การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย: คู่มือการฝึกปฏิบัติติทางคลินิกในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับนักศึกษาพยาบาลนานาชาติ

ผู้แต่ง

  • สุสัณหา ยิ้มแย้ม ศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • นุชนาท สุพรรณอุดม พนักงานมหาวิทยาลัยสายปฎิบัติการ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย, การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา, นักศึกษาพยาบาล

บทคัดย่อ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียเป็นสื่อการเรียนรู้หนึ่งที่น่าสนใจสำหรับทักษะการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21  การวิจัยเชิงพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย: คู่มือการฝึกปฏิบัติติทางคลินิกในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับนักศึกษาพยาบาลนานาชาติ 2) ประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย 3) เปรียบเทียบความพึงพอใจในการใช้หนังสือ: คู่มือการฝึกปฏิบัติทางคลินิกในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ระหว่างการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียและการใช้หนังสือสองมิติจัดทำเป็นรูปเล่ม  กลุ่มตัวอย่างหลักที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา 2562  จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย: คู่มือการฝึกปฏิบัติติทางคลินิกในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับนักศึกษาพยาบาลนานาชาติ 2) แบบประเมินความพึงพอใจต่อคู่มือการฝึกปฏิบัติทางคลินิกในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ที่ใช้สอบถามทั้งการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียและการใช้หนังสือจัดทำเป็นรูปเล่ม  การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติเชิงพรรณนาและสถิติทดสอบค่าที

ผลการวิจัยพบว่า  1) นักศึกษามีความพึงพอใจในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย: คู่มือการฝึกปฏิบัติทางคลินิกในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ที่พัฒนาขึ้นอยูในระดับมากที่สุดทั้งโดยภาพรวมและแต่ละด้าน (เนื้อหา เทคนิคการออกแบบ คุณค่าและประโยชน์ และการนำไปใช้) 2) นักศึกษามีความพึงพอใจในการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียในระดับสูงกว่าการใช้หนังสือเป็นรูปเล่ม เกือบทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ด้านเนื้อหา (P value = .0009) ด้านรูปแบบการจัดเล่มคู่มือ (P value = .001) ด้านเทคนิคการออกแบบ (P value = .003) และด้านความน่าสนใจ (P value = .0001) ยกเว้นด้านการได้รับความรู้เพิ่มเติม (P value = .325) และด้านการได้รับประโยชน์ (P value = .103) ที่มีระดับความพึงพอใจไม่แตกต่างกัน  ข้อเสนอแนะจากการวิจัยนี้คือ ควรนำไปใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียนี้ไปประยุกต์ใช้นักศึกษาหลักสูตรปกติและพยาบาลวิชาชีพในการทบทวนทักษะ และควรมีการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียในหัวข้ออื่นและวิชาอื่นโดยเฉพาะการฝึกปฏิบัติทางคลินิกเพื่อช่วยให้นักศึกษาพยาบาลเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนได้มากขึ้นและสามารถใช้ฝึกทักษะด้วยตนเองได้ตลอดเวลาตามความต้องการ

เอกสารอ้างอิง

Anuradha, K. T., & Usha, H. S. (2006). Use of e-books in an academic and research environment:A case study from the Indian Institute of Science. Program: electronic library and information systems, 40 (1), 48-62.

Crichton, S., & Kopp, G. (2006). Multimedia technologies, multiple intelligences, and teacher professional development in an international education project. Innovative Online, 2 (3).

Frey, B. A., & Sutton, J. M. (2010). A Model for Developing Multimedia Learning Projects. Merlot Journal of Online Learning and Teaching, 6(2), 491-507.

Hugenholtz, N. I. R., de Croon, E. M., Smits, P. B., Van Dijk, F. J. H., & Nieuwenhuijsen, K. (2008).Effectiveness of e-learning in continuing medical education for occupational physicians.Occupational Medicine, 58, 370–372.

Karnasuta, S., Kiatwattanacharoen, S., Klunklin, P., Thiyapirom, N., & Rattanadumrongrong, N. (2011).Electronic Multimedia E-Books on Infant Massage. Chiang mai: Faculty of Nursing, Chiang MaiUniversity. (In Thai)

Masood, N. A. M., & Apandi, N. E. F. (2014). Development of Mul timedia Application for Learning Algebra. Journal of Education and Practice, 5 (5), 156-159.

Ruiz, J. G., Mintzer, M. J., & Leipzig, R. M. (2006). The Impact of E-Learning in Medical Education.Academic Medicine, 81(3), 207-212.

Shatat, F. H., Aldalalah, O., & Ababneh, Z. W. (2017). The Impact of the E-book on Levels of Bloom's Pyramid at ECT Students in Light of the Internal and External Motivation to Learn Mathematics and Statistics. Asian Social Science, 13(2), 49-63.

Siegenthaler, E., Wurtz, P., & Groner, R. (2010). Improving the Usability of E-Book Readers. Journal of Usability Studies, 6 (1), 25-38.

Srivilai, W., & Atthamaethakul, W. (2011). Development of an Electronic Book on Anatomy of theCardiovascular System and the Lymphatic Vascular System. Journal of Nursing and Education, 4(1), 29-37. (In Thai)

Stirling, A., & Birt, J. (2013). An Enriched Multimedia e Book Application to Facilitate Learning of Anatomy. Anatomy Science Education, 7, 19–27.

Swangwatanasade, O., Srivilai, W., & Lernthavarntum, K. (2013). Development of the Electronic Bookon Principles and Technique of Wound Care and Learning Outcomes. Journal of The PoliceNurse, 5 (1), 10-22. (In Thai)

Yimyam, S., Chareonsanti, J., & Karnasuta, S. (2014). Developme nt of Multimedia Electronic Bookon Basic Knowledge of Breastfeeding for nursing students. Nursing Journal, 41 (4), 70-82. (In Thai)

เผยแพร่แล้ว

2020-09-18

รูปแบบการอ้างอิง

ยิ้มแย้ม ส., & สุพรรณอุดม น. (2020). การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย: คู่มือการฝึกปฏิบัติติทางคลินิกในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับนักศึกษาพยาบาลนานาชาติ. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 47(3), 84–96. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/245747

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย