รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต
คำสำคัญ:
ทักษะในศตวรรษที่ 21 รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ รูปแบบการเรียนรู้จากการปฏิบัติบทคัดย่อ
รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา นับว่ามีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูผู้สอนจะต้องตระหนักและคำนึงถึง เพื่อเป็นการวางแผนการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนสามารถเกิดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่หลักสูตรกำหนด รวมทั้งมีคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ (คนเก่ง คนดี คนที่มีความสุข) และเกิดทักษะในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นสำหรับคนในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศตามนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” บนวิสัยทัศน์ที่ว่า “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักศึกษาพยาบาล โดยศึกษาและวิเคราะห์เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษา พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักศึกษาพยาบาล ได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้จากการปฏิบัติ ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมีการจัดกิจกรรมกระบวนการเรียนแบบใฝ่รู้ ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์อย่างเป็นระบบ จนสามารถสรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ทั้งนี้รูปแบบการเรียนรู้จากการปฏิบัติ ที่ส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักศึกษาพยาบาล ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ 2) การสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน 3) การนำเสนอความรู้ และ 4) การลงมือปฏิบัติหรือประยุกต์ใช้ความรู้
เอกสารอ้างอิง
ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2553). Active Learning. ข่าวสารวิชาการ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553.
ณัฐกร สงคราม. (2553). การออกแบบและพัฒนามัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2557). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 18). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
________. (2554). รูปแบบการเรียนการสอน: ทางเลือกที่หลากหลาย (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
________. (2543). 14 วิธีสอน สําหรับครูมืออาชีพ. กรุงเทพ ฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มนตรี ศิริจันทร์ชื่น. (2554). การสอนนักศึกษากลุ่มใหญ่ในรายวิชารายวิชา Gsoc 2101 ชุมชน กับการพัฒนา โดยใช้การสอนแบบ Active learning และการใช้บทเรียนแบบ e-learning. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่21. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสดศรี- สฤษดิ์วงศ์
วิโรจน์ สารรัตนะ. (2556). กระบวนทัศน์ใหม่ทางการศึกษากรณีทัศนะต่อการศึกษาศตวรรษที่21. กรุงเทพฯ : หจก.ทิพยวิสุทธ
สถาพร พฤฑฒิกุล. (2555). คุณภาพผู้เรียน เกิดจากกระบวนการเรียนรู้. วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 เดือนเมษายน - กันยายน.
สมจิต จันทร์ฉาย. (2557). การออกแบบและการพัฒนาการเรียนการสอน. คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
สุมน อมรวิวัฒน์. (2533). การสอนโดยสร้างศรัทธาและโยนิโสมนสิการ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ ตรีรณสาร.
ศักดิ์ชัย นิรัญทวี และไพเราะ พุ่มมั่น. (2542). วัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) การจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อการส่งเสริมคุณลักษณะเก่ง ดี มีสุข.กรุงเทพฯ : แว่นแก้ว.
ศักดา ไชกิจเจริญภิญโญ. (2548). สอนอย่างไรให้ Active Learning. วารสารนวัตกรรมการเรียนการสอน. 2, หน้า 12-15.
อรทัย มูลคํา และคณะ. (2543). Child Centered :Storyline Method: การบูรณาการหลักสูตรและการ
เรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง.พิมพ์ครั้งที่ 4.กรุงเทพมหานคร:ดวงกมลสมัย.
Council for the Curriculum, Examinations and Assessment . (2007). Active Learning and
Teaching Methods. A PMB publication, UK.
Johnson. D.W. & Johnson. R.T. (1974). Instructional goal structure : Cooperative. competitive,
or individualistic. Review of Educational Research, 44. 213-240.
Joyce, B, & Weil, M. (1996). Model of teaching. 5th ed. Boston : Allyn and Bacon.
Trilling, B., & Fadel, C. (2009). 21st Century Skills: Learning for Life in Our Times. San
Francisco, CA: Jossey-Bass.
Torrance, E. P. (1962). Guiding creative talent. NJ: Prentice-Hall.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว