ผลของการกระตุ้นการดูดกลืนต่อพฤติกรรมการดูดนมมารดาของทารกเกิดก่อนกำหนด

ผู้แต่ง

  • ศศิธร กิ่งนาละ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, จังหวัดเชียงใหม่
  • พิมพาภรณ์ กลั่นกลิ่น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • มาลี อื้ออำนวย รองศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

การกระตุ้นการดูดกลืน, พฤติกรรมการดูดนมมารดา, ทารกเกิดก่อนกำหนด

บทคัดย่อ

ทารกเกิดก่อนกำหนดมักมีปัญหาด้านการดูดกลืน ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดูดนมมารดาของทารกเกิดก่อนกำหนด การกระตุ้นการดูดกลืนอาจทำให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อในการดูดกลืนมีการพัฒนาดีขึ้น การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลอง เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการดูดนมมารดาของทารกเกิดก่อนกำหนดระหว่างทารกกลุ่มที่ได้รับการกระตุ้นการดูดกลืนและทารกกลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นทารกเกิดก่อนกำหนดอายุหลังปฏิสนธิ 30-32 สัปดาห์ ที่รับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตทารกแรกเกิดและหอผู้ป่วยทารกแรกเกิด โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม พ.ศ. 2557 จำนวน 20 ราย โดยคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ โดยการสุ่มแบบจับคู่ในด้านอายุหลังปฏิสนธิ น้ำหนัก ณ วันที่ทำการศึกษา และระยะเวลาในการใส่ท่อหลอดลมคอ เข้ากลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 10 ราย กลุ่มทดลองได้รับการกระตุ้นการดูดกลืนวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน และกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย คือ แผนการกระตุ้นการดูดกลืนในทารกเกิดก่อนกำหนด เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของทารกเกิดก่อนกำหนดและมารดา และแบบประเมินพฤติกรรมการดูดนมมารดาของทารกเกิดก่อนกำหนด (The Preterm Infant Breastfeeding Behavior Scale: PIBBS) สร้างโดยนิควิสและอีวาลด์ (Nyqvist & Ewald, 1999) มีความตรงของเนื้อหาเท่ากับ 1.0 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติฟิชเชอร์ สถิติทดสอบค่าทีชนิดสองกลุ่มอิสระต่อกัน และสถิติทดสอบค่าทีชนิดสองกลุ่มไม่อิสระต่อกัน

ผลการศึกษาพบว่า หลังการทดลองคะแนนพฤติกรรมการดูดนมมารดาของทารกเกิดก่อนกำหนดกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) และหลังการทดลองคะแนนพฤติกรรมการดูดนมมารดาของทารกเกิดก่อนกำหนดในกลุ่มทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001)

ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การกระตุ้นการดูดกลืนช่วยให้ทารกเกิดก่อนกำหนดมีพฤติกรรมการดูดนมมารดาดีขึ้น ดังนั้นพยาบาลจึงควรทำการกระตุ้นการดูดกลืนให้แก่ทารกเกิดก่อนกำหนดเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการดูดนมมารดาของทารกต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กนกวรรณ ติลกสกุลชัย, และ ชัยเลิศ พิชิตพรชัย. (2551). สรีรวิทยาระบบประสาทกลาง. ใน สุพรพิมพ์ เจียสกุล, สุพัตรา โลห์สิริวัฒน์, และ วัฒนา วัฒนาภา (บรรณาธิการ), สรีรวิทยา 3 (พิมพ์ครั้งที่ 4, หน้า 890-963). กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์.
จารุวรรณ สุขนิธิ, วัลยา ธรรมพนิชวัฒน์, ไข่มุก วิเชียรเจริญ, และ วิไล เลิศธรรมเทวี. (2555). ผลของโปรแกรมการกระตุ้นการดูดกลืนต่อความรู้ในการกระตุ้นการดูดกลืนของมารดาและความสามารถในการดูดนมของทารกเกิดก่อนกำหนด. วารสารสภาการพยาบาล, 27(1), 78-91.
ชลลดา ภูมิผล. (2539). ผลการใช้โปรแกรมกระตุ้นการดูดกลืนในทารกคลอดก่อนกำหนดต่อความพร้อมและประสิทธิภาพในการดูดนม (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
การพยาบาลกุมารเวชศาสตร์). บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข. (2555). สถิติสาธารณสุข 2555. ค้นเมื่อ 13 มกราคม 2556, จาก http://bps.ops.moph.go.th/Healthinformation/statistic54/statistic54.html
สุนทร ฮ้อเผ่าพันธ์. (2550). Respiratory distress and respiratory distress syndrome. ใน วราภรณ์ แสงทวีสิน, วิบูลย์ กาญจนพัฒนกุล, และ สุนทร ฮ้อเผ่าพันธ์ (บรรณาธิการ), ปัญหาทารก
แรกเกิด (หน้า 97-111). กรุงเทพฯ: ธนาเพรส.
สุอารีย์ อ้นตระการ, และ ธิดารัตน์ วงศ์วิสุทธิ์. (2552). ความรู้สู่การปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. ใน สุนทร ฮ้อเผ่าพันธุ์, พิมลรัตน์ ไทยธรรมยานนท์, และ เกรียงศักดิ์ จีระแพทย์ (บรรณาธิการ), Neonatology 2009 (หน้า 43-75). กรุงเทพฯ: ธนาเพลส.
หน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารก ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2556). Annual report: Maternal-fetal medicine 2013. ค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2557, จาก http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=167:ob-statistics&catid=31&Itemid=112
Amaizu, N., Shulman, R., Schanler, R., & Lau, C. (2008). Maturation of oral feeding skills in preterm infants. Acta Paediatrica, 97(1), 61-67. doi:10.1111/j.1651-2227.2007.00548.x
Bauer, M. A., Prade, L. S., Keske-Soares, M., Haeffner, L. S., & Weinmann, A. R. (2008). The oral motor capacity and feeding performance of preterm newborns at the time of transition to oral feeding. Brazilian Journal of Medical Biological Research, 41(10), 904-907. doi:10.1590/S0100-879X2008001000012
Beckman, D. (2011). Beckman oral motor. Retrieved from http://freepdfdb.com/pdf/beckman-oral-motor-7682559.html
Bier, J. A., Ferguson, A., Cho, C., Oh, W., & Vohr, B. R. (1993). The oral motor development of low-birth-weight infants who underwent orotracheal. American Journal of Diseases of Child, 147(8), 858-862.
Burns, N., & Grove, S. K. (2009). The practice of nursing research: Appraisal, synthesis, and generation of evidence (6th ed.). St. Louis: Saunders Elsevier.
Fucile, S., Gisel, E. G., & Lau, C. (2002). Oral stimulation accelerates the transition from tube to oral feeding in preterm infants. Journal of Pediatrics, 141(2), 230-236. doi:10.1067/mpd.2002.125731
Fucile, S., Gisel, E. G., & Lau, C. (2005). Effect of an oral stimulation program on sucking skill maturation of preterm infants. Developmental Medicine & ChildNeurology, 47(3), 158-162. doi:10.1111/j.1469-8749.2005.tb01109.x
Hwang, Y. S., Vergara, E., Lin, C. H., Coster, W. J., Bigsby, R., & Tsai, W. H. (2010). Effects of prefeeding oral stimulation on feeding performance of preterm infants. Indian Journal of Pediatrics, 77(8), 869-873. doi:10.1007/s12098-010-0001-9
Jones, E., & King, C. (2005). Feeding and nutrition in the preterm infant. Edinburgh: Elsevier Churchill Livingstone.
Lau, C. (2012). Development of oral feeding skills in the preterm infant: Handbook of growth and growth monitoring in health and disease. Retrieved from http://www.springer.com/ public+health/book/978-1-4419-1794-2.html
Lauwers, J., & Swisher, A. (2005). Counseling the nursing mother: A lactation consultant’s guide. Sudburg, Massashusette: Jones & Bartlett.
Lessen, B. S. (2011). Effect of the premature infant oral motor intervention on feeding progression and length of stay in preterm infants. Advances in Neonatal Care, 11(2), 129-139. doi:10.1097/ANC.0b013e3182115a2a
National Center for Health Statistics. (2013). Births: Preliminary data for 2013. National Vital Statistics Reports, 63(2), 1-28.
Nyqvist, K. H., & Ewald, U. (1999). Infant and maternal factors in the development of breastfeeding behavior and breastfeeding outcome in preterm infant. Acta Paediatrica, 88(11), 194-203.
Ramsay, D. T., Kent, J. C., Hartmann, R. A., & Hartmann, P. E. (2005). Anatomy of the lactating human breast redefined with ultrasound imaging. Journal of Anatomy, 206(6), 525-534. doi:10.1111/j.1469-7580.2005.00417.x
Rocha, A. D., Moreira, M. E., Pimenta, H. P., Ramos, J. R., & Lucena, S. L. (2007). A randomized study of the efficacy of sensory-motor-oral stimulation and non-nutritive sucking in very low birthweight infant. Early Human Development, 83(6), 385-388. doi:10.1016/j.earlhumdev.2006.08.003
Tenhaaf, J. J. (2008). Critical review: The effects of oral stimulation on feeding behaviours in preterm infants. Retrieved Novenber 13, 2013 from http://publish.uwo.ca/~larchiba/2008%20pdfs/Tenhaaf,JJ.pdf
Tudehope, D. I. (2009). Evidence base for feeding guidelines for preterm infant. Neonatal Nurses College Aotearoa Conference 2009, Christchurch, New Zealand. Retrieved Novenber 13, 2013 from http://www.nzno.org.nz/LinkClick.aspx?fileticket=gdLXm3Tp7Dc%3D&tabid=605.html

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-12-31

รูปแบบการอ้างอิง

กิ่งนาละ ศ., กลั่นกลิ่น พ., & อื้ออำนวย ม. (2017). ผลของการกระตุ้นการดูดกลืนต่อพฤติกรรมการดูดนมมารดาของทารกเกิดก่อนกำหนด. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 44(พิเศษ(1), 128–137. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/148056

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย