การปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดของพยาบาลวิชาชีพ
คำสำคัญ:
การปฏิบัติ, การติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัด, การป้องกันการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัด, พยาบาลวิชาชีพบทคัดย่อ
การปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดที่ถูกต้องของพยาบาลวิชาชีพเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันและลดการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัด การวิจัยเชิงพรรณนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ พยาบาลวิชาชีพ จำนวน 198 คน ที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยที่ให้การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดในระยะก่อนการผ่าตัด และระยะหลังการผ่าตัด ในโรงพยาบาล 4 แห่ง สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข รวบรวมข้อมูลตั้งแต่เดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ข้อมูลทั่วไป และการปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดของพยาบาลวิชาชีพ แบบสอบถามผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 ท่าน ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ 1.00 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามได้เท่ากับ .70 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 74.2 มีการปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดในระยะก่อนการผ่าตัดที่ถูกต้องโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และระยะหลังการผ่าตัดมีการปฏิบัติที่ถูกต้องโดยรวมอยู่ในระดับสูงร้อยละ 92.9 แต่เมื่อจำแนกตามความถี่ของการปฏิบัติพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีการปฏิบัติที่ถูกต้องทุกครั้งในระยะก่อนการผ่าตัดเพียงร้อยละ 45.5 และระยะหลังการผ่าตัดร้อยละ 73.0
ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน และเป็นแนวทางในการวางแผนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้องในการป้องกันการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดของพยาบาลวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมให้พยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เกิดการปฏิบัติในป้องกันการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพ และช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
Boltz, M. M., Hollenbeak, C. S., Julian, K. G., Ortenzi, G., & Dillon, P. W. (2011). Hospital costs associated with surgical site infections in general and vascular surgery patients. Surgery, 150(5), 934-942.
Buffet-Bataillon, S., Haegelen, C., Riffaud, L., Bonnaure-Mallet, M., Brassier, G., & Cormier, M. (2011). Impact of surgical site infection surveillance in a neurosurgical unit. Journal of Hospital Infection, 77(4), 352-355.
De Faria, G., Begido, G., Nascimento do Prado, T., Lima, A., de Fátima, E., Brunet Rogenski, N. M., ... & Massaroni, L. (2016). Knowledge and practice of nurses on the care of wounds. Journal of Nursing 10(12), 4532-4538.
Gillespie, B. M., Chaboyer, W., Allen, P., Morely, N., & Nieuwenhoven, P. (2013). Wound care practices: A survey of acute care nurses. Journal of Clinical Nursing, 23(17-18), 2618-2627.
Kashimura, N., Kusachi, S., Konishi, T., Shimizu, J., Kusunoki, M., Oka, M., ... & Sumiyama, Y. (2012). Impact of surgical site infection after colorectal surgery on hospital stay and medical expenditure in Japan. Surgery today, 42(7), 639-645.
Kongkiakul, S. (2013). Health statistics. Retrieved from http://203.157.32.40/statreport/2556/statistic2556_cover.pdf
Lamkla, U., Kasetpibal, N., & Chitreecher, J. (2012). Effects of motivation on surgical site infection and practices among health personnel. Nursing Journal, 39(4), 85-96.
Li, C., Wen, X., Ren, N., Zhou, P., Huang, X., Gong, R., ... & Fu, C. (2014). Point-Prevalence of Healthcare-Associated Infection in China in 2010: A large multicenter epidemiological survey. Infection Control & Hospital Epidemiology, 35(11), 1436-1437.
Magill, S. S., Hellinger, W., Cohen, J., Kay, R., Bailey, C., Boland, B., ... & Goraczewski, L. (2012). Prevalence of healthcare-associated infections in acute care hospitals in Jacksonville, Florida. Infection Control & Hospital Epidemiology, 33(03), 283-291.
Marwati, T., Subiyanto, A. A., Mardikanto, T., Priyambodo, P., Wibowo, M., & Qomariyah, N. (2016). The impact of surgical site infection to the health care cost. International Journal of Public Health Science, 5(2), 129-133.
Morikane, K., Honda, H., Yamagishi, T., Suzuki, S., & Aminaka, M. (2014). Factors associated with surgical site infection in colorectal surgery: the Japan nosocomial infections surveillance. Infection Control & Hospital Epidemiology, 35(06), 660-666.
Polit, D.F., & Beck, C.T. (2008). Nursing Research: Generating and assessing evidence for nursing practice (8th ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins, a Wolters Kluwer.
Rosenthal, V. D., Richtmann, R., Singh, S., Apisarnthanarak, A., Kübler, A., Viet-Hung, N., ... & Dueñas, L. (2013). Surgical site infections, International Nosocomial Infection Control Consortium (INICC) report, data summary of 30 countries, 2005–2010. Infection Control & Hospital Epidemiology, 34(06), 597-604.
Shepard, J., Ward, W., Milstone, A., Carlson, T., Frederick, J., Hadhazy, E. & Perl, T. (2013). Financial impact of surgical site infections on hospitals: the hospital management perspective. Journal of the American Medical Association of Surgery, 148(10). 907-914.
Tanprasertsuk, S. (2014). Working strategies 2018. Retrieved from http://plan.ddc.moph.go.th.
World Health organization. (2009). WHO Guidelines for Safe Surgery 2009: Ten essential objectives for safe surgery. Retrieved from http://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK143246/
Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory analysis (2nd ed.). New York: Herper & Row.
Zhou, F., Hao, Y., Guo, H., & Liu, H. (2016). Attitude, knowledge, and practice on evidence-based nursing among registered nurses in traditional Chinese medicine hospitals: A multiple center cross-sectional survey in China. Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine, 2016. Retrieved from http://dx.doi.org/10.1155/2016/5478086
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
