การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มัลติมีเดีย เรื่อง “บทบาทของพยาบาลในการวางแผนครอบครัวหลังคลอด”

ผู้แต่ง

  • พรรณพิไล ศรีอาภรณ์ รองศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • นุชนาต สุนทรลิ้มศิริ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • พจนีย์ ภาคภูมิ อาจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • นิศาชล รักสกุล อาจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • ปริญญา คลี่สกุล สำนักงานคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • อดิศักดิ์ พวงสมบัติ สำนักงานคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์, บทบาทพยาบาล, การวางแผนครอบครัวหลังคลอด, นักศึกษาพยาบาล

บทคัดย่อ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียเป็นสื่อดิจิตอลที่มีรูปแบบใหม่ทันสมัยน่าสนใจ  จัดว่าเป็นสื่อทางเลือกใหม่ในศตวรรษที่ 21 ที่สนับสนุนการเรียนรู้ด้วยตนเอง  วัตถุประสงค์ของการวิจัยและพัฒนาครั้งนี้เพื่อ 1) พัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียเรื่อง “บทบาทของพยาบาลในการวางแผนครอบครัวหลังคลอด” ที่มีประสิทธิภาพ 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย และ 3) ศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาล ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2559 จำนวนทั้งหมด 30 คน  คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1)  หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย เรื่อง “บทบาทพยาบาลในการวางแผนครอบครัวหลังคลอด”  2) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้หนังสืออิเล็กทรอนนิกส์มัลติมีเดีย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณาและสถิติทดสอบค่าที

ผลการวิจัยพบว่า

          1) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียเรื่อง “บทบาทพยาบาลในการวางแผนครอบครัวหลังคลอด” มีประสิทธิภาพ 73.54/85.00 โดยกลุ่มตัวอย่างสามารถทำคะแนนเฉลี่ยได้เป็น 73.54 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มตัวอย่างจำนวน 85.00 เปอร์เซ็นต์สามารถบรรลุวัตถุประสงค์แต่ละข้อ    2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าผลการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t 3.657, p.001) และ 3) กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียโดยรวมอยู่ในระดับดี (Mean=4.25) ผลการวิจัยครั้งนี้สรุปได้ว่า   หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย เรื่อง  “บทบาทพยาบาลในการวางแผนครอบครัวหลังคลอด” เป็นสื่อดิจิตอลที่มีคุณภาพดีทั้งในด้านเนื้อหาและรูปแบบการนำเสนอสามารถช่วยพัฒนาความรู้และเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้แก่นักศึกษาพยาบาล  แต่ควรมีการพัฒาปรับปรุงต่อไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการเรียนการสอน การศึกษาด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนในศตวรรษที่ 21

References

ADDIE Model. (2013). ADDIE Model. Retrieved from http://en.wikipedia.org/wiki/ADDIE_Model

Education Reform Office. (1999). National Education Act B.C. 1999. Bangkok: Krurusapra Publication Lardpraw.

Kunnasuta, S., Sriarporn, P., Supavititpatana, B., Indarangkura NaAyutthaya, A., & Chaiwipassatorn, W.(2015). Development of a Multimedia Electronic Book on Preparation for Practice at Special Screening Obstetrics–Gynecology Unit for Nursing Students. Chiang mai: Faculty of Nursing,Chiang Mai University. (In Thai)

Laohajarussang, T. (1996). Computor for Teaching. Bangkok: Wongkrom Production.

Laohajarussang, T. (2011). University Staff and Using Computer in Teaching: Handbook for Chiang Mai University Staff. Chiang mai: Service EducationSection Chiang Mai University.

Malithong, K. (2005). ITC for education. Bangkok: Arund Printing.

MardJarus, T. (2013). Learning Management System: LMS. Bangkok: Tharnarksorn.Panich, V. (2012). The Learning Way for the 21 st Century’s Students. Bangkok: Tathata Publication LTD.

Srisaard, B. (2002). Basic Reseach. Bangkok: Suweriyasarn.

Sornprang, P. (2012). Information Systems. Bangkok: SeEd Youkasion.

Sornprang, R. (2013). New Paradigm in Education Case Perspective for 21th Century Education.Bangkok: Thipwisuth.

Yimyam, S., Chareonsanti, J., & Kannasud, S. (2014). Development of Electronic Multimedia:

Primary Knowledge regarding Maternal Breastfeeding for Nursing Students. Journal of Nursing, 41 (4), 70-82.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2020-03-25

How to Cite

ศรีอาภรณ์ พ. ., สุนทรลิ้มศิริ น., ภาคภูมิ พ., รักสกุล น., คลี่สกุล ป., & พวงสมบัติ อ. (2020). การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มัลติมีเดีย เรื่อง “บทบาทของพยาบาลในการวางแผนครอบครัวหลังคลอด”. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 47(1), 25–34. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/240723