การปฏิบัติในการเฝ้าระวังและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดในโรงพยาบาลรัฐ
คำสำคัญ:
การปฏิบัติ, การเฝ้าระวัง, การติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด, ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง, โรงพยาบาลรัฐบทคัดย่อ
การเฝ้าระวังการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัด ช่วยให้ทราบสถานการณ์และแนวโน้มของการติดเชื้อตำแหน่งที่ผ่าตัด นำไปสู่การป้องกันการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพ และช่วยลดอุบัติการณ์การติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัด การวิจัยเชิงพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปฏิบัติในการเฝ้าระวังการ ติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลรัฐ ดำเนินการวิจัยตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ พยาบาลควบคุมการติดเชื้อหรือบุคลากรหลัก ที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดในโรงพยาบาลรัฐ 99 แห่ง ได้รับแบบสอบถามกลับคืน ร้อยละ 80.49 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามประกอบไปด้วย 4 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมูลทั่วไปของโรงพยาบาล การปฏิบัติการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด และปัจจัย ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า ร้อยละ 72.73 ของโรงพยาบาลรัฐมีการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด โดยพยาบาลควบคุมการติดเชื้อประจำหอผู้ป่วย วินิจฉัยการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดโดยใช้เกณฑ์การวินิจฉัยของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคประเทศสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 68.69 ผู้วินิจฉัยการติดเชื้อ คือศัลยแพทย์เจ้าของไข้ ร้อยละ 61.62 วิเคราะห์ข้อมูลการติดเชื้อทุกเดือน ร้อยละ 73.74 โดยบันทึกข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ ร้อยละ 51.52 มีการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่าย ร้อยละ 83.84 และมีการประเมินประสิทธิภาพการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด ร้อยละ 24.24 ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด พบว่า 1) ด้านโครงสร้าง มีพยาบาลควบคุมการติดเชื้อปฏิบัติงานเต็มเวลา ร้อยละ 71.72 2) ด้านกระบวนการ มีการจัดอบรมให้ความรู้ด้านการป้องกันการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดให้กับบุคลากรใหม่ ร้อยละ 73.74 และมีการจัดอบรมฟื้นฟูความรู้ให้กับบุคลากรผู้เกี่ยวข้อง ร้อยละ 84.85 3) ด้านผลลัพธ์ พยาบาลส่วนใหญ่เห็นว่าการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด ทำให้มีผลต่อระบบเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด ร้อยละ 61.62 และต้องการการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน ร้อยละ 88.89
ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า โรงพยาบาลรัฐมีการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดที่แตกต่างกัน ควรมีการดำเนินการวางแผนและพัฒนาการปฏิบัติการเฝ้าระวังการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดในโรงพยาบาลรัฐ เพื่อให้การเฝ้าระวังการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดในโรงพยาบาลรัฐในประเทศไทยให้มีมาตรฐานเดียวกัน
References
From http://www.cdc.gov/nhsn/pdfs/pscmanual/ 9pscssicurrent.pdf.
Chang, W. K., Srinivasa, S., MacCormick, A. D., & Hill, A. G. (2013). Gentamicin-Collagen Implants to reduce surgical site infection systematic review and meta-analysis of randomized trials. Annals of Surgery, 258(1), 59-65.
Danchaivijitr, S., Judaeng, T., Sripalakij, S., Naksawas, K., & Plipat, T. (2007). Prevalence of Nosocomial Infection in Thailand 2006. Journal Medicine Associated Thailand, 90(8), 1524-1529.
Kasatpibal, N., Thongpiyapoom, S., Narong, M., Suwalak, N., & Jamulitrat, S. (2005). Extra charge and extra length of postoperative stay attributable to surgical site infection in six selected operations. Journal of Medical Association of Thailand, 88(8), 1083-1090.
Kasatpibal, N. (2006). The development of surgical site nosocomial infection surveillance network in southern Thailand. Research Report: Health Systems Research Institute (HSRI). (In Thai)
Kasatpibal, N. (2010). Strategies for Improvement of Infection Prevention and Control. Chiang Mai: Mingmuang. (In Thai)
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Lamkar, U., Kasatpibal, N., & Chitreecheur, J. (2012). Effect of prevention of infection reinforcement among healthcare personnel on incidence of surgical site infection in caesarean section. Nursing Journal, 39(4), 85-96. (In Thai)
Leaper, D., Tanner, J., & Kiernan, M. (2013). Surveillance of surgical site infection: more accurate
definitions and intensive recording needed. Journal of Hospital Infection, 83, 83-86.
Niyomwit, K., & Prachusilpa, G. (2015). Competency of infectious control ward nurse. Journal of The Police Nurse, 7(1), 153-165. (In Thai)
Saranya Nimitkul. (2000). Effects of quality control circle on efficiency of nosocomial infection surveillance by infection control ward nurse in Trang Hospital. (Master’s thesis of Infection Control Nursing). Graduate School, Chiang Mai University. (In Thai)
Serra-Aracil, X., Garcia-Domingo, M. I., Pares, D., EspinBasany, E., Biondo, S., Guirao, X.,...Sitgr-Serra, A. (2011). Surgical site infection in elective operations for colorectal cancer after the application of preventive measures. Archives of surgery, 146(5), 606-612.
Thongcharoen, P., Moongtui, W., & Unahalekhaka, A. (2015). Effects of using multifaceted strategic method on practices of healthcare personnel in prevention of multidrug resistant bacterial infection. Nursing Journal, 42(1), 61-73. (In Thai)
Tanner, J., Padley, W., Kiernan, M., Leaper, D., Norrie, P., & Baggott, R. (2013). A benchmark too far: Findings from a national survey of surgical site infection surveillance. Journal of Hospital Infection, 83, 87 -91.
World Health Organization. (2009). Safe surgery saves lives WHO guidelines for safe surgery. Retrieved 4 February 2015 From http://www.whqlibdoc.who.int/publications/2009 /978924159 855 23_ eng.pdf.
Zarb, P., Coignard, B., Griskeviciene, J, Muller, A., Vankerckhoven, V., Weist, K.,…, Suetens, C. (2012). The European Centre for Disease Prevention and Control (ECDC) pilot point prevalence survey of healthcare-associated infections and antimicrobial use. Euro Surveillance, 17(46). Retrieved 4 February 2015 From: http://www.eurosurveillance.org/ViewArticle.aspx?ArticleId=20316
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
