ถอดบทเรียนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหา การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในชุมชน
คำสำคัญ:
การถอดบทเรียน, นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ, การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในชุมชนบทคัดย่อ
การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในชุมชน เป็นกระบวนการที่สำคัญต่อสุขภาพประชาชน การถอดบทเรียนจะช่วยนำไปสู่การขยายในพื้นที่อื่นต่อไป การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา เพื่อถอดบทเรียนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในชุมชน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะจงจง ได้แก่ ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ผู้นำชุมชน ตัวแทนกลุ่มต่างๆ ในชุมชน และตัวแทนประชาชน รวม 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แนวคำถามการสนทนากลุ่ม และแนวคำถามการสัมภาษณ์รายบุคคลแบบไม่มีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูล โดยการจัดหมวดหมู่ข้อมูล และสรุปประเด็น
ผลการถอดบทเรียน พบว่า การจัดการกับปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ของประชาชนในชุมชนของอำเภอแม่ทา ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมบนพื้นฐานแนวคิดหลัก 5ร. คือ ร่วมรับรู้ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมแก้ไข ร่วมติดตาม และประเมินผล และสร้างนโยบายสาธารณะ เพื่อลดปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และทำบันทึกตกลงระหว่างองค์กร เรียกว่า ข้อตกลง 3ม.2ร. คือ ไม่ขาย ไม่ดื่ม และไม่จำหน่าย (3ม.) ร่วมบังคับใช้กฎหมาย และร่วมตรวจสอบ (2ร.) ผลการถอดบทเรียน แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนจะก่อให้เกิดพลังในการนำไปสู่สร้างนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
Aungwattana, S., & Thanawat, R. (2015). Lessons learned of driving public policy for participatory health to have concrete results at the sub-district level: Baan Mai sub-district, Mae Rim district, Chiang Mai province. Chiang mai: Faculty of Nursing, Chiang Mai University. (In Thai)
Jindawattana, A. (2004). Creating public policies for participatory health: New dimensions of health promotion. Bangkok: National Health Office. (In Thai)
Kengkanpanit, M. (2013). Lessons learned. Retrieved from www.ph.mahidol.ac.th/sos/group6/lesson_learned.pdf. (In Thai)
Mae Tha District Public Health Office. (2013). Summary of operating reports for the Mae Thadistrict health office. Lamphun: Mae Tha District Public Health Office.(In Thai)
Mae Tha District Public Health Office. (2014). Summary of operating reports for the Mae Thadistrict health office.Lamphun: Mae Tha District Public Health Office.(In Thai)
National Health Commission. (2007). National health act 2007.Retrieved from http://pcmc.swu.ac.th/EC/document/form/dw_form4/17.pdf. (Thai)
National Health Commission. (2009). National health statute 2009. Retrieved from https://www.nationalhealth.or.th/node/155. (Thai)
Pagaiya, N., Khaonuan, B., Phanthunane, P., Bamrung, A., & Jirawattanapisal, T. (2018). An analysis of health manpower needs for Thailand’s secondary care system in 2026. Journal of Health Systems Research, 12 (2), 189-204.
Tuanrat, W., et al. (2016a). Lessons Learned of public policy for health, Khua Mung sub-district,Saraphi district, Chiang Mai province. Chiang mai: Faculty of Nursing, Chiang Mai University. (In Thai)
Tuanrat, W., et al. (2016b). Lessons Learned of public policy for health, Rim Ping sub-district,Muang district, Lamphun province. Chiang mai: Faculty of Nursing, Chiang Mai University. (In Thai)
Vongmanee, K., & Noosorn, N. (2017). Lessons learned district health system model for health promotion district in mental health Lomsak district Phetchaboon province. Journal of Nursing care, 35 (3), 232-241.
Wasri, P.(2004). Public policy process.Bangkok. National Health Foundation. (In Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว