การพัฒนารูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด โรงพยาบาลนครพิงค์
คำสำคัญ:
รูปแบบการพยาบาล, หญิงตั้งครรภ์, ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดบทคัดย่อ
รูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด สามารถตอบสนองความต้องการของหญิงตั้งครรภ์ และมีประสิทธิผลในการยืดระยะเวลาการตั้งครรภ์ออกไปได้ การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและศึกษาผลการใช้รูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ภายใต้บริบทของห้องคลอด โรงพยาบาลนครพิงค์ โดยดำเนินการวิจัยเป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) วิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ 2) พัฒนารูปแบบการพยาบาล 3) นำรูปแบบไปทดลองใช้ 4) นำรูปแบบไปปฏิบัติและประเมินผล และ 5) วิเคราะห์และสรุปผล กลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ได้แก่ พยาบาลวิชาชีพและพยาบาลผู้จัดการรายกรณี โรงพยาบาลนครพิงค์ จำนวน 16 คน และหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดที่เข้ารับการรักษาที่ห้องคลอด โรงพยาบาลนครพิงค์ จำนวน 62 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มก่อนการนำรูปแบบมาใช้ จำนวน 32 คน และกลุ่มศึกษา คือ กลุ่มที่ใช้รูปแบบการพยาบาล จำนวน 30 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม การสังเกตแบบมีส่วนร่วม และศึกษาเวชระเบียน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ด้วยสถิติเชิงพรรณนา สถิติ independent t-test และ chi-square test
ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดตามบริบทของโรงพยาบาลคนครพิงค์ โดยการใช้พยาบาลผู้จัดการรายกรณี ประกอบด้วย 2 ระยะ คือ
1. พยาบาลผู้จัดการรายกรณี ทำหน้าที่ 1) ประเมินปัญหาและคัดกรอง 2) วางแผนการดูแลตั้งแต่ระยะแรกรับ ถึงจำหน่าย 3) ให้การพยาบาล 4) ติดตามเยี่ยมทางโทรศัพท์/ไลน์ และ 5) ประเมินผล
2. แนวปฏิบัติการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ตามมาตรฐานการปฏิบัติการพยาบาลบริการคลอด ประกอบด้วย 1) การพยาบาลระยะก่อนคลอด 2) การพยาบาลในระยะคลอด 3) การพยาบาลในระยะหลังคลอด 2 ชั่วโมง ด้านผลลัพธ์การใช้รูปแบบการพยาบาลพบว่า พยาบาลมีการปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติการพยาบาลได้อย่างครบถ้วน และมีความคิดเห็นต่อการใช้รูปแบบการพยาบาลในระดับเห็นด้วยมากที่สุด หญิงตั้งครรภ์มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการพยาบาลในระดับมากที่สุด รูปแบบการพยาบาลที่นำมาใช้สามารถช่วยยืดระยะเวลาการตั้งครรภ์ได้นานกว่า 48 ชั่วโมง อายุครรภ์เมื่อคลอดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 32.2 สัปดาห์ เป็น 37.04 สัปดาห์ และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเฉลี่ยลดลงจาก 105,638.05 บาท เหลือ 38,439.93 บาท แตกต่างกับกลุ่มก่อนใช้รูปแบบการดูแลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.001) ภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกมีแนวโน้มลดลงจากร้อยละ 9.4 เหลือ 0
สรุปได้ว่า รูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดที่พัฒนาขึ้นสามารถยืดอายุครรภ์ได้ อายุครรภ์เมื่อคลอดเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลดลง และลดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
เอกสารอ้างอิง
Baosoung, C. (2018). Nursing care of pregnant women with premature contraction. In N. Sansiriphan & C. Baosoung (Eds.), Nursing and midwifery: Women with complications (2nd ed., pp. 244-259). Chiang Mai University. (in Thai)
Case Management Society of America. (2016). Standards of practice for case management. Little Rock.
Cherngchawano, K., Chanthathip, W., & Boongthong, J. (2023). Development of nursing for pregnant to preterm labour, Sisaket Hospital. Journal of Nursing and Health Care, 41(1), e260934. https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jnat-ned/article/view/260934/176727 (in Thai)
Choijorhor, R., Serisathien, Y., Ratinthorn, A., & Kovavisarach, E. (2009). The effects of nursing therapeutics on preventive management of preterm labor, readmission and gestational age at birth in pregnant women with preterm labor. Nursing Science Journal of Thailand, 27(2), 39-48. (in Thai)
Cunningham, F. G., Leveno, K. J., Dashe, J. S., Hoffman, B. L., Spong, C. Y., & Casey, B. M. (2022). Williams obstetrics (26th ed.). McGraw-Hill.
Department of Medical Services. (2023). Guidelines for preventing preterm birth in Thailand. Department of Medical Services, Ministry of Public Health.
Kaewkongtham, W. (2017). Case management in women with preterm labor. In T. Kolatat & C. Jaratthong (Eds.), Premature birth solving Thailand's problems (pp. 72-77). Advance Printing Service. (in Thai)
Kosai, N., Baosoung, C., & Kantaruksa, K. (2011). Effectiveness of implementing clinical practice guidelines for care of women with preterm labor, labor unit, Sukhothai Hospital. Nursing Journal, 38(3), 30-41. (in Thai)
Maneechot, K., & Nangkla, N. (2017). The development of the care model for pregnant women with preterm labor at Maharaj Nakhon Si Thammarat Hospital. Journal of Nursing Division, 44(2), 7-25. https://search.tci-thailand.org/article.html?b3BlbkFydGljbGUmaWQ9MjE2MjY4 (in Thai)
Office of Nursing. (2007). Nursing standards in hospitals. Thammasat Printing Press. (in Thai)
Policy and Planning Information Center Nakornping Hospital. (2020). Pregnant women with preterm labor statistics. Nakornping Hospital. (in Thai)
Senthiri, P., Srisong, S., Pomprakai, R., & Permchat, M. (2016). Development of the nursing model for pregnant women to prevent preterm labour. Journal of Nursing and Health Care, 34(2), 164-173. (in Thai)
Thongchai, C., & Nantachaipan, P. (2004). Opinion survey on the use of the guideline. Faculty of Nursing Chiang Mai University. (in Thai)
Vanapirak, C., & Thongsong, T. (2021). Labor pain and premature birth. In T. Thongsong, (Ed.), Obstetrics (6th ed., pp. 248-268.). Department of Obstetrics and Gynecology, Faculty of Medicine, Chiang Mai University. (in Thai)
World Health Organization. (2023). Preterm birth. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/preterm-birth
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว