ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง

ผู้แต่ง

  • จารวี คณิตาภิลักษณ์ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี
  • ทศพร คำผลศิริ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • ลินจง โปธิบาล รองศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

การเสริมสร้างพลังอำนาจ, คุณภาพชีวิต, ผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง

บทคัดย่อ

         โรคหลอดเลือดสมองที่เกิดในผู้สูงอายุทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อการทำหน้าที่ของร่างกาย  และอาจทำให้เกิดปัญหาทางจิตใจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองไม่มีพลังอำนาจในการควบคุมหรือจัดการกับการเจ็บป่วยและความพิการของตนเองได้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง ดังนั้นเพื่อให้คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองดีขึ้นจึงต้องมีการเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้สูงอายุกลุ่มนี้การวิจัยเชิงทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโรคหลอดเลือดสมองก่อนและหลังได้รับโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจ และเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตในผู้สูงอายุโรคหลอดเลือดสมองระหว่างกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจกับกลุ่มที่ไม่ได้รับโปรแกรมกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองจำนวน 88 ราย สุ่มโดยใช้การสุ่มแบบบล็อกเข้ากลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมกลุ่มละ 44 ราย ซึ่งทั้งสองกลุ่มได้รับการวัดคุณภาพชีวิตโดยใช้ Stroke impact  scale (SIS)โดยกลุ่มทดลองจะได้รับโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจตามแนวคิดของกิบสัน (Gibson) ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมเสริมสร้างพลังอำนาจ 4 ขั้นตอนได้แก่ 1. การค้นพบสภาพการณ์จริง 2. การสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณ 3. การตัดสินใจลงมือปฏิบัติ และ 4. การคงไว้ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 8 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และใช้สถิติทดสอบค่าที          

ผลการวิจัยพบว่า

  1. คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองหลังได้รับโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจสูงกว่าก่อนการได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ (p < .05)
  2. คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ (p < .05)

เอกสารอ้างอิง

Burns, N., & Grove, S. K. (2005). The practice of nursing research: Conduct, critique, and utilization (5thed.). Philadelphia: W.B. Saunders.

Duncan, P. W., Lai, S. M., Tyler, D., Perera, S., Reker, D. M., & Studenski, S. (2002). Evaluation of proxy responses to the Stroke Impact Scale. Stroke, 33 (11), 2593-2599.

Gibson, C. H. (1991). A concept analysis of empowerment. Journal of Advanced Nursing, 16 (3), 354-361.

Gibson, C. H. (1995). The process of empowerment in mothers of chronically ill children. Journal of Advanced Nursing, 21 (6), 1201-1210.

Hafsteinsdottir, T. B., & Grypdonck, M. (1996). Being a stroke patient: A review of the literature. Journal of Advanced Nursing, 26 (3), 580-588.

Kamontip Harnphadungkit. (2007). Rehabilitation for Stroke Patients. Bangkok: Works of textbooks, journals, and publications, Medical Technology Center Faculty of Medicine Siriraj Hospital Mahidol University. (In Thai)

Institute of Neurology, Department of Medical Services, Ministr y of Public Health. (2014). Stroke Patient Nursing Guidelines. Bangkok: Institute of Neurology. (In Thai)

Office of Policy and Strategy, Office of the Permanent Secretary, Ministry of Public Health. (2012). KPI. Retrieved from http://www.healthdata.moph.go.th/kpi (In Thai)

Rukskul, P. (2007). Cerebral Vascular Disease. Bangkok: Thammasat University. (In Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-03-25

รูปแบบการอ้างอิง

คณิตาภิลักษณ์ จ. . . . . . . . . . . . ., คำผลศิริ ท. . . . . . . . . . . ., & โปธิบาล ล. . . . . . . . . . . . (2020). ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 47(1), 222–230. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/240796

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย