ผลของโปรแกรมการป้องกันลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำส่วนลึกต่อ ความเร็วในการไหลเวียนของเลือดดำและสัดส่วนการเกิดลิ่มเลือด อุดตันหลอดเลือดดำส่วนลึกในผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม

บทคัดย่อ

ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก เป็นภาวะแทรกซ้อนอันตรายในผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม พยาบาลมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการไหลเวียนของหลอดเลือดดำที่ขาหนีบเพื่อลดความเสี่ยงนี้ การวิจัยเชิงทดลอง วัดผลก่อนและหลังการทดลอง แบบพร้อมกันทั้ง 2 กลุ่มนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการป้องกันลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำส่วนลึกในผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม เก็บข้อมูลจากผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมที่มีคะแนนออทาร์ ระดับมากกว่าหรือเท่ากับ 11 คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยการสุ่มอย่างง่าย จับสลากเข้ากลุ่มละ 25 คน เครื่องมือดำเนินการวิจัย ได้แก่ 1) โปรแกรมการป้องกันลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำส่วนลึก สำหรับผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม 2) แบบบันทึกผลลัพธ์ ประกอบด้วย แบบบันทึกความเร็วการไหลเวียนเลือดดำที่ขาหนีบ และแบบบันทึกการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำส่วนลึก เครื่องมือวิจัยผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาและความเชื่อมั่นแล้ว  วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติ repeated measurement analysis of variance 

ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยความเร็วในการไหลเวียนของเลือดดำบริเวณขาหนีบ ในกลุ่มควบคุมไม่แตกต่างกัน (p = 1.00) ในการวัดทั้ง 3 วัน แต่ในกลุ่มทดลองวันที่ 1 กับวันที่ 6 และวันที่ 3 กับวันที่ 6 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = .001 และ .004 ตามลำดับ) การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความเร็วในการไหลเวียนของเลือดดำบริเวณขาหนีบระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง พบว่าวันที่ 1 วันที่ 3 และวันที่ 6 ทั้งสามวัน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = .001) และทั้งสองกลุ่มไม่เกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำส่วนลึก

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า โปรแกรมนี้ทำให้การไหลเวียนของเลือดดำที่ขาหนีบเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำส่วนลึกได้