ผลของโปรแกรมการโค้ชต่อการเตรียมพร้อมและภาระของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง
คำสำคัญ:
การโค้ช, การเตรียมพร้อม, ภาระ, ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองบทคัดย่อ
ผู้ที่รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ ทำให้มีข้อจำกัดในการทำกิจวัตรประจำวัน และส่งผลให้เป็นภาระต่อผู้ดูแล ผู้ดูแลจำเป็นต้องมีความพร้อมในการดูแล ดังนั้นการเตรียมพร้อมของผู้ดูแลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การดูแลมีประสิทธิภาพซึ่งการโค้ชเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยในการเตรียมผู้ดูแล การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง ชนิดเปรียบเทียบ 2 กลุ่ม วัดก่อน-หลัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการเตรียมพร้อมและภาระของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการโค้ชและกลุ่มที่ไม่ได้รับการโค้ช กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุโรคหลอดเลือดสมองที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด 52 ราย สุ่มเข้ากลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 26 ราย โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการโค้ชจากผู้วิจัยเป็นเวลา 12 สัปดาห์ และกลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติจากทีมสุขภาพ เครื่องมือที่ใช้ดำเนินการวิจัยประกอบด้วย 1)โปรแกรมการโค้ชสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง 2) คู่มือประกอบการให้ความรู้ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง 3) สมุดบันทึกสุขภาพของผู้สูงอายุโรคหลอดเลือดสมอง และ 4) วีดีทัศน์การฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) แบบบันทึกข้อมูลทั่วไปของผู้ดูแล 2) แบบสัมภาษณ์ความพร้อมในการดูแล และ 3) แบบสัมภาษณ์ภาระของผู้ดูแล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา สถิติทดสอบค่าทีชนิดสองกลุ่มที่เป็นอิสระต่อกัน และสถิติทดสอบค่าทีชนิดสองกลุ่มที่สัมพันธ์กัน
ผลการศึกษาพบว่า
- การเตรียมพร้อมและภาระของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองอยู่ในระดับปานกลาง
- การเตรียมพร้อมของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองกลุ่มที่ได้รับการโค้ชสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับการโค้ช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001)
- ภาระของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองกลุ่มที่ได้รับการโค้ชน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับการโค้ช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001)
- การเตรียมพร้อมของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองหลังได้รับการโค้ชสูงกว่าก่อนได้รับการโค้ช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001)
- ภาระของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองหลังได้รับการโค้ชน้อยกว่าก่อนได้รับการโค้ช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001)
เอกสารอ้างอิง
เพียงใจ ติรไพรวงศ์. (2540). สัมพันธภาพระหว่างผู้ดูแลผู้ป่วยและภาระการดูแลของสมาชิกครอบครัวผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลอนามัยชุมชน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล.
ศศิพัฒน์ ยอดเพชร และคณะ. (2552). ระบบการดูแลระยะยาวและกำลังคนในการดูแลผู้สูงอายุ: ทิศทางประเทศไทย. แผนงานวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ. มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.). กรุงเทพมหานคร.
สุดศิริ หิรัญชุณนะ.(2541). การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพที่บ้านของผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการพยาบาลศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล.
อรุณี ชุนหบดี, ธิดารัตน์ สุภานันท์, โรชินี อุปรา และ สุนทรีภรณ์ ทองไสย. (2555). ความเครียดและความต้องการของผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่บ้าน. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 24(1), 1-9.
American Stroke Association. (2013). Let ' s talk about complication After Stroke .
Retrieved March 18, 2013, from www.StrokeAssociation.org.
Archbold, P G., Stewart,B. J., Geenlick, M.R. & Harvarth, T. (1990). Mutuality and preparedness as predictors of caregiver role stain. Research in Nursing and Health, 13, 375-384
Bennett, H. D., Coleman, E. A., Parry, C., Bodenheimer, T., & Chen, E. H.. (2010). Health coaching for patients. Research on Family Practice Management, 17, 24-29.
Corry, M., While, A., Neenan, K., & Smith, V. (2015). A systematic review of systematic reviews on interventions for caregivers of people with chronic conditions. Journal of Advanced Nursing, 71(4), 718-734. doi: 10.1111/jan.12523
Donner, G. J., & Wheeler, M. M. (2009). Coaching in nursing: An introduction, International Council of Nurses: Honor Society of Nursing, Sigma Theta Tau International
Eliopoulos, C. (2014). Gerontological Nursing (eight ediction ed.). Philadelphia: Lippincott Williums & Wilkins.
Montgomery, R.J.V., Stull, D.E., & Borgatta, E.F. (1985). Measurement and the analysis of Burden. Research on Aging, 7(1), 137-152.
Pereira, R. A., Santos, E. B. d., Fhon, J. R. S., Marques, S., & Rodrigues, R. A. P. (2013). Burden on caregivers of elderly victims of cerebrovascular accident. Rev. esc. enferm. USP 47(1) 182-188.
Piamjariyakul, U., Reeder, K., Wongpiriyayothar, A., & Smith, C. (2011). Coaching: An Innovative Teaching Strategy in Heart Failure Home Management (J. Henderson & A. Lawrence Eds.). Hauppauge, NY: Nova Science Publishers.
Piamjariyakul, U., Smith, C. E., Russell, C., Werkowitch, M., & Elyachar , A. (2013). The feasibility of a telephone coaching program on heart failure home management for family caregivers: Heart & Lung: The Journal of Acute and Critical Care, 42, 32-39.
Sales, E. (2003). Family burden and quality of life.Quality of life research, 12, 33-41.
Schumacher, K.L., Stewart, B. J., & Archbold, P. G. (2008). Effect of caregiving demand,
mutuality, and preparedness on family caregiver outcome during cancer treatment. Oncology Nursing Forum, 35(1), 49-56.
Transalated Thai Referance
Pongcharoen, C., & Maneewong, J. (2014). The effects of preparing program on readiness
among hemorrhagic stroke patients caregivers before discharge at Chaophrayayommaraj Hospital, Suphanburi. Nursing Journal of The Ministry of Pubic Health, 21(1), 58-70. (in Thai)
Tirapaiwong, P. (1997). Therelationship among caregiver and burdenof family caregiver with
stroke patients. Master’s thesis. Nursing Science Program in Community Nurse Practitioner. Mahidol University.Bangkok. (in Thai)
Yodpet, S., Sasat, S., Bundhamcharoen, K.,Damrikarnlerd L., Limsaku, U., & Pagaiya, N.
(2009). Long-term Carefor Older Persons: Thailand's direction. Research for improve the quality of life in Older Persons. Foundation of ThaiGerontology Research and Development institute (TGRI). Bangkok.(in Thai)
Hirunchunha, S. (1998).Development of Home Care Modelfor Caregivers of stroke.
Doctoraldissertaton. Philosophy Program Nursing Science. Mahidol University.Bangkok. (in Thai)
Chunhabordee, A., Supanunt, T., Oupra, R., & Thongsai, S. (2011). CaregiversStress and
Needs in stroke patientsat home. Journal of Phrapokklao Nursing College,
Chanthaburi, 24(1),1-9.(in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว