ต้นทุนฐานกิจกรรมการบริการในหอผู้ป่วยทั่วไปโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
คำสำคัญ:
ต้นทุนฐานกิจกรรม, การวิเคราะห์ต้นทุน, หอผู้ป่วยทั่วไปบทคัดย่อ
การวิเคราะห์ต้นทุนฐานกิจกรรมทำาให้ผู้บริหารเข้าใจพฤติกรรมต้นทุนที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมบริการขององค์กร
การศึกษาเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนฐานกิจกรรมการบริการผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย
โรคอุจจาระร่วง และโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ในหอผู้ป่วยทั่วไป โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก และเปรียบ
เทียบต้นทุนฐานกิจกรรมการบริการผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย โรคอุจจาระร่วง และโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
ในหอผู้ป่วยทั่วไป โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก กับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากสำานักงานหลักประกัน
สุขภาพแห่งชาติ ประชากรในการศึกษา คือ กิจกรรมการบริการผู้ป่วยโรคโรคธาลัสซีเมีย โรคอุจจาระร่วง และโรค
ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ถึง 31 ตุลาคม 2560
กรอบแนวคิดที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ การวิเคราะห์ต้นทุนฐานกิจกรรมของแคปแพลนและคูเปอร์ ซึ่งประกอบ
ด้วย 4 ขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น ประกอบด้วย พจนานุกรมกิจกรรมการบริการ
แบบบันทึกเกี่ยวกับเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมการบริการ แบบบันทึกต้นทุนค่าแรง ค่าวัสดุ และค่าลงทุน
ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำานวน 3 ท่าน และทดสอบความเที่ยงของการสังเกต
ระหว่างผู้เก็บข้อมูล 2 คน ได้เท่ากับ 1.0 ข้อมูลที่ได้นำามาวิเคราะห์โดยใช้สถิติพรรณนา
ผลการศึกษาพบว่า
1. ต้นทุนกิจกรรมการบริการต่อการนอนโรงพยาบาล 1 ครั้ง ในผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย เท่ากับ 1,830.61 บาท
คิดเป็นสัดส่วนต้นทุนค่าแรง: ต้นทุนค่าวัสดุ: ต้นทุนค่าลงทุน เท่ากับ 53.10:45.95:0.96 ซึ่งมากกว่างบประมาณที่ได้
รับการจัดสรรจากสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เท่ากับ 600.11 บาท
2. ต้นทุนกิจกรรมการบริการต่อการนอนโรงพยาบาล 1 ครั้ง ในผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเท่ากับ 2,057.41 บาท
คิดเป็นสัดส่วนต้นทุนค่าแรง: ต้นทุนค่าวัสดุ: ต้นทุนค่าลงทุน เท่ากับ 68.89:29.57:1.53 ซึ่งน้อยกว่างบประมาณที่ได้
รับการจัดสรรจากสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เท่ากับ 546.31 บาท
3. ต้นทุนกิจกรรมการบริการต่อการนอนโรงพยาบาล 1 ครั้ง ในผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเท่ากับ
2,064.08 บาท คิดเป็นสัดส่วนต้นทุนค่าแรง: ต้นทุนค่าวัสดุ: ต้นทุนค่าลงทุน เท่ากับ 68.63:29.74:1.60 ซึ่งมากกว่า
งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เท่ากับ 643.47 บาท
ผู้บริหารโรงพยาบาลสามารถนำาผลการศึกษาไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในการบริหารกิจกรรมบริการสำาหรับผู้ป่วย
ให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรเงินจากสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นอกจากนี้กรอบแนวคิดในการวิเคราะห์ต้นทุนครั้งนี้ยังสามารถใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์ต้นทุนกิจกรรมในผู้ป่วยโรคอื่นต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Health Insurance Group. (2015). Databases. Retrieved from http://hfo60.cfo.in.th/default.aspx(In Thai)
Health Insurance Group. (2017). Databases. Retrieved from http://hfo60.cfo.in.th/default.aspx(In Thai)
Jirapattarasilp, K (2553). Time Studies. Retrieved from http://www.pteonline.org/imglib/ staff/file/komson_000822.pdf (In Thai)
Kaplan, R. S., & Cooper, R. (1998). Cost and Effect: Using integrated cost systems to driveprofitability and performance. Boston, Massachusetts: Havard Business School Press.
Khumburee, A. (2012). Cost of Nursing Activities in Inpatient Unit, Maetha Hospital, LamphunProvince (Master’s thesis, Chiangmai University). (In Thai)
National Health Security Office. (2015). National Health Security Office Fund ManagementManual fiscal year 2016 volume 1: Medical Budget Management. Bangkok: Tana Press.(In Thai)
Nursing department of Budhachinaraj Hospital. (2016). Nursing guidelines. Phitsanulok:Budhachinaraj Hospital. (In Thai)
Pattaramungkhunkat, W. (2006). Cost of Nursing Activities in Female Medical Unit, Mae ChanHospital, Chiang Rai Province (Master’s thesis, Chiangmai University). (In Thai)
Phannarunothai, S. (2001). Public health economics in the era of health system reform.Phitsanulok: Center for Health Research and Monitoring, Faculty of Medicine NaresuanUniversity. (In Thai)
Phoolcharoen, W., Chunharas, S., Wibulpolprasert, S., Chuengsatiansup, K., & Sriratanaban, J.(2000). To reform the national health system. Bangkok: Health Systems Research Institute. (In Thai)
Pitchalard, K., & Moonpanane, K. (2013). Improvement of a Continuing Care Model in Child with Thalassemia and Caregivers. Nursing Journal, 40(3), 97-108. (In Thai)
Rao, P. H., & Kabra, S. G. (2010). Use of drugs and cost of treatment of diarrhea in secondarylevel government hospitals in Maharashtra. Indian Journal of Pharmaceutical Sciences,72(3), 404-408.
Riewpaiboon, A., Nuchprayoon, I., Torcharus, K., Indaratna, K., Thavorncharoensap, M., & Ubol, B.(2010). Economic burden of Beta-Thalassemia/Hb E and Beta-Thalassemia Major in Thai
Children. Retrieved from http://www.biomedcenterl.com/1756-0500/3/29 (In Thai)
Rijiravanich, V. (2010). Work study Principles and Case Studies (7th ed). Bangkok: ChulalongkornUniversity. (In Thai)
Tangkasemsamran, K. (2007). Cost per service unit and return rate of Chattrakan Hospital. Journalof Public Health System Research, 1(2), 35-44. (In Thai)
Tienjaruwattana, W., Sakulpanitchai, T., Pongpattrachai, D., & Chiangchaisakulthai, K. (Eds.). (2011).The manual of Cost of Service place study under Ministry of Public Health. [n.p.]. (In Thai)
Wiwatwanich, S. (2009). Cost management with new nursing administrators. Journal of Northern Health, 2(2), 53-59. (In Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
