การพัฒนาระบบฐานข้อมูลงานอนามัยครอบครัว กลุ่มกระบวนวิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ:
ระบบฐานข้อมูล, อนามัยครอบครัว, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่บทคัดย่อ
กระบวนการจัดบริการอนามัยครอบครัวนั้นทำให้ได้ข้อมูลสุขภาพในระดับครัวเรือนและบุคคล ข้อมูลด้านแนวทางการพยาบาลตามบริบทแต่ละครอบครัว ตลอดจนข้อมูลจากการประเมินผลหลังเสร็จสิ้นการให้บริการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมาก ขาดความเป็นระเบียบ และขาดความสะดวกในการดึงข้อมูลมาใช้ การวิจัยเชิงพัฒนาครั้งนี้กระทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาฐานข้อมูลงานอนามัยครอบครัวอย่างเป็นระบบ สำหรับใช้ในการลดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล การจัดการข้อมูลให้เป็นระบบ รวมถึงใช้ประกอบในการจัดการเรียนการสอน
การวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ 1. ระยะเตรียมการ เป็นระยะศึกษาความต้องการข้อมูลและองค์ประกอบของระบบฐานข้อมูล โดยใช้วิธีการสนทนากลุ่มร่วมกับการประชุมระดมสมอง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยอาจารย์พยาบาลจำนวน 6 คน 2.ระยะพัฒนาระบบ เป็นระยะของการดำเนินการสร้างระบบฐานข้อมูลและองค์ประกอบต่าง ๆภายในฐานข้อมูล และ 3.ระยะประเมินผล เป็นระยะประเมินความสามารถในการใช้งานระบบฐานข้อมูลงานอนามัยครอบครัวในสถานการณ์จริง โดยการใช้แบบสอบถามและแนวคำถามการสนทนากลุ่ม กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย อาจารย์พยาบาล จำนวน 6 คนและนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4 จำนวน 75 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการจัดหมวดหมู่เนื้อหา
ผลการวิจัย ระบบฐานข้อมูลการบริการอนามัยครอบครัวที่พัฒนาขึ้น เป็นลักษณะฐานข้อมูลออนไลน์ โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้ที่ http://mis.nurse.cmu.ac.th/familydb องค์ประกอบในฐานข้อมูลประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไประดับครัวเรือน ข้อมูลรายบุคคลของสมาชิกในครัวเรือน พฤติกรรมสุขภาพครอบครัว แผนการเยี่ยมบ้าน ปัญหาสุขภาพระดับครอบครัวและบุคคล การพยาบาลที่ให้ และสรุปผลการให้การพยาบาล จากการประเมินความสามารถในการใช้งานฯ พบว่ากลุ่มตัวอย่างมากกว่าร้อยละ 50 เห็นว่าระบบฐานข้อมูลนี้มีความเหมาะสมในการนำไปใช้ในสถานการณ์จริง และจากการสนทนากลุ่มได้ข้อสรุปว่าว่า ฐานข้อมูลที่พัฒนาขึ้นเป็นระบบที่เอื้อให้เกิดการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ลดการใช้เอกสารจำนวนมาก มีความสะดวกในการเข้าถึง และง่ายต่อการใช้งาน การจัดเก็บ รวมถึงการเข้าจัดการข้อมูลในระบบ ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างได้ให้ข้อเสนอแนะว่าควรมีการเพิ่มการบันทึกข้อมูลเชิงคุณภาพในส่วนรายละเอียดของการให้การพยาบาลเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และควรมีการรายงานผลการให้บริการแก่หน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิเพื่อการดูแลอย่างต่อเนื่องต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กายสิทธิ์ มุตะโสภา. (2537). การสร้างโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลโรงเรียนประถมศึกษาใน สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข. (2550). รายงานการประเมินตนเองเพื่อการประกันคุณภาพ การศึกษาปีการศึกษา 2550. คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ณัฐพร สุรพิทยานนท์. (2547). การพัฒนาฐานข้อมูลระบบการเรียนของนักเรียน โรงเรียนนาชาติ เปรมติณสูลานนท์. การค้นคว้าแบบอิสระ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยี สารสนเทศและการจัดการ, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วิลาวัณย์ เตือนราษฎร์และวราภรณ์ บุญเชียง. (2556). การพัฒนาระบบฐานข้อมูลงานอนามัย โรงเรียน กลุ่มกระบวนวิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วีณา จีระแพทย์. (2546). พัฒนาการระบบสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. เอกสาร ประกอบการสอนชุดวิชาสารนิเทศและการวิจัยทางการพยาบาล หน่วยที่ 1-7 . นนทบุรี:โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ประเวศ เวชชะ. (2537). การพัฒนาโปรแกรมระบบจัดการฐานข้อมูลของโรงเรียนประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร,. 627 หน้า. (วพ 70457)
ประเสริฐ เกิดไชยวงศ์. (2551).การพัฒนาระบบจัดการข้อมูลสารสนเทศออนไลน์ ด้านวัฒนธรรม ล้านนา,การค้นคว้าแบบอิสระวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและ การจัดการ,บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
โอภาส เอี่ยมศิริวงศ์. (2545). การออกแบบและจัดการฐานข้อมูล. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
Fongkaew, W. (2008). Factors influencing the online databases usage among undergraduate CMU Students at Central Library, Chiang Mai University, Independent Study Master of Arts, Graduate School; Chiang Mai University.
Stanhope, M., & Lancaster, J. (2004). Community & public health nursing. (6th ed.). St. Louis, Missouri: Mosby.
Swanson, J.M., & Nies, M. A. (1997). Community health nursing: Promoting health of Aggregates. (2nd ed.). Philadelphia: WB Saunders.
Translated Thai Reference
Ministry of the Interior. (2009). THE ELEVENTH NATIONAL ECONOMIC AND SOCIAL DEVELOPMENT PLAN (2012 - 2016). Retrieved from www.ldd.go.th/Thai- html/05022007/PDF/.../index.html.
Mutasopa,K. (1994). A Production of Database Manament Program forPrimary School’s Data in The Office of Chaing Mai Provincial Primary Education. Education Technology. Graduate school in Chiang Mai University.
Public Health Department. (2007). Self Assessment Report for Educational Quality Assurance year 2007. Faculty of Nursing,Chaing Mai University.
Surapithayanon,N. (2004). Database development for learning system of Prem Tinsulanonda International School. Independent Study; Master of Scince(Information Technology and Manament), Graduate school in Chiang Mai University.
Ternrat,W., Boonchaing,W. (2013). Development of the School Health Database System for Public Health Nursing Course, Faculty of Nursing. Ching Mai University.
Jirapaet,V. (2003).Development of health information systems. Teaching materials in Nursing Information and Research Series Unit 1-7. Nonthaburi: Publisher Sukhothai Thammathirat University.
Emysiriwong,O. (2002). Database design and management. Bankok: Publisher SE- EDUCATION.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว