ต้นทุนฐานกิจกรรมของการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ โรงพยาบาลเอกชน จังหวัดลำพูน
คำสำคัญ:
การวิเคราะห์ต้นทุน, ต้นทุนกิจกรรม, ตรวจสุขภาพเคลื่อนที่บทคัดย่อ
ต้นทุนฐานกิจกรรมการบริการมีความสำคัญต่อผู้บริหารโรงพยาบาลและผู้บริหารทางการพยาบาลในการบริหารทรัพยากรที่ใช้ในการให้บริการ การศึกษาเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนฐานกิจกรรมการบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ของการตรวจสุขภาพทั่วไป ที่ให้บริการโดยโรงพยาบาลเอกชน จังหวัดลำพูน และเปรียบเทียบต้นทุนฐานกิจกรรมการบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ของการตรวจสุขภาพทั่วไปกับค่าบริการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเอกชน จังหวัดลำพูน กำหนดกลุ่มตัวอย่างในการศึกษา คือ กิจกรรมการบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ของการตรวจสุขภาพทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2561 กรอบแนวคิดที่ใช้ในการวิเคราะห์ต้นทุนฐานกิจกรรมของ แคปแพลน และ คูเปอร์ (Kaplan & Cooper, 1998) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การจัดทำพจนานุกรม 2) กำหนดมูลค่าของปริมาณทรัพยากรที่ใช้ในแต่ละกิจกรรมขององค์กร 3) ระบุผลผลิต บริการ และลูกค้าขององค์กร 4) เลือกตัวผลักดันต้นทุน ที่เชื่อมโยงต้นทุนกิจกรรมกับผลผลิต บริการ และลูกค้าขององค์กร เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นประกอบด้วย พจนานุกรมกิจกรรม แบบบันทึกเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม แบบบันทึกต้นทุนค่าแรง ค่าวัสดุสิ้นเปลืองและค่าลงทุน และได้ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน ทดสอบความเที่ยงของการสังเกตระหว่างผู้เก็บข้อมูล 2 คน ได้เท่ากับ 1.0 ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา
ผลการศึกษาพบว่า
- ต้นทุนฐานกิจกรรมของการบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ของการตรวจสุขภาพทั่วไป เท่ากับ 297.94 บาท โดยพบว่าเป็นต้นทุนค่าแรง เท่ากับ 206.83 บาท ต้นทุนค่าวัสดุสิ้นเปลือง เท่ากับ 76.09 บาท และต้นทุนค่าลงทุน เท่ากับ 15.02 บาท คิดเป็นสัดส่วน ต้นทุนค่าแรง: ต้นทุนค่าวัสดุสิ้นเปลือง: ต้นทุนค่าลงทุน เท่ากับ 69.40:25.50:5.10
- ต้นทุนฐานกิจกรรมของการบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ของการตรวจสุขภาพทั่วไป 1 คน สูงกว่าอัตราค่าบริการที่โรงพยาบาลเอกชน จังหวัดลำพูน กำหนด เท่ากับ 27.94 บาท
ผู้บริหารโรงพยาบาลและผู้บริหารทางการพยาบาลสามารถใช้ข้อมูลต้นทุนจากการศึกษาครั้งนี้ไปคำนวณจุดคุ้มทุน และพิจารณาการบริหารทรัพยากรที่ใช้ในการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า คุ้มทุนต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Comptroller General's Department (2014). Criteria for calculating depreciation for government agencies. Retrieved from https://pws.cgd.go.th/cgd/ (in Thai)
Kabmala, P., Chaprasit, C., & Viswskul, N. (2013). Occupational health hazards and health status related to risk. Nursing Journal, 40(1), 13-25. (in Thai)
Kaplan, R. S., & Cooper, R. (1998). Cost and effect: Using integrated cost systems to drive profitability and performance. Boston, MA: Harvard Business Press.
Kunaviktikul. W., Wichaikhum, O., Nantsupawat, A., Sirakamon, S., Bhosai, J., Sathapornpat, P., & Siriyosthumrong, D. (2015). Health promotion competency and practice among nurses, the North Region. Nursing Journal, 42(1),151-165. (in Thai)
Ministry of Labour. (2017). Ministerial regulations prescribing criteria and methods for employee health checks. Retrieved from http://medinfo2.psu.ac.th/commed/occmed/images/TIS18001/tisp4/law%20safety/images/law/Health/Rule%20check-up47.pdf (in Thai)
Occupational Safety and Health Administration. (2000). Screening and surveillance: A guide to OSHA standards. US Department of Labor. Retreived from http//www.osha.gov
Rempel, D. (1990). Medical surveillance in the workplace: Overview. Occupational Medicine: State of the Art Reviews, 5(3), 435-438.
Suwandechochai, R. (2012). A study on the effect of strategies for delaying investment decisions on production capacity management Using a mathematical model. Nakhon Pathom: Mahidol University.
Wichirawanich, W. (2010). Study of work: Principles and case studies. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 พยาบาลสาร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว