การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการกองทุนการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีภาวะพึ่งพิงขององค์การบริหารส่วนตำบลเตย อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี

บทคัดย่อ

           ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณสนับสนุนผู้สูงอายุ การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์การจัดการกองทุน พัฒนารูปแบบการจัดการกองทุนและประเมินรูปแบบการบริหารจัดการกองทุน กระบวนการวิจัยประกอบด้วยสามขั้นตอน ได้แก่ 1) ศึกษาสถานการณ์การบริหารจัดการกองทุน 2) การพัฒนารูปแบบการจัดการกองทุน และ 3) การประเมินรูปแบบการบริหารจัดการกองทุน ผู้เข้าร่วมการวิจัยประกอบด้วยผู้ให้ข้อมูลหลัก 40 คน ที่เป็นกรรมการกองทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ตำบลเตย อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี คัดเลือกด้วยวิธีการเจาะจง เครื่องมือรวบรวมข้อมูล ได้แก่  1) แบบสอบถาม ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุน  และแบบสอบถามการบริหารจัดการกองทุน 2) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม และ 3) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา สถิติเชิงพรรณนา และสถิติ Paired t-test                 ผลการศึกษา พบว่า สถานการณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนการดูแลระยะยาว (LTC) กองทุนยังไม่มีการอนุมัติแผนดูแลผู้ป่วยรายบุคคล นักบริบาลยังไม่ได้ทำหน้าที่ตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง กองทุนยังไม่มีการเบิกจ่ายงบกองทุนทำให้มีเงินคงค้างเท่าเดิมโดยไม่มีการเบิกจ่าย ขาดการประสานงานความร่วมมือระหว่างคณะอนุกรรมการกองทุน LTC กับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ คณะกรรมการกองทุนยังไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ตนเอง และขาดทิศทางการพัฒนากองทุนที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุน สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการกองทุนที่พัฒนาขึ้นเรียกว่า CARE TOEI Model ประกอบด้วย การมีแผนงานร่วมกัน มีเป้าหมายที่ชัดเจน ผู้นำมีความรับผิดชอบ มีคณะกรรมการกองทุนที่ชัดเจน มีการติดตามและประเมินผล มีข้อมูลชัดเจน ทันสมัย ซึ่งเมื่อนำไปทดลองใช้แล้วพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับกองทุนฯ อยู่ในระดับดี (ร้อยละ 87.50) และ มีการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก รูปแบบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ภายหลังการใช้รูปแบบการบริหารจัดการกองทุน LTC ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างมีผลต่างค่าเฉลี่ยของคะแนนภาพรวมการบริหารจัดการกองทุน (M = 159.07, SD = 16.82) ซึ่งคะแนนเพิ่มขึ้น 27.00 คะแนน (95% CI = 17.33-36.66) ด้านผลการดำเนินงาน มีคะแนนเฉลี่ย (M = 33.87, SD = 4.73) ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสมมากที่สุด มีคะแนนเพิ่มขึ้น 7.37 คะแนน (95 % CI = 4.59 -10.15) และ ด้านภาวะผู้นำองค์กร มีคะแนนเฉลี่ย (M = 41.9, SD = 5.56) มีคะแนนเพิ่มขึ้น 6.55 คะแนน (95% CI = 3.70 - 9.39) ตามลำดับ
          ผลการวิจัยนี้เป็นประโยชน์กับคณะกรรมการกองทุน ที่สามารถนำรูปแบบการบริหารจัดการกองทุนที่พัฒนาขึ้นไปประยุกต์ใช้ดำเนินการในพื้นที่ เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม