ผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อการป้องกันแผลที่เท้าในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ในชุมชน
คำสำคัญ:
โปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม, การป้องกันแผลที่เท้า, ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมได้บทคัดย่อ
อุบัติการณ์ของการเกิดแผลที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้การปฏิบัติการดูแลตนเองที่ถูกต้องของผู้ป่วยจะช่วยป้องกันการเกิดแผลที่เท้าได้ การศึกษากึ่งทดลองแบบสองกลุ่มวัดผลก่อนและหลังครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อการป้องกันแผลที่เท้าในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ในชุมชน กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของอำเภอสารภี จำนวน 52 ราย แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม 26 ราย และกลุ่มที่ได้รับคําแนะนําตามปกติจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจํานวน 26 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงานวิจัย ประกอบด้วย โปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อการป้องกันแผลที่เท้าในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมได้ในชุมชน คู่มือความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันแผลที่เท้า และคู่มือการดูแลเท้าสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานตามแนวทางเวชปฏิบัติการป้องกันและดูแลรักษาผู้ที่เป็นเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนที่เท้า 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน แบบประเมินความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวต่อการป้องกันแผลที่เท้าในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 และแบบสอบถามการปฏิบัติการป้องกันแผลที่เท้าในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมได้ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติอ้างอิง สถิติไคสแควร์, สถิติทดสอบวิลคอกซัน และสถิติแมน-วิทนีย์ ยู ตามลักษณะข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า คะแนนความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวต่อการป้องกันแผลที่เท้า และคะแนนการปฏิบัติการป้องกันแผลที่เท้าในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ภายหลังได้รับการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสูงกว่าก่อนการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001 และ p=.006 ตามลำดับ) คะแนนความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวต่อการป้องกันแผลที่เท้า และคะแนนการปฏิบัติการป้องกันแผลที่เท้าในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ภายหลังได้รับการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001 และ p=.005 ตามลำดับ) ผลการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อการป้องกันแผลที่เท้าในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ในชุมชน สามารถเพิ่มความรู้และช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติตัวในการป้องกันแผลที่เท้าที่ถูกต้องมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
Anusornteerakul, S., & Janthong, P. (2014). The effects of participatory learning program on diet control behaviors among pregnant women with gestational diabetes mellitus. Journal of Nursing Science and Health, 37(1), 52-59. (in Thai)
Chiangpiew, N. (2015). The effectiveness of foot exercise on lower extremity blood supply and leg muscle strength among type 2 diabetes mellitus patients. Thai Journal of Nursing, 61(2), 1-5. (in Thai)
Chiangmai Provincial Public Health Office. (2016). Health data center. (in Thai) Retrieved from https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/
Chiangmai Provincial Public Health Office. (2019). Health data center. (in Thai) Retrieved from https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/
Chiangmai Provincial Public Health Office. (2019). Information center. (in Thai) Retrieved from https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/all_it.php
Cohen, J. (1977). Statistical power analysis for the behavioral sciences (Rev. ed.). Washington D.C.: Lawrence Erlbaum Associates.
Department of Mental Health. (2001). Information center. (in Thai) Retrieved from http://dmsic.moph.go.th/index/detail/8297
Khammanee, T. (2014). Media management powered. (in Thai) Retrieved from http://doc2.clib.psu.ac.th/public13/266172.pdf
Kolb, D. A. (1984). Participatory learning approach: A research agenda. Technical Report Version 1.0.
Ministry of Public Health. (2017). Health data center. (in Thai) Retrieved from https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index.php
Piromchom, A., & Hansakul, A. (2012). Factors influenced with self-care behaviors in type 2 diabetes mellitus patients in Nongbuarawae District, Chaiyaphum Province. (in Thai)
Prakaisakun, J., Sirisawang, W., & Chawapong, W. (2018). Quality of life of non-insulin dependent diabetes patients at Sarapee Hospital, Chiang Mai Province. Ganesha Journal, 14(1), 1-15. (in Thai)
Siriniyomchai, C., Boonnak, N., Sriwongwant, S., & Wannachai, P. (2019). Development of Foot Care Model among patients with diabetes mellitus in community: A Case Study of Sunpuloei Community. Nursing Science Journal of Thailand, 37(2), 13-25. (in Thai)
Siriniyomchai, C. (2019). Nurse’s Roles in management of diabetic foot ulcers. Siriraj Med Bull, 12(2), 132-139. (in Thai)
Sawanyavisuthi, P., & Sanchaisuriya, P. (2013). The effectiveness of participatory learning process to modify food consumption behavior of diabetes mellitus type 2 patients with nephropathy attending Kumphawapi Primary Care Unit, Udonthani Province. KKU Journal for Public Health Research, 7(1), 1-8. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว