ความฉลาดทางอารมณ์และความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงานของพยาบาลในโรงพยาบาล แห่งประชาชนต้าหลี่ สาธารณรัฐประชาชนจีน
คำสำคัญ:
ความเครียดในการทำงาน, ความฉลาดทางอารมณ์, พยาบาล, โรงพยาบาลรัฐบาลบทคัดย่อ
ระดับความเครียดในการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้นสามารถส่งผลกระทบต่อปัญหาทางลบมากมายในระบบบริการสุขภาพ ความฉลาดทางอารมณ์มีความสำคัญต่อพยาบาลในการลดความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงาน การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบหาความสัมพันธ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความฉลาดทางอารมณ์และระดับความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงานของพยาบาล และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์และความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงานของพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งประชาชนต้าหลี่ สาธารณรัฐประชาชนจีน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยพยาบาลจำนวน 273 ราย ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลแห่งประชาชน 2 แห่ง เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลคือ แบบสอบถาม ซึ่งได้แก่ แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบวัดความฉลาดทางอารมณ์ของหว่องและลอว์ (Wong and Law Emotional Intelligence Scale) และเครื่องมือวัดความเครียดจากการทำงานแบบมาตรฐานของสถาบันสุขภาพและความปลอดภัย (HSE Management Standards Work-related Stress Indicator Tool) ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาคของแบบวัดความฉลาดทางอารมณ์ของหว่องและลอว์เท่ากับ 0.91 และเครื่องมือวัดความเครียดจากการทำงานแบบมาตรฐานของสถาบันสุขภาพและความปลอดภัยเท่ากับ 0.80 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนาและสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สเปียแมน
ผลการศึกษาพบว่า
- ความฉลาดทางอารมณ์โดยรวมของพยาบาลอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.44) เมื่อพิจารณาในแต่ละด้านพบว่า การประเมินอารมณ์ของตนเองอยู่ในระดับสูง ในขณะที่การประเมินอารมณ์ของผู้อื่น การควบคุมอารมณ์ และการใช้อารมณ์อยู่ในระดับปานกลาง
- ความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงานของพยาบาลโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.60 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.45) เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า 5 จาก 7 ด้านของความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงาน ได้แก่ ความต้องการ การควบคุม การสนับสนุนเกี่ยวกับการจัดการ ความสัมพันธ์ และการเปลี่ยนแปลงอยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่ด้านการสนับสนุนจากเพื่อนและด้านบทบาทอยู่ในระดับต่ำ
- ความฉลาดทางอารมณ์ของพยาบาลมีความสัมพันธ์เชิงลบในระดับต่ำกับความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (r = -0.13)
ผู้บริหารทางการพยาบาลสามารถใช้ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาและเสริมสร้างความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งจะช่วยลดความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงานของพยาบาลได้
เอกสารอ้างอิง
Barnett, R. C., Brennan, R. T., & Gareis, K. C. (1999). A close r look at the measurement of burnout. Journal of Applied Biobehavioural Research, 4, 65-78.
Elkins, G., Cook, T., & Dove, J. (2010). Perceived stress among nurses and administration staff related accreditation. Clinical Nursing Research, 19 (4), 376-386.
Flanagan, N. A., & Flanagan, T. J. (2002). An analysis of the r elationship between job satisfaction and job stress in correctional nurses. Research in nursing & health, 25 (4), 282-294.
French, S., Lenton, R., Walters, V., & Eyles, J. (2000). An empirical evaluation of an expanded nursing stress scale. Journal of Nursing Measurement, 8 (2), 161-178.
Health and Safety Executive. (2004). Psychosocial working conditions in Great Britain in 2004. Retrieved from http:// www.hse.gov.uk/statistics/
Health and Safety Executive. (2009). Stress-related and psychological disorders. Retrieved from http://www.hse.gov.uk/statistics/causdis/stress.
Jenkins, R., & Elliot, P. (2004). Stressors, Burnout and social support: nurses in acute mental health settings. Journal of Advanced Nursing, 48 (6), 622-631.
Joiner, T. A., & Bartram, T. (2004). How empowerment and social support affect Australian nurses’ work stressors. Australian Health Review, 28 (1), 56-64.
Landa, J. A., L?pez-Zafra, E., & Martos, M. B. (2008). The relationship between emotional intelligence, occupational stress and health in nurses: A quest ionnaire survey. International Journal of Nursing Studies, 45 (6), 888-901.
Leka, S., Hassard, J., & Yanagida, A. (2012). Investigating the impact of psychosocial risks and occupational stress on psychiatric hospital nurses’ mental well-being in Japan. Journal of psychiatric and Menatal Health Nursing, 19, 123-131.
Li, I., Chen, Y. C., & Kuo, H. T. (2008). The relationship between work empowerment and work stress perceived by nurses at long term care facilities in Taipei city. Journal of Clinical Nursing, 17(22), 3050-3058.
Luo, Y. F. (2011). Conflict management and burnout among nurses in university hospi tals, Yunnan province, the People’s Republic of China (Master’s thesis, Chiangmai University).
Marinaccio, A., Ferrante, P., Corfiati, M., Di Tecco, C., Rondinone, B. M., Bonafede, M., & Iavicoli, S.(2013). The relevance of socio-demographic and occupational var iables for the assessment of work-related stress risk. BMC Public Health, 13, 11-57. doi:10.1186/1471-2458-13-1157.
Maslach, C., & Goldberg, J. (1998). Prevention of burnout: new perspectives. Applied and Preventative Psychology, 7, 63-74.
Ministry of Health of China. (2015). The health care organization statistic in China [in Chinese]. Beijing: the Ministry of Health of China.
Muchinsky, P. (2006). Psychology applied to work. Belmont, CA: Thompson Wadsworth.
Niezborala, M., Marquie, J. C., & Baracat, B. (2003). Job stress and occupational status in a French cohort. Rev Epidemiol Sante Publique, 6, 607-616.
Nikolaou, I., & Tsaousis, I. (2002). Emotional intelligence in the workplace: Exploring its effects on occupational stress and organizational commitment. International Journal of Organizational Analysis, 10 (4), 327-342.
Oginska-Bulik, N. (2005). Emotional intelligence in the workplace: Exploring its effects on occupational stress and health outcomes in human service workers. International Journal of Occupational Medicine and Environmental Health, 18(2), 167-175.
Palmer, S., Cooper, C., & Thomas, K. (2004). A model of work stress to underpin the Health and Safety Executive advice for tackling work-related stress and st ress risk assessments. Counselling at Work, Winter, 2-5.
Rauschenbach, C., & Hertel, G. 2011). Age differences in strain and emotional reactivity to stressors in professional careers. Stress Health, (27), 48-60.
Salovey, P., & Mayer, J. D. (1990). Emotional intelligence. Imagination, Cognition and Personality, 9(3), 185-211.
Wong, C. S., & Law, K. S. (2002). The effects of leader and follower emotional intelligence on performance and attitude: An exploratory study. Leadership Quarterly, 13, 243-274.
Yamani, N., Shahabi, M., & Haghani, F. (2014). The relationship between emotional intelligence and job stress in the faculty of medicine in Isfahan University of Medical Sciences. Journal of Advances in Medical Education and Professionalism, 2 (1), 20.
Yuan, X. (2007). The influence of “Nursing aesthetics” for emotional intelligen ce of bachelor degree students [in Chinese]. Shanxi: Shanxi Medical University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
