ปัจจัยทำนายความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลของมารดาหลังคลอด
คำสำคัญ:
การจำหน่ายจากโรงพยาบาล, ควความพร้อมสำหรับการจำหน่าย, คุณภาพการสอน, การประสานการดูแล, มารดาหลังคลอดบทคัดย่อ
ความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้มารดาหลังคลอดสามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และการปรับตัวในระยะหลังคลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิจัยหาความสัมพันธ์เชิงทำนายครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล และปัจจัยทำนายความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลของมารดาหลังคลอด กลุ่มตัวอย่าง คือ มารดาที่เข้ารับการดูแลในหน่วยหลังคลอด โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 จำนวน 80 ราย เลือกกลุ่มตัวอย่างตามคุณสมบัติที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบประเมินความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล แบบวัดคุณภาพการสอนของพยาบาลก่อนจำหน่าย และแบบสอบถามการประสานการดูแลก่อนจำหน่าย ทดสอบความเชื่อมั่นของเครื่องมือโดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อัลฟาของครอนบาค มีค่าเท่ากับ .96 .97 และ .97 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และสถิติการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัย พบว่า
- มารดาหลังคลอด ร้อยละ 65.00 รับรู้เกี่ยวกับความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลอยู่ในระดับสูง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 193.08 (S.D. = 25.2)
- มารดาหลังคลอด ร้อยละ 58.75 รับรู้เกี่ยวกับคุณภาพการสอนของพยาบาลก่อนจำหน่ายอยู่ในระดับสูง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 208.41 (S.D. = 35.82)
- มารดาหลังคลอด ร้อยละ 70.00 รับรู้เกี่ยวกับการประสานการดูแลก่อนจำหน่ายอยู่ในระดับสูงโดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 101.63 (S.D. = 18.35)
- คุณภาพการสอนของพยาบาลก่อนจำหน่าย มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับสูงกับความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .513) ส่วนการประสานการดูแลก่อนจำหน่าย มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับปานกลางกับความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .465)
- คุณภาพการสอนของพยาบาลก่อนจำหน่าย และการรับรู้การประสานการดูแลก่อนจำหน่าย สามารถร่วมกันทำนายความพร้อมสำหรับการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ได้ร้อยละ 33.00 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ผลการวิจัยครั้งนี้สามารถนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับความพร้อมในการจำหน่ายจากโรงพยาบาลของมารดาหลังคลอด
เอกสารอ้างอิง
American Academy of Pediatrics. (1992). Guidelines for perinatal care (3 rded). Washington, DC: Elk Grove Village.
Barnes, S. (2000). Ambulatory surgery: Are you watching the clock? Let criteria define discharge readiness. Journal of Peri Anesthesia Nursing, 15, 174-176. doi:10.1053/jpan.2000.7512
Brown, S., Small, R., Argus, B., Davis, P. G., & Krastev, A. (2009) . Early postnatal discharge from hospital for healthy mothers and term infants (Review). Retrieved from http://apps.who.int/rhl/reviews/langs/CD002958.pdf
Catz, C., Hanson, J. W., Simpson, L., & Yaffe, S. J. (1995). Summary of a workshop: Early discharge and neonatal hyperbilirubinemia. Pediatrics, 96, 743-745.
Cohen, J. (1988). Statistical of power analysis for the behavioral science. New Jersy: Lawrence Erlbaum associate.
Kleinpell, R. (2004). Randomized trial of an intensive care uni t-based early discharge intervention for critically ill elderly patients. American Journal of Critical Care, 13(4), 335-345.
Meleis, A. I., Sawyer, L.M., Im, E-O., Messias, D.K., & Schumacher, K. (2000). Experiencing transitions: An emerging middle-range theory. Advanced Nursing Science, 23(1), 12-28.
Panuthai, S. (2014a). The Readiness for Hospital Discharge Scale: RHDS. Chiang Mai: Faculty of Nursing, Chiang Mai UniversityPanuthai, S. (2014b). The Quality of Discharge Teaching Scale (QDTS). Chiang Mai: Faculty of Nursing, Chiang Mai University.
Panuthai, S. (2014c). The Care Coordination Scale (CCS). Chiang Mai: Faculty of Nursing,Chiang Mai University.Posmontier, B. (2008). Functional status outcomes in mothers wi th and without postpartum depression. Journal of Midwifery & Women’s Health, 53(4), 310-318.
Weiss, M., Ryan, P., & Lokken, L. (2006). Validity and reliability of the perceived readiness for discharge after birth scale. Journal of Obstetric, Gynecologic, & Neonatal Nursing, 35 (1),34-45. doi:10.1111/j.1552-6909.2006.00020.x
Weiss, M. & Piacentine, L.B. (2006). Psychometric properties of the readiness for hospital discharge scale. Journal of Nursing Measurement, 14 (3), 163–180.
Weiss, M., Piacentine, L. B., Lokken, L., Ancona, J., & Archer, L. (2007). Perceived readiness for hospital discharge in adult medical-surgical patients. Clinical Nurse Specialist, 21(1), 31-42.
Weis, E. M., & Lokken, L. (2009). Predictors and Outcomes of Postpartum Mothers, s Perceptions of Readiness for Discharge after Birth. Journal of Obstetric, Gynecologic, & Neonatal Nursing, 38(4), 406-417. doi:10.1111/j.15526909.2009.01040.x
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว