การวิเคราะห์สถานการณ์การคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีชนเผ่าลาหู่ ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
การวิเคราะห์สถานการณ์, การคัดกรองมะเร็งเต้านม, ในสตรีชนเผ่าลาหู่บทคัดย่อ
การคัดกรองมะเร็งเต้านม เป็นการดำเนินการที่ช่วยลดอัตราป่วยและอัตราตายจากโรคมะเร็งเต้านมได้ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์การคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีชนเผ่าลาหู่ ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้กรอบแนวคิดการประเมินคุณภาพการดูแลภาวะสุขภาพของ Donabedian (2003) as cited in Kumchun(2013) ในด้านโครงสร้าง กระบวน และผลลัพธ์ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง(purposive sampling) จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 2 คน กลุ่มสตรีชนเผ่าลาหู่ที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 6 คน และกลุ่มสตรีชนเผ่าลาหู่ที่มีอายุระหว่าง 30-70 ปี จำนวน 125 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไป 2) แบบสัมภาษณ์รายบุคคล 3) แบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และจัดหมวดหมู่ข้อมูล
ผลการศึกษาพบว่า ด้านโครงสร้าง 1) มีสถานที่เพียงพอต่อการให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม 2) มีการกำหนดมาตรฐานในการดำเนินการคัดกรองมะเร็งเต้านม 3) มีคู่มือหรือแนวทางการปฏิบัติในการคัดกรองมะเร็งเต้านม 4) มีอุปกรณ์ในการคัดกรองมะเร็งเต้านมแต่ไม่เพียงพอ 5) มีงบประมาณที่ใช้ดำเนินการคัดกรองมะเร็งเต้านม 6) มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีความสามารถในการคัดกรองมะเร็งเต้านม 7) มีองค์กรหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในการคัดกรองมะเร็งเต้านม 8) มีนโยบายในการดำเนินการคัดกรองมะเร็งเต้านม และ9) มีแผนในการดำเนินการคัดกรองมะเร็งเต้านม
ด้านกระบวนการ พบว่า มีการค้นหากลุ่มเสี่ยง มีการคัดกรองมะเร็งเต้านม และมีระบบการส่งต่อเพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างครบวงจรในสตรีชนเผ่าลาหู่
ด้านผลลัพธ์ พบว่า อัตราการคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีชนเผ่าลาหู่ ต่ำกว่าร้อยละ 80 ถือว่าไม่บรรลุตามตัวชี้วัดของแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็ง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ผลการศึกษาครั้งนี้ สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแนวทางและออกแบบระบบการคัดกรองมะเร็งเต้านมที่เหมาะสมกับบริบทของสตรีชนเผ่าลาหู่ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Chiang Mai Health. (2019b). Cancer department service plan. Nonthaburi: Ministry of Public Health. (In Thai)
Department of Medical Services, Ministry of Public Health. (2018). Action plan monitoring scheme B.C. 2018. Nonthaburi: Ministry of Public Health. (In Thai)
Environmental Health Office, Department of Health, Ministry of Public Health. (2016). Healthy work place. Bangkok: Department of Health, Ministry of Public Health. (In Thai)
Kumchun, K.(2013). Situational analysis of promoting stroke warning sign perception among person with hypertension, Hang Dong Sub-District, Hang dong District, Chiang Mai Province. (Master of nursing science program in community nurse practitioner),
Graduate School, Chiang Mai University. (In Thai)
Lalitwongsa, S. (2014). Breast cancer awareness. Lampang: Lampang Cancer Hospital.
(In Thai)
National Cancer Institute, Department of Medical Services, Ministry of Public Health. (2013). Cancer in Thailand volume V, 2004-2006. Retrieved from http://www.nci.go.th/.(In Thai)
Nursing Division, Ministry of Public Health. (2019). Guidelines for referring patients between healthcare facilities for the safety of patients and staff. Bangkok: Ministry of Public Health. (In Thai)
Pa Pong Health Promoting Hospital. (2019). Registration of breast cancer screening report, fiscal year 2019. (Report) (In Thai)
Policy and Strategy Office, Ministry of Public Health. (2014). Health resource information report 2014. Nonthaburi: Ministry of Public Health. (In Thai)
Punrat, P. (2013). Principles and methods of making a manual. Bangkok: Secretary office, Kasetsart University. (In Thai)
Strategy and Planning Division, Ministry of Public Health. (2019). Standard operating procedure: SOP. Bangkok: Ministry of Public Health. (In Thai)
Vijarnpreecha, N. ( 2015 ). Integration of Buddha Dhamma principles for the strengthening the
sense of coherence and well-being of life in breast cancer patients. Graduate school,
Mahachulalongkornrajavidyalaya University.(In Thai)
Wicha, P. (2013). Effectiveness of implementing participatory learning program of breast self-examination among inmate volunteers in Chiang Mai woman correctional institution (Master of nursing science program in community nurse practitioner),
Graduate School, Chiang Mai University. (In Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว