ประสิทธิผลของโปรแกรมควบคุมน้ำหนักที่เน้นเรื่องการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการรับประทานอาหารในนักศึกษาที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน

ผู้แต่ง

  • อรรถพงษ์ ชุ่มเขียว นักศึกษาปริญญาเอก, สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อธุรกิจและการศึกษา, สถาบันพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีชุมชนแห่งเอเชีย, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • กาญจนา ทองบุญนาค อาจารย์, ภาควิชาคอมพิวเตอร์, คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่
  • อุบล ชื่นสำราญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์, ภาควิชาเทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร, โรงเรียนการเรือน, มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
  • ณัฐิยา ตันตรานนท์ ผู้แต่ง, อาจารย์, สถาบันพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีชุมชนแห่งเอเชีย, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

คำสำคัญ:

โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก, การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร, น้ำหนักเกิน, โรคอ้วน

บทคัดย่อ

ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็ง การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองเพื่อศึกษาผลของโปรแกรมควบคุมน้ำหนักที่เน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารในนักศึกษาที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน สาขาเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้ง ลำปาง โดยการวิจัยมีกลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาจำนวน 40 คนที่มีรอบเอวเกินมาตรฐาน (ชาย >90 ซม. และ หญิง >80 ซม.) และมีดัชนีมวลกายมากกว่าหรือเท่ากับ 23 กิโลกรัม/ตารางเมตร คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (purposive sampling) โดยแบ่งเป็น กลุ่มควบคุม 20 คน และกลุ่มทดลอง 20 คน ซึ่งกลุ่มทดลองเข้าร่วมกิจกรรม 3 ครั้ง ในระยะเวลา 3 เดือน กิจกรรมประกอบด้วย การให้ความรู้ การอภิปรายกลุ่ม การแจกสื่อเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง การแจกรายการอาหาร และกิจกรรมกลุ่มโดยการจัดทัวร์ตลาดอัศวิน และซูเปอร์มาร์เก็ต ผลลัพธ์ที่ประเมิน คือ การเปลี่ยนแปลงของความรู้เรื่องอาหารกับการควบคุมน้ำหนัก ตัวแปรตามทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน (Theory of Planned Behavior; TPB) ความยาวรอบเอว น้ำหนักตัว และดัชนีมวลกาย

ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก (กลุ่มทดลอง) มีคะแนนของความรู้เรื่องอาหารกับการควบคุมน้ำหนักมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01) และมีคะแนนพฤติกรรมการควบคุมอาหาร ความตั้งใจในการควบคุมอาหาร การรับรู้ความสามารถในการควบคุมน้ำหนัก ทัศนคติต่อการควบคุมน้ำหนัก และความเชื่อในบรรทัดฐานของสังคมในการควบคุมอาหารมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01) หลังจากเข้าร่วมการศึกษาเป็นระยะเวลา 3 เดือน กลุ่มทดลองมีการลดลงของความยาวรอบเอว น้ำหนักตัว และดัชนีมวลกายจากค่าเริ่มต้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01) แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมดังนั้นโปรแกรมควบคุมน้ำหนักที่เน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารในนักศึกษาที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วนสามารถส่งเสริม ความรู้ ความตั้งใจ การรับรู้ความสามารถในการควบคุมน้ำหนัก และพฤติกรรมที่ดีในการควบคุมอาหาร ทำให้ความยาวรอบเอว น้ำหนักตัว และดัชนีมวลกายลดลงได้ภายใน 3 เดือน

เอกสารอ้างอิง

Anderson,J.W., Vichitbandra, S., Qian, W., Kryscio, R.J. (1999). Long-term weight maintenance after an intensive weight-loss program. Journal of The American College Nutrition, 18(6), 620–27.

Ajzen, I. (1991). The theory of planned behaviors. Organization Behavior Human Decision Process, 50, 179-211.

Ajzen, I. (2006). Constructing a TPB questionnaire: conceptual and methodological considerations. Retrieved from http://people.umass.edu/aizen/pdf/tpb.measurement .pdf

Bogers, R.P., Brug, J., Van, A. P., & Dagnelie, P. C. (2004). Explaining fruit and vegetable consumption: The theory of planned behavior and misconception of personal intake levels. Appetite, 42, 157-66.

Conner, M., Norman, P., & Bell, R. (2002). The theory of planned behavior and healthy eating. Healthy Psychology, 21, 194-201.

Rongmuang, D. (2018). Applying health promotion theories for behavioral modification to prevent and control obesity. Journal of Clinical Medicine Education Phrapokklao Hospital, 35(1), 77-92. (In Thai)

Linde, J. A., Jeffery, R. W., French, S. A., Pronk, N. P., & Boyle, R. G. (2005). Self-weighing in weight gain prevention and weight loss trial. Annals Behavior Medicine, 30, 210-6.

Morrison, M. (2017). History of SMART. Retrieved from http://rapidbi.com/management/history-of-smart-objectives/

Praphasil, O., Wattana, C., & Thararanij, T. (2013). Effects of promoting self-efficacy in a self-management program on self-management behaviors, obesity, cardiovascular disease risk, and regression of metabolic syndrome among persons with metabolic syndrome. Nursing Journal, 40(1), 34-48. (In Thai)

Pitayatienanan, P., Butchon, R., Yothasamut, J., Aekplakorn, W., Teerawattananon, Y., & Suksomboon, N. (2014). Economic costs of obesity in Thailand: a retrospective cost-of-illness study. BMC Health Service Research, 14, 146-53.

Jantima, P., & Sritaratikul, S. (2017). The Effect of promoting self-management for health behavior modification of metabolic syndrome risk group. Nursing Journal, 44(2), 162-171. (In Thai)

Povey, R., Conner, M., Sparks, P., James, R., & Shepherd, R. (2000). Application of the theory of planned behavior to two dietary behaviors: Roles of perceived control and self-efficacy. Journal Healthy Psychology, 5, 121-39.

Manosaksaree, T. (2016). Effectiveness of weekly self-weighing frequency associated with reduced weight and behavioral change. Burapha Journal of Medicine, 3(1), 11-22. (In Thai)

Waleekhachonloet, O. A., Limwattananon, C., Limwattananon, S., & Gross, C.R. (2007). Group behavior therapy versus individual behavior therapy for healthy dieting and weight control management in overweight and obese women living in rural community. Obese Research Clinical Practice, 1(4), 223-32.

Wongwanich, S., & Wirachai, N. (2003). Thesis Advisory Guidelines. Bangkok: Academic Textbook and Documentation Center, Faculty of Education, Chulalongkorn University. (In Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-09-27

รูปแบบการอ้างอิง

ชุ่มเขียว อ., ทองบุญนาค ก., ชื่นสำราญ อ., & ตันตรานนท์ ณ. (2019). ประสิทธิผลของโปรแกรมควบคุมน้ำหนักที่เน้นเรื่องการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการรับประทานอาหารในนักศึกษาที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 46(3), 106–117. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/218540

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย