่: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ทิศนา แขมมณี. (2550). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2554). รูปแบบการเรียนการสอน: ทางเลือกที่หลากหลาย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พรจันทร์ สุวรรณชาต. (2552). พยาบาลกับการประกอบวิชาชีพที่อาจถูกฟ้องร้องได้. วารสารสภาการพยาบาล, 24(2), 11-13.
พิกุลทิพย์ หงส์เหิร. (2541). กฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์. ใน พรจันทร์ สุวรรณชาต. (บรรณาธิการ.), กฎหมายกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์. (พิมพ์ครั้งที่ 1) กรุงเทพฯ: เดอะเบสท์ กราฟฟิค แอนด์ ปรินท์.
วิจารณ์ พาณิช.(2556ก). ครูเพื่อศิษย์สร้างห้องเรียนกลับทาง. กรุงเทพฯ: เอส.อาร์.พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์.
วิจารณ์ พาณิช.(2556ข). การสร้างการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: ส.เจริญการพิมพ์.
Brandman, R. (May 13, 2013). What is Mastery Learning? Retrieved June 24, 2014 from http://blog.coursera.org/post/5035207 5945/ 5-tips-learn-more-effectively-in-class-with-mastery.
Fox, E. J. (2004). The personalized system of instruction: A flexible and effective approach to mastery learning. In D. J. Moran, & R. W. Molott (Eds.). Educational Psychology, 201-221. [Electronic version].
Gentile, J. R., & Lalley, J. P. (2003). Standards and mastery learning. Thousand Oaks: Corwin Press.
Joyce, B., Weil, M., & Calhoun, E. (2004). Model of teaching (7th ed.). Boston: Pearson/A and B.
Kelly, K. (2009). A multi-method study to determine the effectiveness of, and student attitudes to, online instructional videos for teaching clinical nursing skills. Nurse Education Today, 29, 292-300.
Kulik, C. C., Kulik, A. J. & Bangert-Drowns, R. L. (1990). Effectiveness of mastery learning progress: A meta-analysis. Review of educational research, summer 1990, 60(2), pp.265-299. (2004). Model of teaching (7th ed.). Boston: Pearson/A and B.
Mazarin, J. (n.d.). Mastery Learning Model: Definition, Theory & Approach. Retrieved June 24, 2014 from http://education-portal.com/academy/lesson/mastery-learning-model-definition-theory-approach.html#lesson.
Motamedi, V.(n.d.). Mastery Learning: An Effective Teaching Strategy. Retrieved July 7, 2017 from http://www.nyu.edu/classes/keefer/waoe/motamediv.htm
Roberts, D. S., Ingram, R. I., Flack, S. A., & Hayes, R. J. (2013). Implementation of mastery learning in nursing education. Journal of Nursing Education, 52(4), 234-237.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว