ผลของการใช้แบบประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤตตามแนวคิดแฟนคัสในกระบวน วิชาฝึกปฏิบัติการพยาบาล

ผู้แต่ง

  • เยาวลักษณ์ โพธิดารา คณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชธานี
  • ธัญญาสิริ ธันยสวัสดิ์ อาจารย์พยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชธานี

คำสำคัญ:

ภาวะวิกฤต, แบบประเมินแฟนคัส, ความคิดเห็น, ความรู้ความสามารถ, ความพึงพอใจ

บทคัดย่อ

การประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤตด้วย FANCAS ถูกนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งแบบประเมินนี้ สามารถลำดับปัญหาได้รวดเร็วและครอบคลุมทุกปัญหาที่คุกคามชีวิตของผู้ป่วย การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบพรรณนา ใช้กรอบแนวคิดในการประเมิน (assessment framework) ของ แฟนคัส (fancas) โดย Dr. June C. Abbey (Holloway,1979)  มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ศึกษาผลการใช้แบบประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤตสร้างจากรูปแบบแฟนคัสต่อความรู้ความสามารถของนักศึกษาพยาบาล  กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักศึกษาพยาบาล จำนวน 146 คน อาจารย์ผู้นิเทศนักศึกษาจำนวน 8 คน สุ่มแบบเลือกเจาะจง เครื่องมือทีใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม จำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1 เป็นแบบสอบถามความรู้ความสามารถของนักศึกษาพยาบาลโดยให้นักศึกษาพยาบาลประเมินตนเองและอาจารย์ผู้นิเทศนักศึกษาประเมินนักศึกษาพยาบาล  ชุดที่2 แบบสอบถามความคิดเห็นการใช้แบบประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤตสร้างจากรูปแบบแฟนคัส  โดยให้นักศึกษาพยาบาลประเมินด้วยตนเอง และอาจารย์ผู้นิเทศนักศึกษาพยาบาลประเมินการใช้แบบประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤตสร้างจากรูปแบบแฟนคัส ด้วยตนเอง ชุดที่3 แบบสอบถามความพึงพอใจการใช้แบบประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤตสร้างจากรูปแบบแฟนคัส  โดยนักศึกษาพยาบาลและอาจารย์นิเทศนักศึกษาพยาบาล  เครื่องมือทั้ง 3 ชุด ผู้วิจัยสร้างขึ้นตามทฤษฎี และกรอบแนวคิดในการประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤต การตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาทั้งฉบับได้ 0.92 และความเชื่อมั่นของเครื่องมือ  0.87 ดำเนินการเก็บข้อมูลระหว่างเดือน มิถุนายน ถึงเดือน กรกฎาคม 2562 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาเชิงคุณภาพใช้สถิติ ไควสแควร์  และทดสอบความแตกต่างด้วยสถิติอะโนวา

ผลการศึกษา พบว่า

  1. นักศึกษาพยาบาลมีความรู้ความสามารถในการใช้แบบประเมินสภาพผู้ป่วยภาวะวิกฤติสร้างจากรูปแบบแฟนคัส อยู่ในระดับปานกลาง( =3.38,S.D=.741) และผลการประเมินความรู้ความ

สามารถของนักศึกษาพยาบาลโดยอาจารย์นิเทศนักศึกษา  อยู่ในระดับ ปานกลาง ( =3.06,S.D =.550 )

  1. นักศึกษาพยาบาลมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้แบบประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤติสร้างจากรูปแบบแฟนคัส อยู่ในระดับมาก( =3.96,S.D=.676) และอาจารย์นิเทศนักศึกษา มีความคิดเห็น อยู่ในระดับ มากเท่ากัน ( =4.19,S.D =.711 )
  2. นักศึกษาพยาบาลมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤตสร้างจากรูปแบบแฟนคัสอยู่ในระดับมาก ( =3.83,S.D=.690) และอาจารย์นิเทศนักศึกษาพยาบาล มีความพึงพอใจต่อการใช้แบบประเมินภาวะวิกฤตสร้างจากรูปแบบแฟนคัส อยู่ในระดับมากเท่ากัน ( =4.61,S.D=.513)
  3. เมื่อเปรียบเทียบความรู้ความสามารถ ความคิดเห็นและความพึงพอใจ ของนักศึกษาพยาบาลและผลการประเมินความรู้ความสามารถของนักศึกษาโดยอาจารย์ผู้นิเทศนักศึกษาพยาบาล ต่อการใช้แบบประเมินภาวะผู้ป่วยวิกฤติสร้างจากรูปแบบแฟนคัส ไม่แตกต่างกัน

ผลการวิจัย ครั้งนี้มีข้อเสนอแนะในการนำไปใช้ พัฒนา ปรับปรุง แก้ไข  รูปแบบการเรียนสอน

และใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง Simulation Base Learning (SBL) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ใน การเตรียมความพร้อมและความรู้ความสามารถเพิ่มมากขึ้น ก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติจริงของนักศึกษาพยาบาล

เอกสารอ้างอิง

Bundasak, T.,Chaowiang, K., & Jungasem, N. (2018). Affecting F actors on Nursing students Anxiety while Practicing in Intensive Care Unit. Journal Prapokklao Hosp Clin Med Educat center. 34 (1), 6–15. (In Thai)

Holloway, N. M.(1979). Nursing the Critically ILL Adult. California: Addison-Wesley Publishing.

Jaramillo, W. A. (2011). Transcribe the lessons of the Adult and Elderly. Bangkok: Nursing Academic Group and the Children’s Nursing. (In Thai)

Limumnuaylap, S. (2013). Nursing of Critical Illness Patients (7th ed.). Bangkok: InternationalScience Depot. (In Thai)

Limumnuaylap, S., & Thamnong, C. (2009). Critical Care Nursing (4th ed.). Khonkaen: Khonkaen University. (In Thai)

Lueklang, A. (2012). Satisfaction and Expectancy to Service of Water Division Personnel of Nong Gnu Lueam Subdistirct Administrative Organization, Chaloem Phr a Kiat District, Nakhon Ratchasima Province. Nakhon Ratchasima : Water Division Personn el of Nong Gnu Lueam Subdistirct Administrative Organization. (In Thai)

Office of the Civil Service Commission. (2009). Defining the performance line. Retrieved from http://ops.sueksa.go.th/wp-

Pathojaruwat, T., Boontoi, T., & Matchim, Y. (2018). Nursing students Experience in an Intensive and Emergency care Practicum. Thai Journal of Nursing Council, 33 (4), 75-92. (In Thai)

Polit, D. F., & Beck, C. T. (2008). Nursing Research: Generating and Assessing Evidence for Nursing Practice (8th ed.). Philadelphia: Lippincott williams & wilkins.

Rungnoei, N., & Seesawang, J. (2016). Effects of Self–developme nt Supportive for the Pre-practicum preparation at intensive Care Unit on knowledge and Skills amon g Nursing Students. Journal of Phrapokklao Nursing Students, 27 (2), 36-37. (In Thai)

Sinthuchai, S., & Ubolwan, K. (2017). Fidelity Simulation base Learning Implementation to Learning and Teaching management. Journal of the Royal Thai Army Nurses, 18 (1), 113-127. (In Thai)

Sisa-at, B. (2010). Preliminary research (8th ed.) Bangkok: Suwiriyasarn. (In Thai)

Sittipakon, S., Kochamat, A., Seubniam, S., & Pongprathet, J. (2017) Effects of High Fidelity Simulation Based Learning on Self–Confidence and Satisfactions among the 3rd Years Nursing Student in Faculty of Nursing Mahasarakham University. In academic conference of Maha Sarakham University 14 th(pp. 600-607). Maha Sarakham: Mahasarakham University. (In Thai)

Thanamethee, W. (2011). The Opinions of people toward Sangha Administration Nongbualamp hu Province (Master’s thesis, Mahachulalongkornrajavidyalaya University). ( In Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-05-14

รูปแบบการอ้างอิง

โพธิดารา เ., & ธันยสวัสดิ์ ธ. (2020). ผลของการใช้แบบประเมินผู้ป่วยภาวะวิกฤตตามแนวคิดแฟนคัสในกระบวน วิชาฝึกปฏิบัติการพยาบาล . พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 47(2), 463–475. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/241836

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย