การวิเคราะห์ต้นทุนกิจกรรมการพยาบาลการจัดการการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

ผู้แต่ง

  • การะเกด คีรีรักษ์ นักศึกษาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน
  • นฤมล ปทุมารักษ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน
  • เพชรน้อย สิงห์ช่างชัย ศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน

คำสำคัญ:

ต้นทุน, กิจกรรมการพยาบาล, ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง, โรงพยาบาลเอกชน

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการวิเคราะห์ต้นทุนกิจกรรมการพยาบาลของการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ตามงบประมาณปี 2561 ประชากรคือ รายงานข้อมูลต้นทุนค่าแรง ต้นทุนค่าลงทุน และต้นทุนค่าวัสดุที่ใช้ในการจัดบริการผู้ป่วยผ่าตัดในปีงบประมาณ 2561  และต้นทุนกิจกรรมการพยาบาลผ่าตัด ด้วยการสังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมงานการพยาบาลผ่าตัดในหน่วยงานห้องผ่าตัด  กลุ่มตัวอย่าง คือต้นทุนค่าแรงของพยาบาลห้องผ่าตัด จำนวน 17 คน และต้นทุนผู้รับบริการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องจำนวน 30 ราย   เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชุด  ชุดที่ 1) พจนานุกรมกิจกรรมการพยาบาลผ่าตัดงานห้องผ่าตัด  ชุดที่ 2) แบบบันทึกข้อมูลต้นทุนกิจกรรมการพยาบาลผ่าตัด  และชุดที่ 3) แบบบันทึกข้อมูลต้นทุนต่อหน่วยบริการ เครื่องมือทั้ง 3 ชุดผ่านการตรวจความตรงตามเนื้อหา มีค่าดัชนีความตรงเท่ากับ 1  วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา คือจำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย พบว่าต้นทุนกิจกรรมพยาบาลโดยรวม เท่ากับ 894,196.33 บาท มีอัตราส่วนระหว่างกิจกรรมการพยาบาลก่อนผ่าตัด : ระยะผ่าตัด : ระยะหลังผ่าตัด : กิจกรรมการบริหารจัดการและงานสนับสนุนเท่ากับร้อยละ 12.93 : 59.69 : 19.44 : 7.94 โดยมีต้นทุนสูงสุดคือการจัดการกิจกรรมการพยาบาลระยะผ่าตัด มีต้นทุนต่อกิจกรรมเท่ากับ 1,988.07 บาทต่อกิจกรรม รองลงมาคือระยะหลังผ่าตัด เท่ากับ 5,561.22 บาทต่อกิจกรรม เมื่อวิเคราะห์ต้นทุนกิจกรรมต่อราย พบว่าต้นทุนรวมกิจกรรมการพยาบาลเท่ากับ 29,806.55 บาทต่อราย เมื่อจำแนกต้นทุนกิจกรรมการพยาบาลตามกิจกรรมหลัก พบว่า ต้นทุนระยะผ่าตัด เท่ากับ 17,892.61 บาทต่อราย

ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าต้นทุนการจัดการกิจกรรมการพยาบาลผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ที่มีความสำคัญที่ทำให้ผู้บริหารต้องนำข้อมูลนี้ไปบริหารจัดการเรื่องการบริหารกำลังคนและการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นต่อไป

เอกสารอ้างอิง

Gupta, K. K., Attri, J. P., Singh, A., Kaur, H., & Kaur, G. (2016) . Basic concepts for sample size calculation: Critical step for any clinical trials!. Saudi Journal of Anaesthesia, 10 (3), 328–331. doi:10.4103/1658-354X.174918

Jungsaman, S. (2015). Unit Cost Analysis And cost of surgical n ursing activities Surin Hospital operating room. Journal and Health Care. 34 (1), 163-169. (In Thai)

Kaplan, R. S., & Cooper, R. (1998). Cost and effect: Using intergrated cost systems to drive profitability and performance. Boston, Massachusetts: Harvard Business School Press.

Rijiravanit, W. (2007). Study of working hours, principles and case studies. (3rd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Printing House. (In Thai)

Shinekledkaew, S. (2009).The economic cost of absence and impairment of performance from alcohol consumption. The Journal of Public Health Sciences, 8(3), 322-332. (In Thai)

Wattananon, Y. (2010). Factors affecting the access to laparoscopic surgery in Thailand: National Patient data analysis results Year 2548-2550. University Journal Srinakharinwirot (Science and Technology Branch), 2 (1), 95-105.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-05-14

รูปแบบการอ้างอิง

คีรีรักษ์ ก., ปทุมารักษ์ น., & สิงห์ช่างชัย เ. (2020). การวิเคราะห์ต้นทุนกิจกรรมการพยาบาลการจัดการการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 47(2), 345–355. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/241825

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย